เสนอแก้ร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ กำหนดชัด แชตกับเพื่อนสองคนก็ผิด ปิดเว็บได้แม้ไม่ขัดต่อกฎหมาย พร้อมเสนอตั้งคณะกรรมการกลั่นกรอง 5 คน

เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2559 สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเอกฉันท์ ผ่านร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ …) พ.ศ. … ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ ด้วยเสียง 160 เสียงต่อ 0 และงดออกเสียง 3 เสียง

สาระสำคัญในร่างแก้ไขคือ แบ่งแยกฐานความผิดกรณีการใช้งานออนไลน์โดยเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะ กับการสื่อสารระหว่าง “บุคคลต่อบุคคล”

การแก้ไขนี้เห็นได้ในการแก้ไขมาตรา 14 ว่าด้วยการนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปลอมหรือเท็จ กรณีที่ข้อมูลนั้นมีผลกระทบต่อประชาชน อัตราโทษสูงสุดอยู่ที่โทษจำคุก 5 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท แต่ถ้าเผยแพร่ข้อมูลระหว่าง “บุคคลต่อบุคคล” (เช่นการแชตข้อความ) อัตราโทษคือจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท

แม้ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ก็จับกุมผู้ใช้คอมพิวเตอร์จากเบาะแสข้อความในคุยกันในระดับบุคคลต่อบุคคลอยู่แล้ว แต่ที่ต่างไปคือ หากร่างกฎหมายข้อนี้ได้ประกาศใช้ ก็จะใช้แก้สามัญสำนึกดั้งเดิมของคนที่เห็นว่าแค่คุยกับเพื่อนไม่น่าจะผิดเพราะไม่กระทบในวงกว้าง มาทำให้ชัดขึ้นโดยยืนยันว่ามันเป็นความผิดทางอาญา

การแก้ไขส่วนอื่นๆ ในร่างฉบับปี 2559 นี้ ใจความสำคัญยังอยู่ที่การเพิ่มอัตราโทษให้สูงขึ้น ทำให้พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มีโทษสูงสุดถึงจำคุก 20 ปี

ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้ให้บริการอย่างเจ้าของเว็บไซต์และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ร่างกฎหมายนี้เสนอให้แก้ไขมาตรา 15 โดยมีมาตรการคล้ายการ Notice and Takedown แต่กฎหมายไม่ได้ระบุชัดว่า การแจ้งเตือนผู้ให้บริการนี้หมายถึงการกำหนดเป็นกรณีๆ ไป หรือเป็นการออกกฎแนบท้ายที่ใช้ไปตลอดกับทุกกรณี หรือแบบเหมาเข่ง เพื่อระบุหน้าที่ผู้ให้บริการทำตามขั้นตอน และช่วยให้เจ้าหน้าที่บล็อคเว็บไซต์ได้สะดวกขึ้น

ในส่วนของการบล็อคเว็บไซต์ ซึ่งเป็นอำนาจที่ใช้บ่อยนั้น ร่างฉบับนี้เพิ่มมาตรา 20 (4) ให้สามารถบล็อคเว็บได้แม้เนื้อหาอาจไม่ผิดกฎหมายที่มีอยู่ แต่หาก “คณะกรรมการกลั่นกรอง” ที่จะตั้งขึ้นใหม่จำนวน 5 คนเห็นว่าควรปิดกั้น ก็สามารถปิดกั้นหรือลบได้

สำหรับร่างแก้ไขพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์นี้ ขั้นตอนต่อไปหลังสนช.รับหลักการในวาระแรก สภาจะตั้งกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างต่อไป

อ่านร่างกฎหมายได้ที่ http://library.senate.go.th/document/mSubject/Ext52/52708_0001.PDF

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.