Posted: 05 Aug 2018 02:15 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Sun, 2018-08-05 16:15



ผู้ประกอบการผลิตเมล็ดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ กว่า 100 คน แจ้งความดำเนินคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กับนักวิชาการโพสต์เมล็ดพันธุ์ข้าวโพดของกลุ่มเป็นเมล็ดพันธุ์ปลอม ที่มาภาพ: บ้านเมือง

เว็บไซต์บ้านเมือง รายงานเมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2561 ว่าผู้ประกอบการผลิตเมล็ดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และกลุ่มวิสาหกิจ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ กว่า 100 คน เข้าแจ้งความกับตำรวจสถานีตำรวจภูธร อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ เพื่อให้ดำเนินคดีข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์มาตรา 14 กับนักวิชาด้านการเกษตรชื่อดังหลังมีการโพสต์ในโลกโซเซียลว่าเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ใน อ.พร้าว นั้นเป็นเมล็ดพันธุ์ปลอม

ข้อความสนทนาในเฟสบุ๊คของนักวิชาการด้านการเกษตรอิสระ เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา มีการโพสต์พูดคุยถึงเรื่องเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ใน อ.พร้าว ว่า "เป็นเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดปลอมและมีการต้องดูว่าขโมยมาหรือมีงานวิจัยของพร้าวและเป็นการขโมยทั้งอำเภอ" เป็นหลักฐานสำคัญที่ผู้ประกอบการจำหน่ายเมล็ดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 27 รายและชาวบ้านกลุ่มรัฐวิสาหกิจชุมชนกว่า 100 ราย นำมาเป็นหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.พร้าว เพื่อให้ดำเนินคดีกับนักวิชาการด้านการเกษตรชื่อดัง เนื่องจากหลังมีการพูดคุยและแชทคอมเม้นใน เฟสบุ๊คทำให้กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมากส่งผลทำให้ผู้ประกอบการและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่จำหน่ายเมล็ดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เมล็ดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไม่สามารถจำหน่ายได้บางรายมีการสั่งซื้อแล้วแต่ยกเลิกการสั่งซื้อเมล็ดข้าวโพด

นายพลวัฒน์ จันทร์ชื่น ผู้ประกอบการจำหน่ายเมล็ดพันธ์ข้าวโพด ลานนาการเกษตร ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายเมล็ดพันธุ์ให้กับเกษตรกรบ้านนาไร่เดียว อ.สอง จ.แพร่ ซึ่งเป็นผู้ได้โพสต์เรื่องนี้ก่อนเนื่องจากซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดไปแล้วแต่ปลูกไม่ออกทำให้นักวิชาการด้านการเกษตรอิสระเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมเสนอขายเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดของตัวเองให้แต่ต่อมาภายหลังผู้ประกอบการได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่า มีเกษตรกรในพื้นที่บ้านนาไร่เดียวได้ซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไป 4 ราย แต่มีเพียง 1 รายเท่านั้นที่ปลูกแล้วข้าวโพดไม่ออกเนื่องจากปลูกเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. เป็นช่วงที่ฝนไม่ตกและขาดน้ำส่งผลให้ข้าวโพดไม่ออก ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ยอมรับและกล่าวคำขอกับผู้ประกอบการแล้ว แต่สำหรับนักวิชาด้านการเกษตรอิสระนั้นหลังเกิดเหตุไม่ได้มีการติดต่อมาขอโทษและไม่รับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด

ขณะที่นายสุทัต เชื้อนาม กำนันตำบลเขื่อนผาก เปิดเผยว่าในฐานะได้รับมอบอำนาจผู้ประกอบการเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้มีการหารือกันถึงการกระทำดังกล่าวสร้างความเสียหาย ส่งผลให้ยอดขายลดลงและขอคืนเมล็ดพันธุ์ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดไม่เชื่อมั่นในเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของอำเภอพร้าว ทางผู้ประกอบการจึงกังวลว่าถ้าหากไม่มีการดำเนินการหรือชี้แจ้งรวมไปถึงแจ้งความกับผู้ที่ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของอำเภอพร้าวว่าปลอมจริง

ด้านพันตำรวจเอกวิชาธร ผิวพรรณ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรพร้าวได้ออกมารับเรื่องของชาวบ้านพร้อมให้พนักงานสอบสวนรับคดีเป็นพิเศษพร้อมจะเรียกผู้เสียหายมาสอบปากคำก่อนหลังจากนั้นจะเรียกคู่กรณีมาสอบสวนอีกครั้ง

สำหรับอำเภอพร้าวนั้นถือว่าเป็นแหล่งปลูกเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ SME รายใหญ่ทีสุดในประเทศไทยมีผู้ประกอบการ SME รายใหญ่ 44 ราย SMEรายย่อย 100 กว่าราย โดยในแต่ละปีอำเภอพร้าวนั้นสามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ได้ปีละ 10,000 ตัน สร้างรายได้ให้กับอำเภอพร้าวถึง 800 ล้านบาท ซึ่งเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของอำเภอพร้าวนั้นจำหน่ายเพียงกิโลกรัมละ 80 บาท ถ้าเทียบกับบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีการจำหน่ายสามารถลดต้นทุนให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดทั่วประเทศไทย ที่มีพื้นที่ 7 ล้านไร่ คิดเป็นเงินถึงปีละสองพันหนึ่งร้อยล้านบาท[full-post]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.