Posted: 12 Dec 2018 06:50 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Wed, 2018-12-12 21:50


'ศูนย์ทนายสิทธิ' เผยจนท.คุมตัวซ้ำรอบสอง 3 ราย คาดเอี่ยวใส่หรือมีเสื้อดำมีสัญลักษณ์กลุ่มสหพันธรัฐไท หลังปล่อยตัวไม่ถึง 24 ชม. พร้อมเรียกร้องปล่อยตัวทันทีเหตุไม่ชอบด้วยกฎหมาย


12 ธ.ค.2561 จากกรณีที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยข้อมูลว่า เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวบุคคลในหลายพื้นที่ไปในค่ายทหารอย่างน้อย 16 ราย และเมื่อวานนี้ (11 ธ.ค. 61) ได้รับการปล่อยตัว 12 ราย ที่ จ.อุบลฯ, อุดรฯ และกำแพงเพชร นั้น ล่าสุด วันนี้ (12 ธ.ค.61) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้รับแจ้งว่า มีการควบคุมตัวบุคคลที่ได้รับการปล่อยตัวแล้วอีกครั้ง ใน จ.อุบลฯ และกำแพงเพชร รวม 3 ราย โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่า จะนำตัวเข้ากรุงเทพฯ พร้อมระบุด้วยว่า ในส่วนบุคคลที่ยังไม่มีข้อมูลว่า ได้รับการปล่อยตัวอีก 4 ราย รวมทั้งอีก 1 ราย ที่ข้อมูลการควบคุมตัวไม่ชัดเจน แต่คาดว่าถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไป นับถึงวันนี้พวกเขาถูกควบคุมตัวเป็นวันที่ 5 โดยญาติไม่สามารถติดต่อได้ และไม่ทราบว่าถูกควบคุมตัวอยู่ที่ใด

ล่าสุดวันนี้เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ออกแถลงการณ์ต่อกรณีดังกล่าว เรียกร้องให้ปล่อยตัวบุคคลถูกควบคุมตัวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

โดยแถลงการณ์มีรายละเอียดดังนี้


ตามที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้ติดตามข้อมูลการควบคุมตัวบุคคลกรณีครอบครองหรือใส่เสื้อกรณีสหพันธรัฐไท พบว่าระหว่างวันที่ 7 -12 ธันวาคม 2561 เจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัวบุคคลในเขตพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี กำแพงเพชร อุบลราชธานี และอุดรธานี ไปในค่ายทหารอย่างน้อย 16 ราย โดยเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ได้รับการปล่อยตัว 12 ราย ยังถูกควบคุมตัวอยู่ 4 ราย และยังมีอีกอย่างน้อย 1 ราย ที่คาดว่าถูกควบคุมตัวอยู่ด้วย ในทุกราย เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีหมายจับใดๆ ในการใช้ควบคุมตัว (อ่านเพิ่ม https://www.tlhr2014.com/?p=10020)

ในวันนี้ (12 ธ.ค. 61) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนยังได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่ามีการควบคุมตัวบุคคลจากอุบลราชธานี 1 ราย และกำแพงเพชร 2 ราย ซึ่งทั้งสามรายเคยถูกควบคุมตัวและได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2561 มาแล้ว คาดว่าทั้งหมดถูกนำตัวมาควบคุมไว้ในค่ายทหาร ภายในเขตกรุงเทพมหานคร

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นองค์กรให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่บุคคลซึ่งได้รับผลกระทบจากการใช้อำนาจรัฐภายหลังการรัฐประหาร 2557 บุคคลซึ่งใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง และมีคดีในความรับผิดชอบกว่า 165 คดีนั้น มีความห่วงกังวลถึงการควบคุมตัวในกรณีดังกล่าวต่อไปนี้

1. การควบคุมตัวบุคคลบุคคลนั้นต้องกระทำโดยชอบ ผู้ถูกจับจำเป็นต้องได้รับแจ้งเหตุในการจับกุม มีสิทธิที่จะแจ้งญาติและทนายความ และสามารถตรวจสอบได้โดยศาล หลักการดังกล่าวนั้นได้รับการรับรองในข้อ 9 กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ซึ่งประเทศไทยเป็นรัฐภาคีและมีพันธกรณีที่ต้องปฏิบัติตาม

อย่างไรก็ตามศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนพบว่า การควบคุมตัวบุคคลตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 หรือคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 13/2559 ภายหลังการรัฐประหารนั้นส่วนใหญ่เป็นการควบคุมตัวซึ่งไม่เป็นไปตามพันธกรณีดังกล่าว รวมถึงการควบคุมตัวบุคคลในกรณีนี้ ซึ่งไม่แจ้งเหตุในการควบคุมตัว ผู้ถูกควบคุมตัวไม่ได้รับสิทธิในการมีทนายความ และไม่มีการตรวจสอบการควบคุมโดยองค์กรตุลาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การควบคุมตัวบุคคลสามรายซ้ำในระยะซึ่งห่างกันเพียงชั่วข้ามคืนนั้น ยิ่งทำให้เห็นชัดถึงการใช้อำนาจในการควบคุมตัวโดยพลการ

2. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติได้มีข้อสังเกตเชิงสรุปต่อรายงานตามวาระฉบับที่ 2 ของประเทศไทยเมื่อเดือนมีนาคม 2560 ว่า รัฐไทยควรจะปล่อยตัวผู้ถูกควบคุมตัวโดยพลการโดยทันที และจัดให้พวกเขาเข้าถึงการเยียวยาอย่างเต็มที่ ทั้งยังควรปรับปรุงเนื้อหาของกฎหมายและการปฏิบัติให้สอดคล้องกับข้อ 9 ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง อย่างไรก็ตามคณะรักษาความสงบแห่งชาติยังคงอำนาจในการควบคุมตัวบุคคลไม่เกิน 7 วันตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ทั้งสองฉบับไว้ โดยมิได้ยกเลิกแม้ประเทศกำลังจะเข้าสู่บรรยากาศของการเลือกตั้งก็ตาม

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเห็นว่า หากเจ้าหน้าที่รัฐพบการกระทำซึ่งเข้าข่ายการกระทำความผิดตามกฎหมายนั้นก็ชอบที่จะดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาได้ แต่ผู้ถูกจับ ผู้ต้องหา หรือจำเลยทุกคนต้องได้รับการปฏิบัติโดยชอบด้วยกฎหมาย เข้าถึงสิทธิในการได้รับการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม (Fair Trial Rights) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนจึงขอเรียกร้องให้ปล่อยตัวกลุ่มบุคคลดังกล่าวในทันที

ด้วยความเคารพต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชน


[full-post]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.