คุยกับซีอีโอวอยซ์ทีวี ในวันที่เสรีภาพสื่อถูกปิดกั้น

Posted: 29 Mar 2017 08:43 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)


ภาพจากเว็บไซต์วอยซ์ทีวี

ตั้งแต่เที่ยงคืนของเมื่อวานนี้ (28 มี.ค.) วอยซ์ทีวีได้ยุติการออกอากาศทั้งสถานี หลังจากมีมติจาก กสทช. สั่งพักใบอนุญาตวอยซ์ทีวีเป็นเวลา 7 วัน โดยอ้างว่าวอยซ์ทีวีมีการกระทำผิดซ้ำเดิม ให้ข้อมูลข่าวสารที่ส่อให้เกิดความสับสนยั่วยุ ปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง หรือสร้างให้เกิดความแตกแยก

ตามคำสั่ง กสทช. ระบุว่า รายการที่ “มีความผิด” ทำให้ กสทช.สั่งยุติออกอากาศทั้งสถานี คือ

1.รายการใบตองแห้งออนแอร์ ตอน จากธัมมี่ถึงทักกี้ประเทศนี้ยังปรองดองได้อยู่หรือ
2.รายการ In Her View ตอน ไล่เรียงเหตุการณ์จังหวะแห่งข่าวโกตี๋กับอาวุธพร้อมแถลงการณ์แผนลอบสังหาร
3.รายการ Overview ตอน ยันกองทัพป้องทหารยังยิงทิ้งเด็กลาหู่ถูกต้องทุกกรณี
(ดูเนื้อหารายการที่ประชาไทสรุปไว้ได้ที่ http://prachatai.org/journal/2017/03/70787)
ประชาไทชวนคุยกับเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี ถึงสถานการณ์ปัจจุบันและผลกระทบในอนาคต บรรยากาศตอนโดน ‘เรียกคุย’ กับ กสทช. และความเห็นต่อโทษในครั้งนี้


ประชาไท: ขั้นตอนในห้องพิจารณาเป็นอย่างไร

เมฆินทร์: ทุกครั้งเป็นการเปิดเทปให้ดู แล้วเขาจะนำมาวิพากษ์วิจารณ์ละเอียดเลย เราก็ชี้แจงไป หลักๆ เราก็ยืนยันว่าเนื้อหาของเราเป็นไปตามข้อเท็จจริง มีการให้ความเห็นบนข้อเท็จจริง ในแง่ความเป็นข้อเท็จจริงก็มีข้อทักท้วงจากเขาว่ารอบด้านไหม เราเห็นด้วยว่าอาจขาดๆ เกินๆ ในตอนแรก เราก็ปรับข้อเท็จจริงให้รอบด้านแล้ว ครั้งหลังๆ ก็สรุปตรงกันแล้วว่ารอบด้าน

อีกส่วนคือความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ เขายืนยันว่าต้องการให้ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญมีทั้งซ้ายกับขวาเท่ากัน ไม่ใช่แค่ด้านใดด้านหนึ่ง เราไม่เห็นด้วย เรายืนยันว่าผู้เชี่ยวชาญมีความถนัดไม่เหมือนกัน จะให้เขามาพูดอีกด้านก็เป็นเรื่องที่เขาไม่ถนัดความเห็นเป็นสิ่งที่ผู้ชมเป็นผู้เลือก ตราบใดที่เราไม่ได้หมิ่นประมาทใคร ซึ่งถ้าหมิ่นจริงก็มาฟ้องกันได้อยู่แล้ว เป็นหลักของสื่อทั่วไป

ครั้งล่าสุดที่ประชุมเราก็ยืนยันว่าทั้งสามเทปเราทำด้วยความเคร่งครัดตามหลักของเนื้อหารอบด้าน และความเห็นผู้เชี่ยวชาญ เราเห็นว่าไม่ได้นำไปสู่ปัญหาความมั่นคงใดๆ ตามที่เขาบอก เป็นการคาดการณ์ วิพากษ์ว่าสังคมเป็นอย่างไร เราพร้อมใช้สามเทปนี้ในการชี้แจงตามขั้นตอนกฎหมายต่างๆ ด้วย

บทบาทต่อจากนี้ มีการเตรียมการจะฟ้องศาลไหม

เตรียมการ มีช่วงเวลาดำเนินการสามเดือนอยู่แล้ว แต่เรื่องการคุ้มครองคงไม่ทัน ในเมื่อมีผลไปแล้ว ทางตลาดทางอุตสาหกรรมรับรู้ ผลเสียหายก็มีแล้ว เราก็ทำตามขั้นตอนทางกฎหมายในการเรียกร้อง โดยเมื่อปีที่แล้ว มีคำสั่งหัวหน้า คสช. ออกมา (คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 41/2559) ว่า กสทช. ไม่ต้องรับผิดทางอาญาและแพ่ง แต่เราสามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้

แต่ผมไม่ได้เน้นเรื่องค่าเสียหายมากเท่ากับการกระทบในหลักการของสื่อ จุดสำคัญคือ หนึ่ง เรื่องหลักการของสื่อมวลชนเราต้องยืนหยัดเรื่องความเห็นต่าง สื่อที่นำเสนอความเห็นที่แตกต่างหลากหลายรอบด้าน ส่วนรวมได้ประโยชน์ ทำให้การตัดสินใจใดๆ เป็นไปอย่างรอบด้าน เรายืนยันว่าความเห็นต่างเป็นประโยชน์และไม่ได้ไปละเมิด ผิดข้อเท็จจริง หรือมีปัญหากับความมั่นคง

สอง สื่อเป็นสถาบันมีหน้าที่เผยแพร่ข่าวสาร การปิดช่องทางการสื่อสารเป็นเรื่องใหญ่มาก ทำให้มีปัญหาเรื่องความเชื่อมั่น เราไม่เห็นด้วย เราต้องเรียกร้องในกรอบกติกาที่เราคัดค้านและเรียกร้องได้ในทุกช่องทาง สถาบันสื่อต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ คุณต้องเป็นที่พึ่งของสังคมได้

รายการวิเคราะห์การเมืองซึ่งถือเป็นจุดเด่นของ Voice TV จะยังมีต่อไปไหม ในรูปแบบที่เปลี่ยนไปหรือไม่

ยังมี แต่ปรับเนื้อหาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ส่วนรูปแบบของการวิเคราะห์ข่าวจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรงเป็นโครงสร้างเป็นแนวทางหลักของเรา เราไม่ได้ปรับอะไร แต่เรื่องการจำกัดเนื้อหาขณะนี้ก็จำเป็น

กระทบต่อพนักงานไหม

ก็มีบ้าง คุยกับพนักงานทั้งหมดว่าเราได้รับผลกระทบในเชิงอุตสาหกรรมนะ

ค่าเสียหายใน 7 วัน และผลกระทบต่อจากนี้

ตัวเลขที่เป็น direct อาจไม่ได้เยอะมาก แต่ indirect ในการประสานให้เอเจนซี่ไม่มีข้อกังวลอาจจะมีผล โดยเฉพาะโฆษณาที่ต้องชะลอตัว มูลค่าก็ต้องประเมินอีกที แต่ไม่มีโฆษณาที่จะถอนออก มูลค่าโฆษณาช่วงนี้ลงแบบออนไลน์เยอะขึ้น เป็นช่วงเวลาที่แคมเปญลูกค้าไม่ได้พีค คนลงโฆษณาไม่ได้เยอะ แต่การที่ลูกค้าชะลอตัวหรือลดสัดส่วนลงก็มีมูลค่าสูง ตอนนี้ได้รับผลกระทบประปรายและกำลังเจรจากันอยู่

หลังจากนี้ จะมีการปรับยุทธศาสตร์อย่างไร

ตั้งแต่ปีที่แล้วเราปรับโครงสร้างองค์กรมุ่งเน้นพัฒนาทางออนไลน์ควบคู่กับทีวี เพื่อตอบสนองผู้บริโภคทั้งสองแบบ เราก็ทำคู่ขนานกันไป ช่วงนี้ก็ทำรายการออนไลน์ไป แค่หยุดออกอากาศทางทีวี

ผมไม่เข้าใจว่าสามประเด็นนี้มีอะไรน่ากลัว เอาแค่ว่าผมเลือกประเด็นผิดเหรอ
ห้ามพูดใช่ไหม พูดบิดเบือนหรือกระทบความมั่นคงยังไง ผมไม่เข้าใจ


ทำไมโทษครั้งนี้ถึงดูรุนแรง มีข้อสังเกตอะไรไหม

เราให้ความร่วมมือมาตลอด พยายามปรับให้ทุกมิติ การพูดคุยครั้งนี้พูดคุยทุกฝ่าย ส่วนใหญ่เวลามีข้อกังวลหรือห่วงใยมาถึงทางเราเขาจะมากันหมด ทั้งเจ้าหน้าที่ที่ทำงานร่วมกับ คสช. หน่วยทหาร และ กสทช. แต่สุดท้ายพอคุยเป็นทางการก็จะไปคุยกับ กสทช. ซึ่งเราก็พยายามให้ความร่วมมือมาตลอด ที่ผ่านมาเราก็ให้ผู้ดำเนินรายการปรับบ้าง แก้ไขรายการบ้าง เพิ่มสัดส่วนข้อมูลรอบด้าน

ผมไม่เข้าใจว่าสามประเด็นนี้มีอะไรน่ากลัว เอาแค่ว่าผมเลือกประเด็นผิดเหรอ ห้ามพูดใช่ไหม พูดบิดเบือนหรือกระทบความมั่นคงยังไง ผมไม่เข้าใจ เขาสรุปว่าเป็นการให้ความเห็นในแนวทางเดียวกัน เช่น เทปเด็กนักกิจกรรมชาวลาหู่ เขาบอกว่าผู้ดำเนินรายการพูดให้เด็กคนนี้ถูกต้องทุกอย่าง พูดชี้นำไป ขณะที่ดูเนื้อหาผมว่าเป็นการแจ้งให้ทราบว่าเด็กคนนี้เขามีสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างไร แล้วมีเหตุการณ์ของวิสามัญฯ ผิดพลาดในอดีตไว้อยู่แล้ว ก็ขอให้ทางการสืบสวนอย่างรัดกุม ส่วนอารมณ์ของผู้ดำเนินรายการก็แสดงเหมือนกับว่าเด็กคนนั้นน่าเห็นใจ เขาจะห้ามในรูปแบบไหนผมก็อยากรู้

ที่วอยซ์ไม่เหมือนคนอื่นคือเรื่อง MoU (อ่านรายละเอียดได้ที่ http://prachatai.org/journal/2017/03/70787) เคยมีการหารือแล้วว่าจะเซ็น MoU ใหม่ เพราะของเก่าไม่ได้สอดคล้องกับเงื่อนไขสถานการณ์แล้ว ผมเคยให้ความเห็นไป แต่ตอนหลังเขาก็เงียบไป ผมก็ยินดีให้ความร่วมมือ แต่ความรู้สึกลึกๆ คืออยากให้เขียนกรอบกติกาแนวการในการทำเนื้อหา ให้ทำความเข้าใจและใช้ร่วมกัน ข้อเท็จจริงตรรกะเหตุผลเป็นอย่างไรจะได้ยอมรับด้วยกัน เราก็ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาจะฟาดฟันกัน

ถ้ามาถึงวันที่เราโดนกระทำเกินหลักการเราก็จะเรียกร้อง
และถ้ามีจะมีสื่ออื่นโดนปิด ผมก็จะอยู่ฝั่งที่เรียกร้องสิทธิให้กับเขาด้วยเหมือนกัน


เมื่อเปรียบเทียบตัวเองกับสื่อช่องอื่นๆ ที่อาจจะพูดในประเด็นที่ดูแรงเหมือนกัน รู้สึกเป็นธรรมไหม
ผมยืนยันหลักการตัวเองว่า ถ้าคุณมีปัญหากับใคร ฟ้องหมิ่นประมาทเขา ใครโดนอะไรเขาก็ต้องรักษาสิทธิในการฟ้องหมิ่นประมาทเอาเอง ส่วนความเห็นหรือความเชี่ยวชาญของแต่ละคนเป็นอิสระ ผมไม่เห็นด้วยที่จะไปลงโทษใคร ให้ผมไปร้องเรียนใครผมก็ไม่เอา ผมเห็นว่าทุกคนควรมีอิสระในการเห็นต่าง ผมเห็นว่าทุกคนไม่ควรโดนลงโทษ ถ้าผมร้องเรียนเขาแปลว่าผมกำลังจะจำกัดสื่อทั้งหมดทั้งอุตสาหกรรม ผมไม่ทำหรอก แต่ถ้ามาถึงวันที่เราโดนกระทำเกินหลักการเราก็จะเรียกร้อง และถ้ามีจะมีสื่ออื่นโดนปิด ผมก็จะอยู่ฝั่งที่เรียกร้องสิทธิให้กับเขาด้วยเหมือนกัน


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.