Posted: 03 Dec 2018 07:55 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Mon, 2018-12-03 22:55


ประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มอบรางวัลศูนย์บริการหลักประกันสุขภาพฯ ดีเด่นปี 2560 รพ.กำแพงเพชร คว้าอันดับ 1 ระดับ รพศ./รพท. ขณะที่ รพ.ละงู จ.สตูล คว้าอันดับหนึ่ง ระดับ รพช. ผลงานเยี่ยมคุ้มครองสิทธิประชาชน ช่วยลดความขัดแย้งในระบบสุขภาพ พร้อมเปิดประชุมเครือข่ายคุ้มครองสิทธิ ปี 2562 แลกเปลี่ยน เรียนรู้ สู่การพัฒนา

3 ธ.ค.2561 ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ หลักสี่ กรุงเทพฯ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เปิดการสัมมนาเครือข่ายคุ้มครองสิทธิ ประจำปี 2562 พร้อมมอบรางวัลศูนย์บริการหลักประกันสุขภาพและการจัดการความขัดแย้งในหน่วยบริการดีเด่นประจำปี 2560 จัดโดยความร่วมมือศูนย์สันติวิธีสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 500 คน ประกอบด้วย ผู้รับผิดชอบงานรับเรื่องร้องเรียนและงานคุณภาพบริการในหน่วยบริการ, เจ้าหน้าที่งานรับเรื่องร้องเรียนและคุ้มครองสิทธิใน สสจ. สำนักงานเขตสุขภาพ, ศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชนและหน่วยรับเรื่องร้องเรียนเป็นอิสระจากผู้ถูกร้องเรียน เป็นต้น

นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า หลักการสำคัญของการสร้างหลักประกันสุขภาพ คือการพัฒนาระบบคุณภาพการบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพมาตรฐานด้วยความมั่นใจ แต่ในขณะเดียวกันผู้ให้บริการต้องมีความสุข ส่วนหนึ่งที่ทำให้หลักการนี้บรรลุเป้าหมายได้ คือการพัฒนาระบบรับเรื่องร้องเรียนและคุ้มครองสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติด้วยกลวิธีและรูปแบบการดำเนินงานต่างๆ โดยพัฒนามาตรฐานการดำเนินงาน การสร้างเครือข่ายความร่วมมือจากทุกภาคส่วน อาทิ หน่วยบริการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานเขตสุขภาพ หน่วยรับเรื่องร้องเรียนอื่นที่เป็นอิสระจากผู้ถูกร้องเรียน ศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชน กลไกประสานงานภาคประชาชนระดับเขต และ สปสช.

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อว่า ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติของไทยที่ปัจจุบันนี้เดินหน้ามาเป็นปีที่ 17แล้วนั้น ได้เป็นตัวอย่างแก่นานาชาติในการเป็นต้นแบบประเทศกำลังพัฒนาที่สร้างหลักประกันสุขภาพให้ประชาชนได้ ซึ่งการพัฒนามีความก้าวหน้ามาตามอย่างต่อเนื่อง ทั้งระบบหลักประกันสุขภาพและระบบบริการสาธารณสุข ซึ่งมีความร่วมมืออย่างดีระหว่างกระทรวงสาธารณสุข สปสช. เครือข่ายภาครัฐและเอกชน แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการคุ้มครองสิทธิของประชาชน หากทำเรื่องนี้ไม่สำเร็จ การดำเนินการระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติก็ถือว่าไม่ประสบผลสำเร็จเช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยาก ผู้ที่เรื่องนี้ได้ต้องมีศักยภาพ มีความเห็นอกเห็นใจระหว่างกัน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน คือ ประชาชนสุขภาพดี เจ้าหน้าที่มีความสุข

“ปัจจุบันศูนย์บริการหลักประกันสุขภาพในหน่วยบริการได้มีการจัดตั้งอยู่ในโรงพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อดูแลและคุ้มครองสิทธิประชาชนให้เข้าถึงบริการ แก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ทั้งเป็นกลไกที่ช่วยลดความขัดแย้งในระบบสุขภาพ โรงพยาบาลที่ได้รับมอบรางวัลในวันนี้ต่างได้พัฒนารูปแบบการดำเนินงานของศูนย์บริการหลักประกันสุขภาพฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เป็นต้นแบบให้โรงพยาบาลอื่นๆ ได้เรียนรู้เพื่อปรับปรุงและพัฒนาศูนย์บริการหลักประกันสุขภาพในหน่วยบริการตนเองต่อไป” รมว.สาธารณสุข กล่าว

นพ.ชาตรี บานชื่น ประธานกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข กล่าวว่า สิ่งที่คณะกรรมการควบคุมคุณภาพฯ ได้รับผิดชอบ 2 เรื่องสำคัญก็คือเรื่องมาตรา 41 ที่จะช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการรักษาพยาบาล อีกส่วนหนึ่งคือการพัฒนา root cause analysis หรือการวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหา โดยสิ่งสำคัญคือการหาปัจจัยที่เป็นพื้นฐานของความคลาดเคลื่อน เพื่อจะนำไปสู่การพัฒนาที่ดีขึ้น อีกองค์กรหนึ่งที่สำคัญคือคณะอนุกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานในระดับเขต ซึ่งเหล่านี้คือหน่วยงานที่จะรับเรื่องกลับไปใช้ในการพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพและคุณภาพของการให้บริการสาธารณสุข

“ฉะนั้นหน้าที่ของคณะกรรมการควบคุมคุณภาพฯ เราไม่ได้ไปทำหน้าที่แบบควบคุม แต่เราเข้าไปจับถูกมากกว่าจับผิด เราเข้าไปช่วยให้เครือข่ายของเราได้ร่วมกันพัฒนาระบบสาธารณสุข ตลอดกว่า 10 ปี ที่มีระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทิศทางการพัฒนาก็ยั่งยืนขึ้นเรื่อยๆ แต่เรายังมีการบ้านที่ต้องทำต่อเพื่อให้จุดอ่อนที่อาจจะยังมีบ้างให้ประสบผลสำเร็จมากยิ่งขึ้น” นพ.ชาตรี กล่าว

นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา สปสช.ได้ให้ความสำคัญต่องานคุ้มครองสิทธิมาโดยตลอด และจากความร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการดำเนินงานของศูนย์บริการหลักประกันสุขภาพในหน่วยบริการทั่วประเทศ ไม่เพียงแต่ช่วยแก้ไขปัญหาและอุปสรรคให้ผู้ป่วยที่เข้าไม่ถึงสิทธิ ให้เข้าถึงการรักษาและบริการสาธารณสุข แต่ด้วยกระบวนการที่เน้นสร้างความเข้าใจยังลดความขัดแย้งระหว่างผู้ป่วยและผู้ให้บริการในระบบสุขภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติมีความเข้มแข็งและยั่งยืน ปัจจุบันมี ศูนย์บริการหลักประกันสุขภาพในหน่วยบริการ 885 แห่ง เพื่อให้เข้าถึงสิทธิและบริการ เคารพถึงสิทธิ

เลขาธิการ สปสช. กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติและสร้างขวัญกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติงาน ได้มีการคัดเลือกศูนย์บริการหลักประกันสุขภาพที่มีผลงานดีเด่น เข้ารับมอบรางวัลศูนย์บริการหลักประกันสุขภาพและการบริหารจัดการความขัดแย้งในหน่วยบริการดีเด่น ระดับประเทศ ประจำปี 2560” โดยประเภทโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป 3 อันดับ คือ 1.โรงพยาบาลกำแพงเพชร 2.โรงพยาบาลสตูล และ 3.โรงพยาบาลพระนครศรีอยุทธยา ส่วนประเภทโรงพยาบาลชุมชน 3 อันดับ คือ 1.โรงพยาบาลละงู จ.สตูล 2.โรงพยาบาลแม่สรวย จ.เชียงราย และ 3.โรงพยาบาลหลวงพ่อเปิ่น จ.นครปฐม นอกจากนี้ยังมีศูนย์บริการหลักประกันสุขภาพฯ ในหน่วยบริการที่ได้รับรางวัลในระดับเขตด้วย
[full-post]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.