(30 เม.ย.) นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีข่าวการจับกุมมือโพสต์เฟซบุ๊ก 8 คน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.116 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2550 หลังมีการโพสต์เจตนามุ่งหวังให้เกิดความวุ่นวายปั่นป่วนในประเทศ เพื่อให้คนเข้ามาอ่านในเพจรู้สึกว่ารัฐบาล และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นตัวตลก ไร้ความสามารถบริหารประเทศ ว่า
.
นักกฎหมายทั่วโลกคงตกตะลึงกับข่าวการจับกุมมือโพสต์ทั้ง 8 คน ที่ล้อเลียนทางการเมืองโดยนำภาพของนายกรัฐมนตรี พร้อมนำคำพูดขำๆ มาใส่ จากนั้นจะนำคำพูดพร้อมภาพประกอบโพสต์ลงในเพจ แต่ถูกดำเนินคดีในศาลทหารในข้อหาความผิดต่อความมั่นคงของรัฐฯ และไม่ได้รับการประกันตัว
.
ความผิดตามมาตรา 116 แห่งประมวลกฎหมายอาญา จะต้องมีเจตนาพิเศษคือ "เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร" แต่เจตนาที่แท้จริงของมือโพสต์ทั้ง 8 ปรากฏตามคำขอฝากฝังของพนักงานสอบสวนคือคนเหล่านี้ต้องการทำให้รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีเป็นตัวตลก ไร้ความสามารถในการบริหารประเทศ ซึ่งดูแล้วก็ตรงกับพฤติกรรมที่กระทำที่นำเอาคำพูดขำๆ มาใส่ ดังนั้น การกระทำของมือโพสต์ทั้ง 8 คน จึงไม่ครบองค์ประกอบความผิดต่อความมั่นคงของรัฐตามที่พนักงานสอบสวนกล่าวหา
.
นักกฎหมายส่วนใหญ่คงเคยได้ยินภาษิตกฎหมายโรมันที่ว่า Inter arma silent leges แปลเป็นไทยคือ "ท่ามกลางอาวุธ กฎหมายย่อมไม่มีเสียง" คำกล่าวนี้แสดงให้เห็นว่าการใช้อำนาจอาวุธแทนที่กฎหมายนั้นเป็นวิถีปกติของสังคมมนุษย์และเกิดขึ้นมานานแล้ว โดยเฉพาะในสภาวะที่ประเทศไม่มีความเป็นประชาธิปไตย ประชาชนย่อมไม่มีหลักประกันแห่งเสรีภาพ
.
การล้อเลียนผู้นำที่ทำกันมาทุกสมัยและไม่เคยถือเป็นความผิดมาก่อน แม้กระทั่งนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันยังเคยกล่าวในทำนองล้อเลียนอดีตนายกรัฐมนตรีว่า "ก้มหน้าอ่านโพย" ซึ่งเป็นคำกล่าวที่ทำให้อดีตนายกรัฐมนตรีดูเป็นตัวตลกและไร้ความสามารถเช่นกัน ซึ่งไม่เป็นความผิด แต่พอตัวเองถูกล้อเลียนบ้างกลับถือเป็นความผิดขนาดเป็นภัยต่อความมั่นคง
.
นายกรัฐมนตรีกล่าวทำนองไม่ชอบคนที่เปิดประตูให้คนนอกมาทำลายประเทศ แต่ท่านคงลืมไปว่าประชาคมโลกมีหลักการสำคัญคือการไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น (non interference) ยกเว้นมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนประชาคมโลกก็จะเข้าแทรกแซงตามหลักการที่สหประชาชาติเรียกว่า "การแทรกแซงเพื่อมนุษยธรรม"(humanitarian intervention)
.
ดังนั้น การที่ประชาคมโลกสามารถเข้ามาเกี่ยวข้องกับเราได้แปลว่าไทยเรากำลังมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน คนที่ทำละเมิดต่างหากคือคนที่เปิดประตูและสมควรถูกประณาม ระวังการดำเนินคดีข้างต้นที่ผู้ทำมีเจตนาเพียงต้องการล้อเลียนผู้นำ แต่กลายเป็นภัยต่อความมั่นคง เพื่อเอาพลเรือนไปขึ้นศาลทหาร ซึ่งขัดกับข้อ 10 ของปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (UDHR) และ ข้อ 14 ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) อันเป็นพันธกรณีระหว่างประเทศที่เราลงนามผูกพันไว้และต้องปฏิบัติตาม อย่าลืมโกรธคนที่ตั้งข้อกล่าวหาด้วย เพราะนั่นคือคนที่เปิดประตูให้ประชาคมโลกเข้ามา

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.