Posted: 23 Aug 2018 02:09 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Thu, 2018-08-23 16:09
ปอท. ออกหมายเรียกแกนนำและสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ 3 คน มารับฟังข้อกล่าวหาในวันศุกร์นี้ หลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย คสช. แจ้งความข้อหาผิด พ.ร.บ. คอมฯ เหตุวิจารณ์รัฐบาลดูด ส.ส. ตัวแทนพรรคเผย ทั้ง 3 คนติดภารกิจ ขอเลื่อนรายตัวไปกลางเดือนหน้า ยืนยันไม่เปลี่ยนจุดยืน แม้โดนคดี
23 ส.ค. 2561 สำนักข่าวแนวหน้ารายงานว่า จากกรณีที่ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารปฏิบัติการประจำกองบัญชาการกองทัพบก ปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ให้ดำเนินคดีกับธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ และไกลก้อง ไวทยการ ว่าที่กรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ซึ่งเป็นผู้ดูแลเพจอนาคตใหม่ ในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2) นำเข้าข้อมูลเท็จอันน่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือสร้างความตื่นตระหนกในหมู่ประชาชน จากกรณีเฟซบุ๊กไลฟ์เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน 2561 ในประเด็นการดูด ส.ส. ของ คสช. โดยใช้คดีความที่ติดตัวส.ส. แต่ละคน มาเป็นเครื่องต่อรอง นอกจากนี้ยังมีการเชิญชวนให้คนที่ติดตามมาเพจ มาร่วมลงชื่อรื้อกระบวนการยุติธรรมอีกด้วย
ล่าสุดพนักงานสอบสวนได้พิจารณาแล้ว มีความเห็นดำเนินคดีกับบุคคลทั้งสามคนคือนายธนาธร นายจารุวรรณ และนายไกลก้อง ในข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.คอมฯ ม.14(2) โดยออกหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อหาในวันศุกร์ที่ 24 ส.ค.2561 เวลา 11.00 น. ที่ บก.ปอท. เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป
ก่อนหน้านี้ ทั้งสามคนได้ไปให้ถ้อยคำต่อ พ.ต.ท.อธิลักษณ์ หวังสิริวรกุล รอง ผกก.3 บก.ปอท. เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมา ตามหมายเรียกพยานของ บก.ปอท.แล้ว โดยทั้งสามได้ขอสงวนสิทธิไม่ให้การใดๆ แจ้งว่าแค่มาตามหมายเรียกพยานเพื่อให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ และแสดงความบริสุทธิ์ใจ
สำหรับการเรียกรายงานตัวในวันศุกร์นี้ ไกลก้องกล่าวกับประชาไทว่า ทั้งสามคนที่ถูกหมายเรียกติดภารกิจกันหมดจึงให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคขอเลื่อนรายงานตัวออกไปเป็นช่วงกลางเดือนกันยายน โดยทางพรรคจะใช้ช่วงเวลาดังกล่าวในการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเตรียมต่อสู้คดีตามกระบวนการต่อไป ทั้งนี้ยืนยันว่าการถูกดำเนินคดีจะไม่ส่งผลต่อจุดยืนและแนวทางของพรรคเพราะการวิพากษ์วิจารณ์ที่ผ่านมาก็ล้วนทำด้วยความสุจริตและบริสุทธิ์ใจทั้งสิ้น ไกลก้องยังแสดงความเป็นห่วงต่อการที่ คสช. ใช้ พ.ร.บ. คอมฯ มาปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ซึ่งผิดจากเจตนารมย์ของกฎหมายที่ตั้งใจจะปกป้องผลประโยชน์ของผู้ใช้อินเตอร์เน็ต
“มีหลายกรณีที่ คสช. ใช้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ดำเนินคดีกับหลายคนที่มีความเห็นตรงกันข้าม หรือไม่ตรงกับ คสช. หรือมีความเห็นไปเชิงวิพาษ์วิจารณ์ ซึ่งผิดจากเจตนารมย์ของ พ.ร.บ. คอมฯ ที่เดิมทีคิดว่าจะเอามาใช้ในเรื่องข้อมูลข่าวสารที่เป็นเท็จหรือหลอกลวงที่ทำให้ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตเสียประโยชน์ แต่กลับมาถูกใช้เพื่อปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น” ไกลก้องกล่าว
ธนาธร จารุวรรณ และไกลก้อง เข้าให้ปากคำที่ ปอท. เมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา
สามมิตรเดินหน้า ดูด ส.ส. ต่อเนื่อง
ประเด็นการดูด ส.ส. ของ คสช. เริ่มเป็นที่พูดถึงหลังจากการเปิดตัวของกลุ่มสามมิตรที่นำโดยสมศักดิ์ เทพสุทิน สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ทั้งสามคนเคยเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักของพรรคไทยรักไทยที่มีบทบาทสำคัญในการชักชวน ส.ส.ในภาคอีสานให้เขาร่วมกับพรรค จนสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ในปี 2544 มาวันนี้ กลุ่มสามมิตรประกาศตัวอย่างชัดเจนว่าต้องการจะสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมีจุดยืนสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เป็นนายกฯ ต่อหลังการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น แม้ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร วงสุวรรณ ต่างออกมาปฏิเสธว่า คสช. ไม่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มสามมิตร อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกสื่อมวลชนถามว่าการเดินสายพบนักการเมืองของกลุ่มสามมิตรถือว่าเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองซึ่งละเมิดคำสั่ง คสช. หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กลับตอบว่า สามารถทำได้ เพราะกลุ่มสามมิตรไม่ใช่พรรคการเมือง
ในช่วงที่ผ่านมา มีนักการเมืองมากกว่า 50 คน แสดงตัวอย่างชัดเจนแล้วว่าจะเข้าร่วมกับกลุ่มสามมิตร ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเคยเป็นนักการเมืองในสังกัดของพรรคไทยรักไทย หรือพรรคเพื่อไทยมาก่อน อาทิ สุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สังกัดพรรคไทยรักไทย เคยเป็นแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.), จำลอง ครุฑขุนทด อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการในรัฐบาลของทักษิณ ชินวัตร, สมคิด บาลไธสง อดีต สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดหนองคาย พรรคเพื่อไทย, เวียง วรเชษฐ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดร้อยเอ็ด 4 สมัย และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย เป็นต้น
ล่าสุด ภิรมย์ พลวิเศษ เลขากลุ่มสามมิตร ได้ออกมาเปิดเผยเมื่อวันที่ 12 สิงหาคมว่า มีอดีต ส.ส. เข้าร่วมกับกลุ่มสามมิตรมากกว่า 200 คนแล้ว แถมยังมีสมาชิกสนับสนุนเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนจากกลุ่มอาชีพต่างๆ อีกหลายล้านคน พร้อมประกาศตัวเป็นศัตรูกับพรรคเพื่อไทย หลังถูกทักษิณวิจารณ์ว่าใช้เงินดูด ส.ส. ได้ แต่ไม่สามารถดูดให้คนมาลงคะแนนเสียงได้
"กลุ่มสามมิตรไม่เคยใช้เงินไปดูดใครเราจะดูดเอาเฉพาะแนวคิดที่ดีมาช่วยกันสร้างสรรค์ทำประโยชน์ให้กับประชาชนและประเทศชาติเท่านั้น มาถึงวันนี้กลุ่มสามมิตรขอประกาศสงครามกับพรรคเพื่อไทยว่าให้มาแข่งความดีกันด้วยนโยบายว่าใครจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนมากกว่ากัน" ภิรมย์กล่าว
[full-post]
ประเด็นการดูด ส.ส. ของ คสช. เริ่มเป็นที่พูดถึงหลังจากการเปิดตัวของกลุ่มสามมิตรที่นำโดยสมศักดิ์ เทพสุทิน สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ทั้งสามคนเคยเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักของพรรคไทยรักไทยที่มีบทบาทสำคัญในการชักชวน ส.ส.ในภาคอีสานให้เขาร่วมกับพรรค จนสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ในปี 2544 มาวันนี้ กลุ่มสามมิตรประกาศตัวอย่างชัดเจนว่าต้องการจะสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมีจุดยืนสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เป็นนายกฯ ต่อหลังการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น แม้ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร วงสุวรรณ ต่างออกมาปฏิเสธว่า คสช. ไม่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มสามมิตร อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกสื่อมวลชนถามว่าการเดินสายพบนักการเมืองของกลุ่มสามมิตรถือว่าเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองซึ่งละเมิดคำสั่ง คสช. หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กลับตอบว่า สามารถทำได้ เพราะกลุ่มสามมิตรไม่ใช่พรรคการเมือง
ในช่วงที่ผ่านมา มีนักการเมืองมากกว่า 50 คน แสดงตัวอย่างชัดเจนแล้วว่าจะเข้าร่วมกับกลุ่มสามมิตร ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเคยเป็นนักการเมืองในสังกัดของพรรคไทยรักไทย หรือพรรคเพื่อไทยมาก่อน อาทิ สุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สังกัดพรรคไทยรักไทย เคยเป็นแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.), จำลอง ครุฑขุนทด อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการในรัฐบาลของทักษิณ ชินวัตร, สมคิด บาลไธสง อดีต สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดหนองคาย พรรคเพื่อไทย, เวียง วรเชษฐ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดร้อยเอ็ด 4 สมัย และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย เป็นต้น
ล่าสุด ภิรมย์ พลวิเศษ เลขากลุ่มสามมิตร ได้ออกมาเปิดเผยเมื่อวันที่ 12 สิงหาคมว่า มีอดีต ส.ส. เข้าร่วมกับกลุ่มสามมิตรมากกว่า 200 คนแล้ว แถมยังมีสมาชิกสนับสนุนเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนจากกลุ่มอาชีพต่างๆ อีกหลายล้านคน พร้อมประกาศตัวเป็นศัตรูกับพรรคเพื่อไทย หลังถูกทักษิณวิจารณ์ว่าใช้เงินดูด ส.ส. ได้ แต่ไม่สามารถดูดให้คนมาลงคะแนนเสียงได้
"กลุ่มสามมิตรไม่เคยใช้เงินไปดูดใครเราจะดูดเอาเฉพาะแนวคิดที่ดีมาช่วยกันสร้างสรรค์ทำประโยชน์ให้กับประชาชนและประเทศชาติเท่านั้น มาถึงวันนี้กลุ่มสามมิตรขอประกาศสงครามกับพรรคเพื่อไทยว่าให้มาแข่งความดีกันด้วยนโยบายว่าใครจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนมากกว่ากัน" ภิรมย์กล่าว
แสดงความคิดเห็น