Posted: 31 Jul 2017 11:19 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

สำนักข่าวปฎิรูปที่ดินภาคอีสาน เปิดสภาพบ้านหลัง 'สุภาพ คำแหล้' ถูกศาลฎีกาสั่งจำคุก 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา คดีรุกที่ป่าสงวน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุกลายเป็นบ้านร้าง อ้างว้าง แม้แต่บักเติ่ง หมาคู่ใจพ่อเด่น มันยังมีอาการเศร้าหงอย


ศรายุทธ ฤทธิพิณ สำนักข่าวปฎิรูปที่ดินภาคอีสาน ขณะเข้าสำรวจบ้าน 'เด่น-สุภาพ คำแหล้'

1 ส.ค. 2560 ภายหลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (27 ก.ค.60) ศาลฎีกาจำคุก 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา สุภาพ คำแหล้ ภรรยาเด่น คำแหล้ นักต่อสู้เรื่องที่ดินที่หายตัวไป ข้อหาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติภูซำผักหนาม ตามความผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ และ พ.ร.บ.ป่าสงวนฯ (อ่านรายละเอียด : http://www.prachatai.org/journal/2017/07/72564)
สภาพบ้าน 'เด่น-สุภาพ คำแหล้'

โดย 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ศรายุทธ ฤทธิพิณ สำนักข่าวปฎิรูปที่ดินภาคอีสาน รายงานสภาพบ้านของ สุภาพและเด่น ภายใต้ชื่อบทความ "เงียบเหงาอ้างว้าง ยามแม่บ้านติดคุก" เพื่อบรรยาสภาพบ้านของทั้ง 2 คน หลังเหตุการณ์ทั้งคำพิพากษาและการหายตัวไปของเด่น กว่า 1 ปี 3 เดือนแล้ว

โดยมีรายละเอียดดังนี้


บ้านนี้ที่มีคนหาย กลับยิ่งกลายเป็นบ้านแสนอ้างว้าง และเงียบเหงาซ้ำเติมยิ่งขึ้นไปอีก เพราะแม่บ้านถูกคุมตัวเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ตามศาลมีคำสั่งให้จำคุก 6 เดือน

“แม่ภาพคงยังรอคอย“นายเด่น คำแหล้” ผู้เป็นสามี ที่หายตัวไปนับแต่วันที่ 16 เม.ย. 2559 เพื่อที่จะนำตัวพ่อเด่นกลับคืนสู่ผืนดินที่เรียกว่าบ้าน บ้านหลังน้อยบนผืนดินเพียงน้อยนิดที่เป็นที่ทำกิน เป็นที่พักอาศัย ไม่ว่าจะนำกลับมาในสภาพใดก็ตาม”

กว่า 1 ปี 3 เดือนแล้ว จากผู้หญิงอยู่หลังบ้านคอยทำครัว และเคยซ้อนรถมอเตอร์ไซต์พ่อเด่นเพื่อออกไปขายของที่ตลาดทุ่งลุยลาย แต่เมื่อต้องสูญเสียสามีผู้เป็นแกนนำนักต่อสู้เพื่อสิทธิในที่ดินทำกิน ที่หายตัวไปอย่างปริศนา

เมื่อขาดเสาหลักไปแล้ว แม่ภาพต้องนอนอยู่ในบ้านหลังน้อยนี้คนเดียวเพราะไม่มีลูก อีกทั้งต้องเข้าไปหาเก็บหน่อไม้ เก็บเห็ดในป่า และเก็บผักสวนครัวที่ปลูกด้วยตัวเองนำไปขายที่ตลาดทุ่งลุยลายเพียงลำพังแล้วนั้น นอกจากนี้ก็ต้องลุกขึ้นมาเป็นผู้หญิงแถวหน้า เพื่อถามหาความยุติธรรม

แม้ว่าแม่สุภาพต้องขึ้นศาลมาหลายหน ในขณะที่ต้องตามหาสามี แม่ภาพต้องต่อสู้กับโรคภัยที่รุมเร้า และผ่าตัดเนื้องอกในปากมดลูก ต้องทานยาอยู่ตลอดทุกวันเวลา


บักเติ่ง หมาคู่ใจพ่อเด่น

ที่สุดแล้วบ้านหลังน้อยที่ถูกปกคลุมไปด้วยผืนป่าใหญ่ ในชุมชนโคกยาวที่ไม่มีไฟฟ้า กลับกลายเป็นบ้านร้าง อ้างว้าง โดยเฉพาะในความมืดที่เข้ามาเยือนทุกค่ำคืน ความรู้สึกแลดูเงียบเหงาลงอย่างรวดเร็ว แม้แต่บักเติ่ง หมาคู่ใจพ่อเด่น มันยังมีอาการเศร้าหงอยอย่างเห็นได้ชัด

และด้วยความที่บักเติ่งมันเป็นหมา มันจะรู้บ้างไหมว่า หลังจากนายหญิงของมันเดินทางไปยังศาลแล้วจะไม่ได้กลับมายังบ้าน และไม่ได้เป็นผู้ทำกับข้าวให้หมาที่ซื่อสัตย์ต่อเจ้านายมันกินอีกเป็นเวลาหลายเดือน

เพราะนายหญิงของบักเติ่ง คือ สุภาพ คำแหล้ จำเลยที่ 4 ถูกศาลพิพากษาจำคุก 6 เดือน ไม่รอลงอาญาฐานความผิดฐานบุกรุกป่าสงวนภูซำผักหนาม


สภาพบ้าน 'เด่น-สุภาพ คำแหล้'

แม้แม่ภาพต้องถูกจองจำ ในขณะที่ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์อยู่ระหว่างผลการตรวจพิสูจน์วัตถุพยานชิ้นส่วนกะโหลก โดยทราบเบื้องต้นว่า 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นของนายเด่น คำแหล้ เนื่องจากผลการตรวจสอบมีสายพันธุกรรมตรงกับน้องสาว ที่มีการนำไปตรวจเปรียบเทียบ

ในวันที่ทุกคนต่างเฝ้าติดตามรอคอยยังไม่สามารถยืนยันได้ 100% เพื่อชี้ว่าเป็นของนายเด่นอย่างแน่ชัด ถึงที่สุดของความเป็นธรรมในความเป็นธรรมในสังคมไทยนั้น มีที่ยืนให้กับชาวบ้านตัวเล็กๆคนจนๆที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิที่ดินทำกินของพวกเขาบ้างหรือไม่ เพราะที่สุดแล้วหลังจากแม่สุภาพ เดินทางไปศาลตามนัดหมายในวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ไม่ได้กลับเข้าไปยังบ้านน้อยหลังนี้อีกเลย


สภาพบ้าน 'เด่น-สุภาพ คำแหล้'

บ้านนี้ที่มีคนหาย กลับยิ่งกลายเป็นบ้านแสนอ้างว้าง และเงียบเหงาซ้ำเติมยิ่งขึ้นไปอีก เพราะแม่ภาพต้องถูกคุมตัวเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ตามศาลมีคำสั่งให้จำคุก 6 เดือน


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.