Posted: 20 Apr 2018 09:27 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ระบุจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมเรียกผู้บัญชาการเรือนจำกลางสมุทรปราการมาสอบ หลังสาวแฉแฟนหนุ่มโดนโดนซ่อมตายคาคุก

20 เม.ย.2561 จากกรณีวันนี้ผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่ง โพสต์เรียกร้องหาความเป็นธรรม หลังแฟนหนุ่มเสียชีวิตในเรือนจำจังหวัดสุมทรปราการ รวมทั้ง เพจดังอย่าง 'แหม่มโพธิ์ดำ' ก็นำเรื่องราวดังกล่าวมาเผยแพร่ด้วย ซึ่งผู้ใช้เฟสบุ๊ครายดังกลาวรับรู้เรื่องนี้เมื่อเย็นวันที่ 18 เม.ย. 61 ที่ผ่านมา เพราะเจ้าหน้าที่เรือนจำโทรมาแจ้งว่า แฟนของตนได้เสียชีวิต แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ทำให้รู้สึกแปลกใจและไม่เชื่อ เพราะเพิ่งไปเยี่ยมมา มีอาการร่าเริง พูดคุย ปกติดี นอกจากนี้ยังพบว่าศพมีรอยทำร้ายร่างกายเขียวช้ำไปทั้งตัว โดยผู้คุมได้แจ้งว่า โดนซ่อมทั้งหมด 18 คน แต่มีเพียงคนเดียวที่เสียชีวิต

ล่าสุดข่าวสดออนไลน์และไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจาก กฤษณ์ วงษ์เดช ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสมุทรปราการว่า สืบเนื่องจากทางเรือนจำได้สืบทราบว่าผู้ต้องขังที่เสียชีวิตรายดังกล่าว เข้าไปเกี่ยวข้องกับการรับยาเสพติดเข้ามาภายในเรือนจำ โดยพบว่ามีการส่งจดหมายมาให้กับผู้ต้องขังรายดังกล่าว ทางเรือนจำจึงได้เรียกตัวมาทำการสอบสวน

พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวต่อว่า จากนั้น ก็ได้มีการลงโทษทางวินัย แต่ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าทางเรือนจำมีการกระทำที่เกินกว่าเหตุจนทำให้ผู้ต้องขังรายนี้เสียชีวิตหรือไม่ ซึ่งกรมราชทัณฑ์จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงเรื่องที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งเรียกผู้บัญชาการเรือนจำกลางสมุทรปราการมาสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง รวมถึงอาจจะต้องมีการพิจารณาด้วยว่าจะต้องสั่งย้ายหรือไม่ เนื่องจากการซ้อมทรมานผู้ต้องเป็นเรื่องที่ขัดต่อนโยบายกรมราชทัณฑ์ที่ได้ประกาศห้ามไม่ให้ผู้คุมทำการซ้อมทรมาน หรือการกระทำใดๆ ที่เป็นการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวอีกว่า การลงโทษวินัยผู้ต้องขังมีให้ทำได้หลายรูปแบบที่ไม่กระทบกระทั่ง หรือถึงเนื้อถึงตัวผู้ต้องขัง เช่น การงดให้เยี่ยมญาติ และการให้ออกกำลังกาย เป็นต้น หรือหากพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมาย ก็ให้ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ตนรับไม่ได้หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ และทางกรมราชทัณฑ์จะต้องขอตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริงเรื่องนี้อีกครั้ง
[full-post]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.