แม้คดีนั่งรถไฟไปตรวจสอบอุทยานราชภักดิ์ยังไม่ได้รับการตัดสิน แต่นักศึกษาหญิงจากรั้วแม่โดมที่ตกเป็นจำเลยกลับถูกนำตัวไปยังทัณฑสถานและถูกคุกคามไม่ต่างจากนักโทษคนอื่น จนทำให้ตั้งคำถามถึงสิทธิของผู้ต้องขังในเรือนจำไทย
หลังจากถูกควบคุมตัวไม่ถึง 6 ชั่วโมงที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เรือนจำกลางคลองเปรม แต่ 'กรกนก คำตา' จำเลยคดีนั่งรถไฟไปตรวจสอบอุทยานราชภักดิ์ ก็ตระหนักถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นในเรือนจำไทย ไม่ว่าจะเป็นการถูกดำเนินการดั่งนักโทษ ทั้งที่ศาลยังไม่ตัดสินและอยู่ระหว่างรอการปล่อยตัวเพื่อสู้คดี การถูกบังคับให้เปลือยกายภายใต้ผ้าถุงหนึ่งผืนท่ามกลางสายตานับร้อย การตรวจภายในเพื่อค้นหายาเสพติด จนทำให้นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้นี้ตัดสินใจออกมาถ่ายทอดเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้สังคมได้รับรู้
โดยหลังจากเกิดเหตุ 'ชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ' ปลัดกระทรวงยุติธรรมได้เผยว่าการตรวจค้นร่างกายเป็นระเบียบปฏิบัติของเรือนจำ ไม่ว่าผู้ต้องขังจะอยู่ระหว่างพิจารณาคดีหรือศาลตัดสินแล้วก็ตาม พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เป็นการละเมิดสิทธิ แต่จะทบทวนการตรวจค้นด้วยเครื่องสแกนร่างกายต่อไป ซึ่งผู้เสียหายสามารถร้องเรียนไปที่กระทรวงยุติธรรมได้ 
เช่นเดียวกับ 'วัส ติงสมิตร' ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่เผยว่าสามารถร้องเรียนได้ทาง กสม. ซึ่งจะส่งหนังสือไปให้กรมราชทัณฑ์พิจารณาลงโทษเจ้าหน้าที่ต่อไป
โดยในปี 2556 มีผลวิจัยของสมาคมนักวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล และกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม เผยว่าประเทศไทยมีสัดส่วนผู้ต้องขังหญิงสูงสุดในโลก นับเป็นร้อยละ 68.2 ต่อประชากรแสนคน โดยในเดือนเมษายน 2559 มีผู้หญิงต้องราชทัณฑ์เกือบ 44,000 คน
      
ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีนักเคลื่อนไหวสตรีถูกส่งตัวเข้าเรือนจำแล้วจำนวนไม่น้อย เช่น 'จิตรา คชเดช' อดีตปรึกษาสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ ที่ออกมาเปิดเผยการคุกคามในเรือนจำหลังต้องใช้ชีวิตในทัณฑสถานหญิงกลาง 5 ชั่วโมง จากการไม่ไปรายงานตัวตามหมายเรียก คสช. เพราะติดธุระอยู่ต่างประเทศ
      
'ชลธิชา แจ้งเร็ว' หนึ่งใน 14 นักศึกษาที่ถูกจองจำ 13 วัน หลังฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน
รวมถึง 'ภรณ์ทิพย์ มั่นคง' ผู้ต้องหาคดี 112 ที่ร่วมแสดงละครเวที 'เจ้าสาวหมาป่า' ในงานรำลึก 40 ปี 14 ตุลาฯ ซึ่งต้องโทษจำคุก 2 ปี 6 เดือน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2558
แม้จะมีผู้ต้องขังหญิงจำนวนไม่น้อยที่ถูกคุมขัง แต่กลับมีน้อยคนที่จะรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในดินแดนนี้ ซึ่งเสียงส่วนหนึ่งที่สะท้อนความเป็นไปในเรือนจำถือเป็นอีกหนึ่งความหวังที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ระบบเรือนจำไทยสามารถพัฒนาคนในสังคมได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเพศไหนก็ตาม

source ;_ 
http://news.voicetv.co.th/thailand/357645.html

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.