ภาคปชช.ค้าน ใช้ ม.44 เร่งออกสิทธิบัตรหวั่นปล่อยผีสิ ทธิบัตร-ยาแพงเพิ่ม กว่า 8,000 ล้าน
Posted: 28 Feb 2017 09:02 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)
ภาคประชาชน ค้านใช้ ม.44 เร่งออกสิทธิบัตรหวั่นปล่อยผีสิ ทธิบัตร-ยาแพงเพิ่ม กว่า 8,000 ล้าน ที่คำขอฯ ค้างมากเพราะเล่ห์บริษัทยาข้ ามชาติ แนะปฏิรูปต้องใช้ความรู้ ขณะที่ โฆษกสำนักนายกฯ เผยประยุทธ์งัด ม.44 แก้ ปัญหาจดสิทธิบัตร แล้ว
เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา รายงานข่าวแจ้งว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมากล่าวถึง ปัญหาความล่าช้าในการขอจดสิทธิบั ตรของต่างประเทศที่ล่าช้า กว่า 12,000 รายโดยจะใช้มาตรา 44 ในการแก้ปัญหานั้น
เฉลิมศักดิ์ กิตติตระกูล เจ้าหน้าที่รณรงค์เข้าถึงการรัก ษามูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวว่า การเร่งออกสิทธิบัตรฯ นั้นจะเกิดประโยชน์อย่างไร แล้วใครได้ประโยชน์ อย่างในกรณีการขอจดสิทธิบัตรยา กระบวนการพิจารณาการจดสิทธิบัตร ที่ล่าช้าส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจาก การทำงานล่าช้าของเจ้าหน้าที่ สำนักสิทธิบัตรเท่านั้น แต่เกิดจากการใช้กลวิธีของบริษั ทยาที่ขอจดฯ ด้วย โดย พ.ร.บ. สิทธิบัตรกำหนดให้ผู้ยื่นขอสิทธิ บัตรต้องยื่นแจ้งการตรวจสอบขั้ นตอนการประดิษฐ์หลังจากวันที่ ประกาศโฆษณาภายใน 5 ปี ซึ่งนับว่าเป็นช่วงเวลาที่ยาวนา นเกินไป ซึ่งผู้ขอสิทธิบัตรส่วนใหญ่ถ่วง เวลามาขอยื่นตรวจสอบใน 10 วันสุดท้ายก่อนครบ 5 ปี
เฉลิมศักดิ์ กล่าวด้วยว่าในกรณีของคำขอสิทธิ บัตรทางยา บริษัทยาส่วนใหญ่จะยื่นแจ้งการต รวจสอบฯ เมื่อใกล้หมดกำหนดแจ้งการตรวจสอ บขั้นตอนการประดิษฐ์เพียงไม่นาน เพราะการคุ้มครองเริ่มขึ้นแล้วนั บตั้งแต่วันที่ยื่นขอจดสิทธิบั ตร แม้ว่าคำขอฯ ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา แต่บริษัทอื่นก็จะไม่กล้าผลิตยา ออกมาแข่ง เพราะเสี่ยงต่อการถูกข่มขู่คุกค ามโดยใช้กฎหมาย อาจแพ้คดีและต้องชดใช้ค่าเสียหา ยจำนวนมากย้อนไปตั้งแต่วันที่ยื่ นขอจดสิทธิบัตร ถ้าผลการพิจารณาออกมาว่าให้สิทธิ บัตรกับยานั้นในภายหลัง
“ดังนั้น หากรัฐบาลคสช.มีความจริงใจในการ ปฏิรูปเรื่องสิทธิบัตรจริง ควรเริ่มต้นจากการศึกษาหาข้อมูล ให้ชัดเจนก่อน ไม่ใช่เพียงดูแค่เร่งให้ออกสิท ธิบัตรเร็วๆ มากๆ ได้เท่านั้น แต่ต้องสร้างความเป็นธรรมให้กับ ประชาชนที่จะได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะในเรื่องยารักษาโรคที่จ ะผูกขาดอย่างไม่เป็นธรรมด้วย โดยกรมทรัพย์สินฯ จะต้องนำคู่มือตรวจสอบคำขอรับสิ ทธิบัตรยามาใช้อย่างเคร่งครัด และต้องปรับคู่มือฯ ให้เป็นสากลตามคำแนะนำขององค์กา รอนามัยโลก และต้องแก้ไขกฎหมายให้สามารถนำม าตราการยืดหยุ่นต่างๆ เช่น การคัดค้านก่อนได้รับสิทธิบัตร การใช้มาตรการใช้สิทธิตามสิทธิบั ตรโดยรัฐ ฯลฯ มาใช้ได้จริงและไม่มีอุปสรรรค รวมถึงการแก้ไขความล่าช้าในการพิ จารณา เพราะไม่มีกำหนดระยะเวลาในการปร ะกาศโฆษณาและให้ระยะเวลาการยื่ นตรวจสอบขั้นตอนการประดิษฐ์ที่ ไม่สมเหตุผล” เจ้าหน้าที่รณรงค์เข้าถึงการรัก ษา มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าว
กรรณิการ์ กิจติเวชกุล รองประธานกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตก ารค้าเสรีภาคประชาชน (เอฟทีเอ ว็อทช์) มองว่า การพิจารณาให้หรือไม่ให้สิทธิบั ตร โดยเฉพาะยา จะต้องมีความละเอียดรอบคอบและดู ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ประกอบ ไม่ใช่อาศัยคำกล่าวอ้างตามเอกสา รของผู้ขอยื่นจดแต่เพียงอย่ างเดียว และไม่ควรใช้มาตรา 44 มาแก้ปัญหาแบบไม่ถูกต้อง เพราะจะยิ่งสร้างปัญหาเพิ่ม
“จากงานวิจัย “คำขอรับสิทธิบัตรยาที่จัดเป็น evergreening patent ในประเทศไทยและการคาดประมาณผลกร ะทบที่เกิดขึ้น” ของสถาบัยวิจัยระบบสาธารณสุข พบว่ามีการขอรับสิทธิบัตรแบบไม่ มีที่สิ้นสุด ที่จะทำให้ผู้ได้รับสิทธิบัตรได้ รับความคุ้มครองอย่างต่อเนื่ องเกิน 20 ปีหรืออาจชั่วชีวิตของยานั้น ซึ่งการขอรับสิทธิบัตรดังกล่าวถื อว่าไม่มีความใหม่ ไม่มีขั้นตอนการประดิษฐ์ที่สูงขึ้ น โดยระหว่างปี 2543-2553 หรือช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีสิทธิบัตรไม่มีวันตายมากถึงร้ อยละ 84 จากคำขอทั้งหมด 2,188 ฉบับ ถ้ามีการใช้มาตรา 44 เร่งอนุญาตคำขอสิทธิบัตร เป็นไปได้ว่า คำขอสิทธิบัตรในลักษณะดังกล่าวจ ะส่งผลกระทบต่อภาพรวมการบริโภคย าและตลาดของประเทศ จากงานวิจัยซึ่งดูรายการยาจำนวน 59 รายการที่มียอดการใช้สูงสุด เมื่อนำมาวิเคราะห์ผลกระทบต่อค่ าใช้จ่ายด้านยา พบว่าเป็นคำขอที่จะมีการผูกขาดต ลาดตั้งแต่ปี 2539-2571 คิดเป็นมูลค่าสะสมประมาณ 8,477.7 ล้านบาท” กรรณิการ์ กล่าว
ประยุทธ์งัด ม.44 แก้ ปัญหาจดสิทธิบัตร
ขณะที่ล่าสุดวันนี้ (28 ก.พ.60) มติชนออนไลน์ รายงานว่า เมื่อเวลา 15.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรั กษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบออกคำสั่ งตามมาตรา 44 ตามที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เสนอแก้ไขปัญหาการออกสิทธิบัตร ซึ่งค้างกว่า 20,000 รายการ โดยไม่กำหนดเกณฑ์เข้มงวดสำหรั บผู้ที่ผ่านการขอสิทธิบัตรจากต่ างประเทศมาแล้ว แต่จะตรวจสอบเรื่องของการลอกเลี ยนแบบ คาดว่าจะสามารถออกสิทธิบัตรให้ ได้กว่า 12,000 รายการภายใน 3 เดือน นอกจากนี้ยังจะมีมาตรการพิ เศษควบคุมเรื่องการจดสิทธิบั ตรยา ซึ่งมีกว่า 3,000 รายการ เพื่อป้องกันยาราคาแพงด้วย
แสดงความคิดเห็น