ธนวัฒน์เดินทางมายื่นหนังสือที่สำนักงานเขตปทุมวัน (ภาพจากเฟสบุ๊ค Tanawat Wongchai)

Posted: 09 Aug 2018 05:30 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Thu, 2018-08-09 19:30


ประธานสภานิสิตเผยทีมจัดงานรับน้องจุฬาฯ ยังเป็นมือใหม่ ทำงานไม่เรียบร้อย หลังพบหนอนในข้าวกล่อง แถมขายบัตรเข้างานให้คนนอกใบละ 500 บาท ชี้ ต้องคืนเงินทั้งหมดให้นิสิต เตรียมเปิดอภิปรายพร้อมไลฟ์สด 14 สิงหาคมนี้

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2561 ธนวัฒน์ วงศ์ไชย ประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เดินทางไปยื่นหนังสือกับ ผอ.สำนักงานเขตปทุมวัน เรียกร้องให้มีการตรวจสอบคุณภาพอาหารภายในหอพักนิสิตจุฬาฯ หลังพบหนอนในข้าวกล่องของกิจกรรมรับน้องก้าวใหม่ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

5 เต็ม 10 คือคะแนนที่ธนวัฒน์ให้กับองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาฯ (อบจ.) ซึ่งเป็นเจ้าภาพในการจัดงานรับน้องก้าวใหม่เมื่อวันที่ 4-6 สิงหาคมที่ผ่านมา เขากล่าวว่าทางสภาได้ทำการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยของกิจกรรมและได้รับเรื่องร้องเรียนมาเป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคืออาหารที่ไม่มีคุณภาพ มีการพบหนอนในอาหารกลางวันที่ทาง อบจ. จัดหามาให้ในสองวันแรกของการทำกิจกรรม ทางผู้ร่วมกิจกรรมได้แจ้งปัญหากับทาง อบจ. ไปตั้งแต่วันแรกแล้ว แต่ก็ยังพบหนอนในอาหารของกิจกรรมวันที่สองอีกอยู่ดี ทางสภานิสิตจึงรายงานเรื่องดังกล่าวลงในแฟนเพจเฟสบุ๊คเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

หลังเรื่องดังกล่าวสร้างเสียงวิจารณ์เป็นวงกว้าง ในวันที่ 6 สิงหาคม อบจ. เปิดเผยว่าการจัดงานรับน้องก้าวใหม่ ฯ มีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 7,000 คน โดยแบ่งกลุ่มผู้เข้าร่วมงานเป็น 36 บ้าน คณะกรรมการดำเนินงานจึงสั่งอาหารจาก 4 แห่ง เพื่อเป็นการกระจายปริมาณอาหารจากแต่ละร้านให้มาส่งทันตามเวลาที่กำหนด และป้องกันอาหารเน่าเสีย โดยแบ่งขอบเขตการรับผิดชอบเป็น 4 ส่วน ได้แก่ อาหารสำหรับผู้ปฏิบัติงานส่วนกลาง อาหารสำหรับเมืองเอ อาหารสำหรับเมืองบี และอาหารสำหรับเมืองซีและดี ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าอาหารดังกล่าวมาจากร้านอาหารที่รับผิดชอบส่วนเมืองซีและดี ทางคณะกรรมการดำเนินงานได้ตักเตือนเรื่องความสะอาดของอาหาร และได้งดสั่งอาหารจากร้านดังกล่าวแล้ว

ในวันเดียวกัน สโมสรนิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบร้านอาหาร และหามาตรการลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม รวมถึงหามาตรการป้องกันเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวในอนาคต โดยชี้ว่าการตักเตือนและสั่งระงับอาหารจากร้านที่มีปัญหายังไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง

ธนวัฒน์ให้ความเห็นว่า ในปัจจุบัน อบจ. จัดสรรงบอาหารกลางวันสำหรับกิจกรรมรับน้องเพียง 27 บาทต่อหัว และคงอัตรานี้มาเป็นเวลาอย่างน้อยสี่ปีแล้ว ซึ่งไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นทุกปี ธนวัฒน์จึงเสนอว่างบในส่วนนี้ควรจะเพิ่มขึ้นเป็น 35 ถึง 40 บาท เพื่อรับประกันว่านิสิตผู้ร่วมกิจกรรมจะได้รับอาหารที่เพียงพอ สะอาด และได้มาตรฐาน


หนอนที่พบในอาหารกลางวัน (ภาพจาก สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)

ปัญหาเรื่องความสะอาด เป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงทุกปีในกิจกรรมรับน้องจุฬาฯ โดยในปีที่แล้ว มีการรณรงค์งดใช้หลอดดูดน้ำร่วมกัน ในปีนี้ทางมหาวิทยาลัยจึงแก้ปัญหาด้วยกันแจกกระติกน้ำ zero-waste ให้กับผู้ร่วมกิจกรรมทุกคนแทน นอกจากนี้ยังมีข้อร้องเรียนเรื่องอาหารสองมาตรฐานอีกด้วย

“ข้าวที่ อบจ. สั่งให้สตาฟของตัวเองกับพี่บ้านมีขนาดต่างกันอย่างชัดเจน ข้าวที่พี่บ้านได้เป็นข้าวคลุกไข่ แต่สตาฟ อบจ. ได้ไก่ทอดกับไข่พะโล้สองฟอง อันนี้ก็เป็นเรื่องสองมาตรฐานที่ต้องถูกตรวจสอบ”

แต่นอกจากอาหารการกินแล้ว ในปีนี้ สภานิสิตฯ ยังพบว่ามีการห้ามไม่ให้บุคคลภายนอกเข้ามาภายในมหาวิทยาลัยในช่วงที่จัดกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นนิสิต หรืออาจารย์ โดยให้เหตุผลว่าเพื่อความปลอดภัยของผู้ร่วมกิจกรรม แต่กลับมีการเปิดขายบัตร visitor ในราคา 500 บาทโดยไม่มีการออกใบเสร็จมีเพียงการจดรายชื่อผู้ซื้อบัตรไว้ ธนวัฒน์มองว่านี่เป็นการผลักภาระให้กับนิสิตคนอื่นที่ต้องการติดต่อธุระ หรือใช้บริการของมหาวิทยาลัยในวันนั้น ทางสภาจึงเรียกร้องให้ อบจ. คืนเงินให้กับนิสิตทุกคนที่ซื้อบัตรดังกล่าวไป

“อบจ. และทีมคนจัดงานปิดมหาวิทยาลัยไม่ให้คนเข้าออกรวมทั้งนิสิต และอาจารย์ โดยอ้างเหตุผลด้านความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมกิจกรรม หากนิสิตอยากเข้างานก็ต้องซื้อบัตร visitor ซึ่งมันก็น่าตั้งคำถามต่อมาตรการรักษาความปลอดภัย ว่าหากมีคนร้ายต้องการจะเข้ามาขโมยของ แค่จ่ายเงินห้าร้อยบาทก็เข้ามาได้แล้ว เราเป็นนิสิตจุฬาฯ ทำไมเราต้องเสียเงินเข้ามหาวิทยาลัยของตัวเองด้วย ที่สำคัญคือ อบจ. ไม่มีอำนาจปิดมหาวิทยาลัย อำนาจในการสั่งปิดเป็นของอธิการบดีเท่านั้น” ธนวัฒน์กล่าว

ธนวัฒน์กล่าวต่อว่า ทางสภาฯ ได้ขอให้ อบจ. ออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าว แต่ อบจ. ยังไม่สะดวก โดยให้เหตุผลว่ายังอยู่ในช่วงเก็บงาน แต่จะสะดวกให้ข้อมูลในวันที่ 14 สิงหาคมนี้ ซึ่งทางสภาจะจัดอภิปรายแบบเปิดในวันดังกล่าว โดยอนุญาตให้นิสิตทุกคนสามารถร่วมฟังได้ และจะมีการไลฟ์สดผ่านแฟนเพจสภานิสิตฯ ด้วย เขายังกล่าวอีกด้วยว่า อบจ. ในฐานะคนจัดงานควรจะแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น โดยยกตัวอย่างองค์กรนักศึกษาในต่างประเทศ ว่าหากเกิดกรณีเช่นนี้ ผู้นำองค์กรนักศึกษามักจะแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก

“ก่อนอื่นทางสภาต้องขอโทษผู้ร่วมกิจกรรม และนิสิตจุฬาฯ ทุกคน แทน อบจ. สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นกับ ทั้งเรื่องข้าว และเรื่องการห้ามเข้ามหาวิทยาลัย ต้องขอโทษที่ทุกคนทำให้เกิดความเดือดร้อน แต่เราไม่ได้นิ่งนอนใจ ในเรื่องของข้าว จะต้องมีคนรับผิดชอบ และถูกลงโทษแน่นอน” ประธานสภานิสิตฯ ยืนยัน

ล่าสุดเพจสภานิสิตฯ ได้เผยแพร่แถลงการณ์ 3 ฉบับ โดยมีข้อเรียกร้องต่อ อบจ. 3 ประเด็น 1. ให้แสดงหลักฐานรายชื่อผู้ซื้อบัตร visitor ในงานรับน้องก้าวใหม่ "อย่างละเอียด" 2. ให้ชี้แจงหลักเกณฑ์การคัดเลือกร้านอาหาร และแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีดังกล่าว และ 3. อาศัยอำนาจตาม ระเบียบจุฬาลงกรณ์ ว่าด้วยสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ อบจ. แสดงหลักฐานการใช้จ่ายงบประมาณทั้งหมดในงานรับน้องก้าวใหม่[full-post]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.