ประยุทธ์ แจงเปิดกล้องวงจรปิด ปมวิสามัญฯ ชัยภูมิ ไม่ได้ เหตุกระทบต่อคดี

Posted: 28 Mar 2017 12:24 PM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)

หลัง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร แฉมีกลุ่มทหารแทรกแซงเนื้อหาร่าง พ.ร.บ. ปิโตรเลียมแห่งชาติ จัดตั้งบรรษัทน้ำมัน พล.อ.ประยุทธ์ โต้ไม่มีแนวคิดให้ทหารควบคุมกิจการพลังงาน ยันดำเนินการตามกฎหมายหากมีการรวมกลุ่มประท้วง ย้ำต้องปฏิรูประบบการศึกษา


28 มี.ค. 2560 รายงานข่าวระบุว่า ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่สังคมต้องการให้มีการเปิดเผยกล้องวงจรปิดวิสามัญ ชัยภูมิ ป่าแส นักกิจกรรมชาวล่าหู่ ที่ถูกทหารวิสามัญฯ ว่า การเปิดเผยกล้องวงจรปิดกรณีดังกล่าวยังไม่สามารถเปิดเผยได้ จนกว่าจะมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงแล้ว จึงจะสามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นพยานวัตถุ และจะกระทบต่อคดี ซึ่งตอนนี้ฝ่ายกฎหมายกำลังดำเนินการพิจารณาอยู่ ขออย่ารีบตัดสิน หากพิสูจน์แล้วมีความผิดต้องลงโทษตามกฎหมายไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม
ไม่มีแนวคิดให้ทหารควบคุมกิจการพลังงาน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีออกมาระบุว่ามี กลุ่มทหารเข้ามาแทรกแซงเนื้อหาร่าง พ.ร.บ. ปิโตรเลียมแห่งชาติ โดยให้จัดตั้งบรรษัทน้ำมันขึ้นมาว่า ต้องทำความเข้าใจกันใหม่ กฎหมายฉบับนี้เริ่มตั้งแต่ปี 2557 พยายามจะออกมาก่อนหน้าที่ตนจะเข้ามาตำแหน่ง แต่ยังออกไม่ได้ เพราะหลายฝ่ายมีความคิดเห็นต่างกัน ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ได้รับฟังและรวบรวมข้อคิดเห็นเหล่านั้นส่งไปที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อให้คณะกรรมาธิการพลังงาน พิจารณา

ส่วนที่มีการมองว่าแอบใส่การจัดตั้งบรรษัทน้ำมัน เพื่อหวังให้ทหารเข้าไปดำเนินการนั้น ไม่ใช่หน้าที่ของกรมพลังงานทหาร ซึ่งมีหน้าที่จำกัด ไม่สามารถทำได้ และไม่มีใครคิดนำผลประโยชน์มาเป็นของทหาร ฉะนั้นขอให้เข้าใจว่า เป็นข้อเสนอของภาคประชาชนจากหลายเครือข่ายเท่านั้น โดยคณะกรรมการวิสามัญได้พิจารณา และเคยแถลงเมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2559 ว่าภาคประชาชนต้องการให้บรรจุการจัดตั้งบรรษัทน้ำมันเข้าไปด้วย ซึ่งเป็นเรื่องของ สนช.ที่จะเป็นผู้พิจารณา

“ผมไม่เคยมีแนวคิดอะไรที่จะให้ทหารเข้ามาดูแลทั้งสิ้น สิ่งที่รัฐบาลต้องการคือให้ พ.ร.บ.ปิโตรเลียมออกมาให้ได้ เพราะต้องดูเรื่องการลงทุนการขุดเจาะน้ำมัน ซึ่งมีหลายพื้นที่จะต้องมีการทำสัมปทาน ตอนนี้ยังไม่รู้ เนื่องจากวันข้างหน้าพลังงานเราจะขาดแคลน ไม่ใช่ว่าทำพรุ่งนี้ แล้วสามารถสร้างหรือเจาะแหล่งพลังงานได้ทันที ต้องใช้เวลาอีก 5 – 6 ปี กว่าบริษัทเขาจะเริ่มลงทุน ตัดสินใจหาเงินกู้ จึงต้องรีบทำในวันนี้ แต่หลายคนก็ชอบคิดว่าทำไมต้องรีบทำ แล้วก็ไม่ทัน หลายประเทศก็ไปลงทุนที่อื่น ไม่มาลงทุนประเทศที่มีปัญหาขนาดนี้ เพราะวุ่นวายไปหมด ทั้งที่ข้อมูลพื้นฐานเขารู้ว่าน้ำมันเรามีมากน้อยแค่ไหน สิ่งสำคัญเราเองไม่ยอมรับ กลุ่มพวกนี้ไม่เข้าใจทั้งสิ้น เรื่องนี้จะผิดหรือถูกไม่พิจารณากันมา ผมขี้เกียจยุ่งเกี่ยวด้วย ถ้ามันไม่ได้ขึ้นมาก็รับผิดชอบด้วยแล้วกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ยันดำเนินการตามกฎหมายหากมีการรวมกลุ่มประท้วง

ต่อกรณีคำถามการเร่งรัดพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม เพื่อจัดบรรษัทน้ำมันจะนำไปสู่ความขัดแย้งหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จากการสร้างการรับรู้ที่ภาคใต้เรื่องพลังงาน เพื่อให้เกิดความเข้าใจปรากฏว่าไม่ค่อยเข้าใจกัน และเข้าใจไม่ตรงกันหมดเลย จึงเป็นสาเหตุของความขัดแย้ง และท้ายที่สุดเราก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนเดิม พร้อมกล่าวยืนยันว่า หากมีการมาประท้วงอีก จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพราะให้อภัยไปหลายทีแล้ว ไม่ใช่เพราะว่ากลุ่มคนเหล่านี้ขัดแย้งกับรัฐบาล แต่ที่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนความคิดเห็นก็ขอให้ไปแสดงในช่องทางที่ถูกต้อง และขอให้ยอมรับกฎกติกา -
ย้ำต้องปฏิรูประบบการศึกษา

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีการคัดค้านการสอบบรรจุครูผู้ช่วยที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูว่า ทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าเรามีการปรับปรุง การพัฒนา และปฏิรูประบบการศึกษา ซึ่งจะต้องเริ่มดูตั้งแต่ครู ว่ามีเพียงพอหรือไม่ มีคุณภาพหรือไม่ สาขาที่เป็นความต้องการของประเทศมีเพียงพอหรือไม่ ถ้าพูดถึงจำนวนคนที่จบครูออกมามีมากพอสมควร แต่บางวิชาสอนไม่ได้ เพราะไม่ได้จบด้านนั้นมา จึงต้องหาครูที่จบมาตรงกับวิชาเหล่านั้นที่ยังขาดอยู่ ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการมีความเห็นเสนอมาว่าถ้าต้องการผลิตบุคลากรให้ตรงกับความต้องการของประเทศ เช่น ด้านเคมี วิทยาศาสตร์ ซึ่งคนที่จบด้านครูอาจไม่มีความชำนาญ ดังนั้น บุคคลด้านนี้จะมีจำนวนไม่มาก เฉพาะที่ขาดแคลนอยู่ ซึ่งเมื่อเข้ามาทำงานแล้วไม่ใช่ว่าบรรจุได้เลย ก็ต้องมีการทดลองงานก่อนประมาณ 2 ปี ระหว่างการทดลองงานก็ต้องมีการประเมิน จึงต้องไปสอบให้ผ่านกฎเกณฑ์ถึงจะได้รับการบรรจุให้เป็นข้าราชการ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกวาารัฐบาลจะไม่ทำอะไรให้ใครเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครู เรื่องแพทย์ คือทุกคนต้องยอมรับว่าเรากำลังขาดแคลนบางสาขาวิชาอยู่ เราต้องเตรียมคนให้พร้อม รองรับตลาดแรงงาน ไม่เช่นนั้นก็จะถูกต่างชาติแย่งงานไปหมด

เรียบเรียงจาก เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.