กรุงเทพโพลล์ระบุคนส่วนใหญ่ 72.3% มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ ม.44 ค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด

Posted: 03 Mar 2017 09:03 PM PST  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)

กรุงเทพโพลล์เผยผลสำรวจพบประชาชนส่วนใหญ่ 72.3% มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ ม.44 ค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด เมื่อถามถึง ม.44 ส่วนใหญ่ 47.5% จะนึกถึง ความสงบสุขเรียบร้อย ชี้ ม.44 ปราบทุจริตในวงราชการ และห้ามชุมนุมประท้วง ช่วยให้สถานการณ์ประเทศดีขึ้นมากที่สุด 62.6% เชื่อมั่น ม.44 พาประเทศเดินหน้าปฏิรูปได้สำเร็จ 78.4% ยังอยากให้มี ม.44 ต่อไป ภายหลังการเลือกตั้งเรียบร้อยแล้ว


4 มี.ค. 2560 กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “ม.44 กับการเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย” โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,279 คน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 72.3 มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ ม.44 ค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด ขณะที่ร้อยละ 24.0 มีความรู้ความเข้าใจค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ที่เหลือร้อยละ 3.7 ไม่แน่ใจ

เมื่อถามถึง ม.44 ประชาชนจะนึกถึงอะไรมากที่สุด พบว่า อันดับแรก นึกถึงความสงบสุขเรียบร้อย (ร้อยละ 47.5) รองลงมา นึกถึงอำนาจ การบังคับใช้กฎหมาย (ร้อยละ 32.9) ความเด็ดขาด (ร้อยละ 23.2) การปราบปราม (ร้อยละ 17.7)
และรวดเร็ว สั่งการได้ทันที (ร้อยละ 16.2)

สำหรับเรื่องที่คิดว่าใช้ ม.44 แล้วทำให้สถานการณ์ประเทศดีขึ้นมากที่สุดคือ การปราบทุจริตคอร์รัปชั่นในวงราชการ (ร้อยละ 50.9) รองลงมาคือ การห้ามชุมนุมประท้วง (ร้อยละ 45.7) การปราบปรามยาเสพติด (ร้อยละ 42.2) การปราบปรามมาเฟีย ผู้มีอิทธิพล (ร้อยละ 40.0) และการบุกจับพระธัมมชโย (ร้อยละ 25.9)

เมื่อถามถึงความเชื่อมั่นต่อการใช้ ม.44 จะสามารถทำให้ประเทศไทยเดินหน้าปฏิรูปได้สำเร็จ พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 62.6 เชื่อมั่นค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ขณะที่ร้อยละ 29.8 เชื่อมั่นค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด ส่วนร้อยละ 7.6 ไม่แน่ใจ

สุดท้ายเมื่อถามความเห็นว่าภายหลังจัดการเลือกตั้งเรียบร้อยแล้ว ควรมีการใช้ ม.44 ควบคุมสถานการณ์ประเทศอีกหรือไม่พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 78.4 เห็นว่าควร มีต่อไป โดยในจำนวนนี้ ร้อยละ 60.7 เห็นว่าควรมีต่อไปแต่อยากให้ใช้เฉพาะในบางสถานการณ์ที่รัฐบาลไม่อาจควบคุมได้ รองลงมา ร้อยละ 17.7 อยากให้ใช้เพื่อควบคุมความสงบสุขของประเทศ ขณะที่ร้อยละ 19.3 เห็นว่า ไม่ควรมีเพราะประเทศจะได้เดินหน้าสู่ประชาธิปไตย มีเพียงร้อยละ 2.3 ไม่แน่ใจ

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.