กสม. ระบุการจับกุมพระธัมมชโยควรประชาสังคมเข้าร่วมเป็นพยานในการปฏิบัติงาน


Posted: 05 Mar 2017 02:08 AM PST  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติออกแถลงการเรื่องการปฏิบัติการจับกุมพระธัมมชโยที่วัดพระธรรมกาย เห็นว่าเจ้าหน้าที่และวัดพระธรรมกายควรร่วมมือปฏิบัติงานตามกฎหมาย ให้มีองค์กรอื่นรวมทั้งภาคประชาสังคมเป็นพยานในการปฏิบัติงานตรวจค้นเพื่อหาบุคคลตามหมายจับ ซึ่งจะทำให้การปฏิบัติงานมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้

5 มี.ค. 2560 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติออกแถลงการเรื่องการปฏิบัติการจับกุมพระธัมมชโยที่วัดพระธรรมกาย โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามและวัดพระธรรมกายควรมีความร่วมมือกันในการปฏิบัติงานตามกฎหมาย ทั้งนี้ควรให้มีองค์กรอื่นรวมทั้งภาคประชาสังคมเข้าร่วมเป็นพยานในการปฏิบัติงานตรวจค้นเพื่อหาบุคคลตามหมายจับ ซึ่งจะทำให้การปฏิบัติงานมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยรายละเอียดทั้งหมดของแถลงการณ์มีดังต่อไปนี้

แถลงการณ์คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

เรื่อง การปฏิบัติการจับกุมพระธัมมชโยที่วัดพระธรรมกาย


ตามที่พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ข้าราชการทหาร ข้าราชการตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่อื่น เข้าปฏิบัติงานติดตามจับกุมพระธัมมชโยตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 5/2560 ที่ประกาศให้วัดพระธรรมกายและพื้นที่โดยรอบตามที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมมาอย่างต่อเนื่อง นั้น

บัดนี้มีความเคลื่อนไหวต่อต้านจากพระสงฆ์ของวัดพระธรรมกายและศิษยานุศิษย์ด้วยการปิดทางเข้าออกวัด มีการกล่าวอ้างว่าภายในวัดขาดแคลนยาและอาหาร มีผู้ป่วยถึงแก่ความตายเนื่องจากทำการช่วยเหลือไม่ทัน การที่เจ้าหน้าที่พยายามนำกำลังเข้ากดดันประกอบกับพระภิกษุสงฆ์และศิษยานุศิษย์ของวัดพระธรรมกายทำการต่อต้านอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการเผชิญหน้าและอาจส่งผลให้เกิดความรุนแรงเพิ่มขึ้นได้

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ติดตามสถานการณ์มาโดยตลอดและมีความกังวลว่าเหตุการณ์จะบานปลายนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงและเกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนมากยิ่งขึ้น ดังนั้นภายใต้หลักนิติธรรมโดยคำนึงถึงสาระสำคัญแห่งหลักการสิทธิมนุษยชน จึงเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ดังนี้

1. เจ้าหน้าที่ของรัฐ ควรใช้ความอดทนอดกลั้นต่อสถานการณ์ และหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าที่อาจนำไปสู่การปะทะกันอย่างรุนแรงและพิจารณาใช้มาตรการที่เหมาะสมพอสมควรแก่เหตุในการติดตามจับกุมผู้ต้องหา ประการสำคัญการปฏิบัติการใดๆ ต้องให้ความเคารพต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์โดยหลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจกระทบต่อสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาคของบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

2. พระสงฆ์และศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ควรใช้สติและอยู่ในความสงบ หลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดและหรืออาจนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงและขอเรียกร้องให้มหาเถรสมาคมได้มีบทบาทในการแก้ปัญหาเพื่อหาทางออกที่เหมาะสม

3. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เห็นว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามและวัดพระธรรมกายควรมีความร่วมมือกันในการปฏิบัติงานตามกฎหมาย ทั้งนี้ควรให้มีองค์กรอื่นรวมทั้งภาคประชาสังคมเข้าร่วม เป็นพยานในการปฏิบัติงานตรวจค้นเพื่อหาบุคคลตามหมายจับ ซึ่งจะทำให้การปฏิบัติงานมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้และหากไม่พบบุคคลดังกล่าวในชั้นนี้ให้ยุติการตรวจค้นและยกเลิกการกำหนดให้วัดพระธรรมกายและพื้นที่โดยรอบวัดเป็นพื้นที่ควบคุมตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 5/2560 โดยการติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับให้บังคับใช้ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาต่อไป

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.