Posted: 29 Jan 2018 11:06 PM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

พ.อ.บุรินทร์ แจ้งควาเอาผิด 'โรม-จ่านิว-ณัฎฐา-ทนายอานนท์-เอกชัย-สุกฤษฎ์-เนติวิทย์' ข้อหาฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. หลังจัดกิจกรรมเหยียบเบรค คสช. สืบทอดอำนาจ เลื่อนเลือกตั้ง ด้านโรม ยันพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ไม่หยุดเคลื่อนไหวค้านสืบทอดอำนาจ ที่ไม่ใช่แค่ ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกฯ แต่คือระบบที่ คสช.วางไว้ในรัฐธรรมนูญ

30 ม.ค.2561 ข่าวสดออนไลน์และเดลินิวส์ รายงานตรงกันว่า พ.ต.ท.สมัคร ปัญญาวงศ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ปทุมวัน ได้รับแจ้งความจาก พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารปฏิบัติการประจำกองบัญชาการกองทัพบก ปฎิบัติหน้าที่ หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมายส่วนงานการรักษาความสงบแห่งชาติ เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ที่ผ่านมา หลังได้รับมอบอำนาจจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้มาร้องทุกข์ กล่าวดำเนินคดี 1. รังสิมันต์ โรม 2. สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ 3. ณัฎฐา มหัทธนา 4. อานนท์ นำภา 5. เอกชัย หงส์กังวาน 6. สุกฤษฎ์ เพียรสุวรรณ และ 7. เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล ข้อหา”ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ห้ามชุมนุมเกิน 5 คน ที่ทางกลุ่มออกมาเคลื่อนไหวระหว่างวันที่ 25 ม.ค. เวลา 21.00 น. และวันที่ 27 ม.ค.เวลา 19.00 น. ที่บริเวณสกายวอล์ค แยกปทุมวัน

[คลิป] "นัดรวมพล ประชาชนอยากเลือกตั้ง" รายงานจากสกายวอล์คแยกปทุมวัน
ประชาชนเหยียบเบรค ต้าน คสช. สืบทอดอำนาจ เลื่อนเลือกตั้ง


บีบีซีไทย รายงานด้วยว่า ตรวจสอบข้อมูลพบว่า บุคคลทั้ง 7 คน ถูกตั้งข้อหาอย่างน้อย 2 ข้อหาคือ 1. ฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ห้ามชุมนุมหรือมั่วสุมการเมืองเกินกว่า 5 คนขึ้นไป และ 2. กระทำการยุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ขณะนี้ตำรวจ สน.ปทุมวัน ได้ส่งหมายเรียกไปยังผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 7 คนแล้ว เพื่อให้มาพบพนักงานสอบสวนในเวลา 10.00 น. ของวันที่ 2 ก.พ. นี้ แต่ในกรณีของ สิรวิชญ์ หรือจ่านิว ตำรวจจะส่งเรื่องไปที่ศาลจังหวัดขอนแก่นด้วย เพราะก่อนหน้านี้ สิรวิชญ์ถูกศาลจังหวัดขอนแก่นตัดสินจำคุก 6 เดือน คดีละเมิดอำนาจศาล จากการแสดงออกทางสัญลักษณ์และจัดกิจกรรมทางการเมืองภายในเขตอำนาจศาล เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2560 แต่ให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเคลื่อนไหวทางการเมืองอีก จึงถือว่ากระทำการผิดเงื่อนไขศาล

ผู้สื่อข่าวประชาไท สอบถาม รังสิมันต์ เพิ่มเติม ยืนยันว่ายังไม่ยังไม่ได้รับหมายเรียกแต่อย่างใด และยืนยันด้วยว่าให้ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม หวังว่ากระบวนการยุติธรรมจะอำนวยให้กับทุกคน และจะปรึกษาทนายความก่อน โดยตอนนี้เป็นกระบวนการตามศาลยุติธรรมตนก็สบายใจมากกว่าศาลทหาร คาดหวังว่าจะได้รับความยุติธรรมมากกว่า
รังสิมันต์ กล่าวถึงการแจ้งความดำเนินคดีนี้ด้วยว่า เป็นเรื่องที่คาดหมายได้อยู่แล้ว สิ่งที่เรามุ่งหวังคือการปกครองที่ดีกว่านี้ ซึ่งคนที่เสียประโยชน์ก็คือ คสช. การแจ้งความก็เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของ คสช.เท่านั้น

รังสิมันต์ ยังยืนยันด้วยว่า จะเคลื่อนไหวต่อคัดค้านการสืบทอดอำนาจของ คสช. ต่อไป เพราะผลร้ายที่เกิดขึ้นจะตกกับคนรุ่นหลัง

สำหรับประเด็นการสืบทอดอำนาจ ของ คสช. ที่เคลื่อนไหวคัดค้านนั้น รังสิมันต์ เปรียบว่า เหมือนเป็นการล็อคผลบอล และอธิบายเพิ่มเติมว่า เรารู้อยู่แล้วว่าใครจะเป็นผู้มีอำนาจต่อไป สิ่งที่ต้องการคือให้ประชาชนตัดสินใจอย่างเสรีและเป็นธรรม (ฟรีและแฟร์) การสืบทอดอำนาจมันจึงหมายถึงระบบที่ คสช. วางเอาไว้ในรัฐธรรมนูญเป็นความพยายามที่ทำให้ คสช.กลับมามีอำนาจอีกครั้ง ไม่ใช่แค่ พล.อ.ประยุทธ์กลับมาเป็นนายกเท่านั้น แต่เป็นระบบที่วางเอาไว้

ขณะที่ ณัฎฐา โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คถึงข่าวที่ตนเองถูก แจ้งความดำเนินคดีว่า ยังไม่ได้ยุให้ใครทำไรเลย แค่ยุให้คสช.ทำตามสัญญา และหยุดละเมิดสิทธิพลเมืองตามรัฐธรรมนูญ วิธีง่ายที่สุดที่จะปิดปากเราก็คือ กลับมาประกาศการเลือกตั้ง พ.ย.61 ตามที่ไปบอกชาวโลกไว้ และหยุดสืบทอดอำนาจ ง่ายกว่าเยอะ


ณัฎฐา โพสต์แถลงการณ์ของกลุ่มที่ร่วมกิจกรรม

"เผด็จการทหารแจ้งความจับคนเรียกร้องประชาธิปไตยด้วยข้อหาว่าขัดคำสั่งเผด็จการทหาร ตลกดี คนพวกนี้นอกจากจะไม่อายแล้วยังสับสนหลงยุคอีก" อานนท์ โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คประกอบข่าวตนเองถูกแจ้งความดังกล่าว

ขณะที่ เนติวิทย์ กล่าวผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวด้วยว่า ตนไม่ได้อยู่กลุ่มไหนทั้งนั้น และที่ไปงานนั้นก็โดยต้องการไปฟังเสียมากกว่า เหมือนทุกครั้งไม่ได้พูดอะไรเวลาไป ไปครั้งนี้ก็เหมือนพี่น้องประชาชน​ที่อยากจะตรวจสอบการทุจริตของพลเอกประวิตร​และถามถึงสัญญาเลือกตั้ง หากมีเหตุทำให้ต้องพูดสั้นๆ ไม่ได้ตระเตรียม​ใดๆ ไม่ได้แชร์ว่าจะเข้าร่วมอะไร งานวันที่ 10 ก็ไม่รู้ใดๆว่าจะมีมาก่อน ยังคิดเลยว่าจะไปดีหรือไม่

"แต่ถ้าหากสิทธิ​พลเมืองในการตั้งคำถามกับคนที่เอาเงินภาษีของประชาคนไทยไปใช้ไม่ได้ บอกอีกอย่างทำอีกอย่าง ถ้าถามเสียงดังๆจะถูกเล่นงาน ผมคงไม่อาจจะปล่อยให้ประเทศนี้ตกอยู่ภายใต้การนำของคนเช่นนี้ไม่ได้ คนรุ่นผมจะลำบากจากเคราะห์​กรรมแน่ๆจากมรดกการทุจริตและการตระบัดสัตย์​เช่นนี้ ดังนั้น การจะเล่นงานผมครั้งนี้ ผมไม่กลัวใดๆ ดีเสียอีกว่า อย่างน้อยผมคนนึงก็ปกป้องประเทศชาติ​ของเรา ผมมีความรู้สึกอย่างเดียวว่าเป็นเกียรติ​ที่จะอยู่ใน 7 รายชื่อนี้ด้วย" ​เนติวิทย์ กล่าว

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.