คนเกาหลีใต้เริ่มชอบจีนน้อยกว่าชอบญี่ปุ่น-หลังจีนตอบโต้เพราะให้สหรัฐฯ ติดตั้ง THAAD

Posted: 30 Mar 2017 01:01 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)

สถาบันวิจัยคาบสมุทรเกาหลีสำรวจความคิดเห็นชาวเกาหลีใต้ พบความชื่นชอบต่อจีนแผ่นดินใหญ่ลดลงอย่างมาก เมื่อเทียบกับญี่ปุ่น หลังจากที่จีนใช้ไม้แข็งคว่ำบาตรวัฒนธรรมเกาหลีและโจมตีบริษัทล็อตเต เพื่อตอบโต้เกาหลีใต้อนุญาตให้สหรัฐฯ ติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธ THAAD หลายเป็นประเด็นความสัมพันธ์ที่น่าจับตามองของชาติมหาอำนาจกับอิทธิพลในคาบสมุทรเกาหลี


กองทัพสหรัฐเมริกาที่ฐานทัพยองซาน กรุงโซล ระหว่างลำเลียงอุปกรณ์เพื่อติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธระบบ THAAD สำหรับเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2017 หลังจากที่เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลางและพิสัยไกลหลายหน (ที่มา: Flickr/U.S. Pacific Command)

30 มี.ค. 2560 สถาบันอาซานเพื่อการวิจัยนโยบาย (Asan Institute for Policy Studies) ซึ่งเป็นสถาบันอิสระไม่สังกัดฝ่ายที่ทำการศึกษาเรื่องนโยบายที่เกี่ยวข้องกับสันติภาพและเสถียรภาพของคาบสมุทรเกาหลี เปิดเผยรายงานระบุว่าหลังจากที่เกาหลีใต้ยอมให้สหรัฐฯ ติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธข้ามทวีปในชั้นบรรยากาศปลายทาง (Terminal High Altitude Area Defense หรือ THAAD) ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้กับจีนและสหรัฐฯ อย่างกระทันหัน

ระบบป้องกันขีปนาวุธดังกล่าวจะมีการติดตั้งภายในช่วงใดช่วงหนึ่งของปี 2560 แต่ในช่วงเดือนมีนาคมก็มีชิ้นส่วนจำนวนหนึ่งของ THAAD ส่งถึงเกาหลีใต้แล้ว เรื่องนี้ทำให้ทางการจีนโต้ตอบด้วยความไม่พอใจ โดยมีการสั่งห้ามนำเข้าสินค้าทางวัฒนธรรมของเกาหลีและมีการปราบปรามการท่องเที่ยวเกาหลีด้วย บริษัทใหญ่ของเกาหลีคือลอตเต้กรุ๊ปที่ให้ความร่วมมือเรื่องการอนุญาตติดตั้ง THAAD บนเกาะซองจูก็ถูกตอบโต้จากรัฐบาลจีนเช่นกันและผู้บริโภคในจีนเองก็บอยคอตต์ไม่ใช้สินค้าจากลอตเต้

เหตุการณ์นี้ยังเป็นการเดินหมากของทั้งฝ่ายทางการสหรัฐฯ และฝ่ายทางการจีนในช่วงสูญญากาศทางอำนาจหลังถอดถอนประธานาธิบดี พัก กึนเฮ ของเกาหลีใต้ สหรัฐฯ ประเมินว่าหลังจากนี้เกาหลีใต้มีโอกาสสูงที่จะได้รัฐบาลสายก้าวหน้าพวกเขาจึงรีบเร่งติดตั้ง THAAD ให้เร็วที่สุด ส่วนจีนเน้นให้ผู้คนเอาความไม่พอใจไปทุ่มใส่บริษัทลอตเต้แต่ก็ไม่ได้ขยายความกล่าวโทษบริษัทสัญชาติเกาหลีอื่นๆ โดยทางสถาบันอาซานยังวิเคราะห์ว่าจีนน่าจะกำลังรอดูรัฐบาลใหม่ของเกาหลีใต้เพื่อขอความร่วมมือกับพวกเขา

สถาบันอาซานระบุว่ามันเป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจมาก พวกเขาต้องเผชิญกับวิกฤตทางการเมืองในประเทศตัวเอง ได้เห็นโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ และเห็นคาบสมุทรเกาหลีกลายเป็น "ลานสู้รบ" ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ในเรื่อง THAAD แล้วชาวเกาหลีใต้เองคิดอย่างไรกับเรื่องนี้?

จากคำถามนี้ สถาบันอาซานทำการสำรวจชาวเกาหลีใต้ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา พบว่าชาวเกาหลีใต้มีความชื่นชอบประเทศจีนน้อยลงจนอยู่ในระดับต่ำกว่าความชื่นชอบประเทศญี่ปุ่นแล้ว ซึ่งความชอบที่น้อยลงนี้มาจากการที่จีนตอบโต้เรื่อง THAAD ในขณะเดียวกันชาวเกาหลีใต้ก็มีความชื่นชอบในสหรัฐฯ ลดลงเล็กน้อยด้วย

ผลสำรวจของอาซานระบุอีกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดือนพฤศจิกายน 2559 แล้วในตอนนี้มีชาวเกาหลีใต้สนับสนุนการติดตั้ง THAAD มากขึ้นและมีผู้ต่อต้านการติดตั้งน้อยลง ซึ่งคนกลุ่มที่สนับสนุนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นคนอายุ 60 ปี ที่มีแนวโน้วสนับสนุนปาร์กกึนฮเยและติดจุดยืนต่อต้านจีนตามผู้นำ โดยรวมๆ แล้วชาวเกาหลีใต้ต่างก็แสดงทัศนคติทางลบกับส่งทีพวกเขามองว่าเป็นการแทรกแซงอย่างเกินเลยจากประเทศมหาอำนาจในประเด็นคาบสมุทรเกาหลี


ชาวเกาหลีใต้กับความชื่นชอบประเทศต่างๆ

ผลสำรวจของอาซานระบุว่าจากคะแนนความชื่นชอบจาก 0-10 (ชอบน้อยที่สุดไปจนถึงชอบมากที่สุด) คะแนนความชอบจีนของพวกเขาลดลงจาก 4.31 ในเดือนมกราคมเหลือ 3.21 ในเดือนมีนาคมแตกต่างโดยสิ้นเชิงกับช่วงปี 2558 หลังจาก พัก กึนเฮ เข้าร่วมพิธีสวนสนามกองทัพที่จัตุรัสเทียนอันเหมินแะแสดงท่าทีเป็นมิตรกับผู้นำจีน และยิ่งกว่านั้นคือความชื่นชอบจีนของเกาหลีในตอนนี้ลดลงต่ำกว่าญี่ปุ่น (3.33 คะแนน) เสียอีก จากทีญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ได้คะแนนความชอบต่ำเสมอมาในสายตาของชาวเกาหลี ยิ่งหลังจากมีกรณีขัดแย้งเรื่องรูปปั้น "หญิงบำเรอ" ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อเดือนธันวาคม 2559 แล้วก็ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น ถดถอยลง แต่จากการสำรวจแล้วคะแนนความชอบญี่ปุ่นลดลงเล็กน้อย ขณะที่จีนคะแนนความชืนชอบลดลงมากกว่า ซึ่งน่าจะเป็นเพราะพวกเขาไม่ชอบการตอบโต้ทางเศรษฐกิจของจีนในกรณี THAAD

ในด้านของสหรัฐฯ นั้นชาวเกาหลีใต้ยังให้คะแนนสูงพอสมควรแต่ก็ลดลงเล็กน้อยจาก 5.77 ในเดือนมกราคมเหลือ 5.71 ในเดือนมีนาคมแต่ก็เป็นจำนวนที่ไม่มีนัยสำคัญมากเท่ากับกรณีจีน อย่างไรก็ตามในประวัติศาสตร์แล้วชาวเกาหลีมักจะแสดงการต่อต้านอย่างแข็งขันเมื่อเหล่ามหาอำนาจแย่งชิงคาบสมุทรเกาหลีหรือแทรกแซงประเด็นภายในของเกาหลีใต้

อาซานมองว่าความชื่นชอบจีนของกลุ่มคนสูงวัยในเกาหลีใต้ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบในรัฐบาลปาร์กกึนฮเยด้วย อย่างเมื่อช่วงรับบาลปาร์กกึนฮเยสนับสนุนจีนคนอายุ 50 ปีขึ้นไป ก็มีท่าทีสนับสนุนจีนตาม หมายความว่าคนสูงวัยในเกาหลีใต้แค่มีทัศนคติในเรื่องต่างๆ เอนเอียงตามผู้นำในยุคนั้นเท่านั้นเอง ไม่นับว่าคนสูงอายุในเหาหลีใต้ยังมักจะเป็นพวกอนุรักษ์นิยมจัดในประเด็นเรื่องความมั่นคง แต่เมื่อพิจารณาจากกราฟแล้วความชื่นชอบจีนลดลงอย่างมีนัยสำคัญในหมูประชากรชาวเกาหลีอายุ 20-29 ปีและ 30-39 ปีด้วยเช่นกัน

เมื่อเทียบกับกรณีความชื่นชอบสหรัฐฯ แล้ว การสำรวจโดยอาซานในช่วงเดือนมกราคมกับเดือน มีนาคมพบว่ามีคะแนนขึ้นลงแตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุมากกว่า ส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับกลางๆ (5 คะแนน) แต่คนสูงวัยอายุ 60 ปีขึ้นไป ดูจะช่นชอบสหรัฐฯ มากขึ้น ส่วนกลุ่มช่วงอายุที่ชื่นชอบสหรัฐฯ ลดลงมากจะเป็นกลุ่มอายุ 40-49 ปี อีกกลุ่มหนึ่งที่น่าสนใจคือกลุ่มช่วงอายุ 20-29 ปี ที่ก่อนหน้านี้มีความชื่นชอบสหรัฐฯ มากเช่นเดียวกับกลุ่มประชากรสูงวัยแต่ในปัจจุบันมีความชื่นชอบลดลง อาซานประเมินว่าแนวคิดสนับสนุนสหรัฐฯ ในเกาหลีน่าจะมาจากแนวคิดอนุรักษ์นิยมในประเด็นความมั่นคงและความชื่นชอบอำนาจอ่อน (soft power) แบบของสหรัฐฯ


ความชื่นชอบผู้นำ

ในแง่การสำรวจความชื่นชอบผู้นำประเทศต่างๆ ได้แก่ โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ สีจิ้นผิงของจีน และชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น นั้น อาซานมองว่าความชื่นชอบในตัวทรัมป์จากเดิมอยู่ที่ราว 1 คะแนน หลังทรัมป์ชนะการเลือกตั้งชาวเกาหลีก็ดูจะแสดงการชื่นชอบทรัมป์เพิ่มากขึ้นเป็น 3 คะแนน แต่ก็ลดลงพอสมควรในช่วงเดือนมีนาคมทำให้อาซานประเมินว่าความชอบหรือไม่ชอบในตัวทรัมป์ไม่ได้ส่งผลต่อความชื่นชอบในประเทศสหรัฐฯ น่าจะเพราะว่าเกาหลีใต้มองสหรัฐฯ เป็นประเทศพันธมิตรทางการทหารและมองประเทศสหรัฐฯ ในเชิงบวก

ขณะที่ความชื่นชอบในผู้นำสีจิ้นผิงของจีนนั้นจากเดิมที่อยู่ในระดับ 4 คะแนนมาโดยตลอดในเดือน มีนาคมชาวเกาหลีใต้ชื่นชอบสีจิ้นผิงลดลงเหลือ 2.93 คะแนน นั่นเป็นไปได้ว่ากรณีการโต้ตอบเรื่อง THAAD ของจีนไม่เพียงส่งผลต่อความชื่นชอบประเทศจีนลดลงแต่ยังส่งผลต่อความชื่นชอบผู้นำจีนลดลงด้วย


ข้อสรุป

สถาบันอาซานสรุปว่าในขณะที่เกาหลีใต้กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลหลังปาร์กกึนฮเยออกจากตำแหน่งและกำลังจะมีการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ พวกเขาก็ต้องเผชิญแรงกดดันจากจีนกับสหรัฐฯไป พร้อมๆ กัน โดยที่การตอบโต้ของจีนต่อกรณี THAAD สร้างความเสียหายต่อการส่งออกวัฒนธรรมของเกาหลีใต้และต่อบริษัทเกาหลีใต้ในจีน ขณะเดียวกันอิทธิพลการเมืองภายในก็ส่งผลต่อทัศนคติของชาวเกาหลีใต้ต่อประเด็นการติดตั้ง THAAD โดยสหรัฐฯ อย่างเรื่องการสนับสนุนหรือการต่อต้านรัฐบาล เช่นกลุ่มคนหนุ่มสาวที่ต่อต้านปาร์กกึนฮเยมอง THAAD ในแง่ลบไปด้วยแม้ว่าพวกเขาจะมีแนวคิดเรื่องความมั่นคงของชาติในเชิงมอนุรักษ์นิยม

อย่างไรก็ตามสิ่งทีเห็นได้ชัดคือความชื่นชอบจีนแผ่นดินใหญ่ในสายตาชาวเกาหลีใต้ลดลงอย่างมากจากวิธีการตอบโต้เชิงเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของจีน ขณะที่สหรัฐฯ นั้นแม้คนสูงอายุชาวเกาหลีใต้จะสนับสนุนมากขึ้นแต่ต้องคอยดูท่าทีกลุ่มอายุ 20-29 ปี และ 40-49 ปี ที่มองสหรัฐฯ แย่ลง อีกทั้งภาพลักษณ์ของทรัมป์ที่คนไม่ค่อยชอบก็อาจจะกลายเป็นอุปสรรคของสหรัฐฯ ในอนาคตได้ด้วย

ทั้งนี้สิ่งที่น่าประเมินกันต่อไปในอนาคตคือความไม่แน่นอนของเกาหลีใต้ว่าจะเลือกผู้นำคนใหม่จะเป็นอย่างไรต่อไป ที่แน่ๆ ไม่ว่าจะมีการติดตั้งระบบป้องกัน THAAD หรือไม่ เกาหลีใต้ก้มีแนวโน้มสนับสนุนสหรัฐฯ มากกว่าจีนในระยะยาว กลุ่มมหาอำนาจจึงต้องคำนึงว่าการเปลี่ยนแปลงความคิดเห็นของประชาชนเช่นนีมีความสำคัญเพื่อประเมินความเปลี่ยนแปลงและปรับความสัมพันธ์กับเกาหลีใต้ต่อไป



เรียบเรียงจาก

Changing Tides: THAAD and Shifting Korean Public Opinion toward the United States and China, Asan Institute for Policy Studies, 20-03-2017

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.