สหรัฐกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ซาอุฯประกาศขายพันธบัตรและทรัพย์สินของสหรัฐ 750,000 ดอลลาร์หากผ่านร่างกฎหมาย 9/11 ให้ซาอุฯรับผิดชอบ หวั่นถูกชาวอเมริกันฟ้องร้องและศาลสั่งอายัดทรัพย์ซาอุฯทั้งหมดในสหรัฐได้

หนังสือพิมพ์ The New York Times ฉบับวันที่ 16 เมษายน 2016 รายงานว่านายอาเดล อัล-จูบีร์ รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดิ อาระเบียได้แจ้งไปยังฝ่ายบริหารรัฐบาลบารัค โอบามาและผู้นำสภาคองเกรสสหรัฐเมื่อเดือนมีนาคมว่าจุดยืนของซาอุดิ อาระเบียจะต้องขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพร้อมทรัพย์สินอื่นๆของสหรัฐในสหรัฐฯที่ซาอุฯถืออยู่ออกไป หากสภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมาย 9/11

ทั้งนี้ร่างกฎหมายฉบับนี้หากผ่านสภาคองเกรสถือว่าซาอุดิ อาระเบียจะต้องรับผิดชอบเหตุการณ์เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 ที่ระบุว่าเป็นผู้สนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายนำเครื่องบินขึ้นบินชนตึกแฝดเวิลด์เทรดที่นิวยอร์กและอีกลำบินไปโจมตีกระทรวงกลาโหมสหรัฐ

มีรายงานว่าฝ่ายบริหารรัฐบาลโอบามาพยายามที่จะหยุดยั้งร่างกฎหมายฉบับนี้อันเป็นกฎหมายเป็นกลางของวุฒิสภาสหรัฐ( bipartisan Senate bill)หมายความว่าทั้ง 2 พรรคเห็นร่วมกันไม่ได้เป็นของพรรคใดพรรคหนึ่ง

ร่างกฎหมายฉบับนี้เสนอโดยนายจอห์น คอร์นิน วุฒิสมาชิกรัฐเท็กซัส พรรครีพับลิกันและนายชัค ชูเมอร์ วุฒิสมาชิกรัฐนิวยอร์ก พรรคเดโมแครต ได้รับการสนับสนุนจากวุฒิสมาชิกสายอนุรักษ์อาทิเช่นนายอัล แฟรงก์ มินเนโซต้า-เดโมแครต,เท็ด ครูซ รีพับลิกัน-เท็กซัส (ปัจจุบันกำลังหาเสียงเป็นผู้แทนของพรรคลงชิงชัยประธานาธิบดี) โดยร่างกฎหมายผ่านคณะกรรมาธิการยุติธรรมไปเมื่อเดือนมกราคม 2016 เรียบร้อยพร้อมที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุมวุฒิสภาทั้งคณะ

รายงานข่าวเปิดเผยว่าระหว่างที่นายอัล-จูบีร์เดินทางมาวอชิงตันเมื่อเดือนมีนาคม ซาอุฯประกาศว่าจะขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 750,000 ล้านดอลลาร์รวมทั้งทรัพย์สินต่างๆของอเมริกันที่ซาอุดิ อาระเบียถือครองอยู่ให้กับตลาดโลก โดยเกรงว่าร่างกฎหมายฉบับนี้จะผ่านเป็นกฎหมาย

การยื่นคำขาดของซาอุดิ อาระเบียครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังจากประธานาธิบดีโอบามาอยู่ในระหว่างการตัดสินใจว่าจะเปิดเผยเอกสาร 28 หน้าที่เกี่ยวพันไปถึงประเทศซาอุฯว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีในเหตุการณ์ 11 กันยายน 2011

นายบ๊อบ แกรห์ม อดีตวุฒิสมาชิกรัฐฟลอริด้า พรรคเดโมแครต ให้สัมภาษณ์กับ Fox News เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2016 ว่าทำเนียบขาวกำลังตัดสินใจว่าจะเปิดเผยเอกสารดังกล่าวหรือไม่ โดยมีเวลาในการตัดสินใจ 60 วัน

ทั้งนี้เมื่อปี 2002 นายแกรห์ม เป็นผู้นำสภาคองเกรสรณรงค์ให้เปิดเผยรายละเอียดเรื่องสหรัฐถูกโจมตี

เรื่องนี้ทั้งรัฐบาลนายจอร์จ บุชและรัฐบาลนายบารัค โอบามา ปฏิเสธที่จะเปิดเผย โดยให้เหตุผลว่าหากเปิดเผยจะเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของประเทศ

ฝ่ายวิจารณ์ให้ความเห็นว่าเอกสารดังกล่าวระบุว่าซาอุดิ อาระเบียมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มอัล-ไควดะ ซึ่งสหรัฐถือว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย จากนั้นส่งคนเข้าโจมตีในแผ่นดินของสหรัฐในลักษณะของการก่อการร้ายเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 3,000 คน

ภายหลังจากนั้นพลเมืองอเมริกันก็มีการกดดันรัฐบาลตลอดมาเพื่ออยากทราบข้อเท็จจริงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะครอบครัวของเหยื่อในเหตุการณ์ยื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐเพื่อที่จะเรียกทรัพย์สินคืนจากรัฐบาลซาอุฯ,ราชวงศ์ซาอุฯ,ธนาคารซาอุฯและองค์กรกุศลต่างๆในฐานะที่สนับสนุนการก่อการร้าย แต่กฎหมายของสหรัฐปี 1976 ให้การคุ้มครองต่างชาติบางคดีว่าไม่สามารนำไปฟ้องร้องในศาลสหรัฐได้

สำหรับร่างกฎหมายที่นำเสนอนี้จะไม่มีข้อยกเว้นหากพบว่าประเทศใดให้การสนับสนุนการก่อการร้ายจากนั้นเข้ามาเข่นฆ่าคนอเมริกันในแผ่นดินสหรัฐอเมริกา

หากร่างกฎหมายผ่านและมีผลบังคับ ชาวอเมริกันหรือต่างชาติที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ 9/11 สามารถนำคดีขึ้นสู่ศาลอเมริกันได้ ขณะเดียวกันศาลอเมริกันก็มีสิทธิที่จะสั่งอายัดทรัพย์สินของซาอุฯในสหรัฐได้เช่นกัน

เมื่อต้นเดือนเมษายน 2016 วุฒิสมาชิกสหรัฐ 2 คนได้เสนอ resolution เพื่อจำกัดไม่ให้รัฐบาลอเมริกันขายอาวุธให้กับซาอุดิ อาระเบียได้ง่ายขึ้น

อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีโอมาบาได้รับการกดดันครั้งใหม่เรื่องให้เปิดเผยเอกสารก่อนที่สัปดาห์นี้จะเดินทางไปประชุมสุดยอดกลุ่มอาหรับร่วมกับผู้นำของประเทศต่างๆในอ่าวเปอร์เซีย โดยวันที่ 20 เมษายนประธานาธิบดีโอบามาเดินทางถึงกรุงริยาดห์เพื่อเข้าเฝ้ากษัตริย์ซัลมานแห่งซาอุฯและพบปะเจ้าหน้าที่ซาอุฯคนอื่น แต่ก็ยังไม่แน่ชัดว่าจะมีการนำเรื่องร่างกฎหมาย 9/11 เข้าสนทนาด้วยหรือไม่

ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์เห็นว่าคำขู่ของซาอุฯเป็นไปได้ยากเพราะหากลงมือกระทำจะทำให้ซาอุฯตกอยู่ในความยุ่งยากทางด้านเศรษฐกิจเพราะซาอุฯยังอิงแอบกับเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ

อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้คณะกรรมการ 9/11 (9/11 Commission)เปิดเผยว่าไม่พบหลักฐานใดๆว่ารัฐบาลซาอุฯสนับสนุนการโจมตี “ไม่มีหลักฐานใดๆว่ารัฐบาลซาอุดิฯหรือสถาบันหรือเจ้าหน้าที่อาวุโสของซาอุฯให้เงินทุนแก่องค์กรก่อการร้าย”



15 ประเทศหรือกลุ่มประเทศที่ถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐหรือนัยหนึ่งสหรัฐเป็นหนี้ประเทศเหล่านี้อยู่ โดยจีนเป็นเจ้าหนี้สหรัฐมากที่สุดรองลงมาเป็นญี่ปุ่น, Caribbean Banking Center ( หรือพวก Offshore) ,ประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน เป็นต้น ตัวเลขนี้โดยกระทรวงการคลังสหรัฐ ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2016

เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ National Debt Of The United States

http://www.wow.com/wiki/United_States_national_debt

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

ซาอุฯนำเข้าอาวุธมากที่สุด

เมื่อปี 2015 สำนักงาน IHS Jane 360 รายงานเรื่องการค้าอาวุธ(Global Defence Trade Report)พบลง่าในปี 2014 ซาอุดิ อาระเบียแซงหน้าขึ้นเป็นประเทศนำเข้าอาวุธเป็นอันดับ 1 ด้วยเงิน 6.4 พันล้านดอลลาร์ แซงหน้าอินเดียที่นำเข้าเป็นอันดับ 2 ด้วยงบประมาณ 5.57 พันล้านดอลลาร์


สหรัฐฯส่งอออกอาวุธมากที่สุด

สำนักงานฯรายงานด้วยว่าประเทศที่ส่งออกอาวุธมากที่สุดในปี 2014 คือสหรัฐอเมริกาด้วยเงินทั้งหมด 23.7 พันล้านดอลลาร์ (เพิ่ม 19 % เทียบกับการส่งออกปี 2013) ตามด้วยรัสเซียส่งออก 10 พันล้านดอลลาร์ (เพิ่ม 9 % เทียบกับการส่งออกปี 2013) สามารถดูตารางได้ทั้งประเทศนำเข้าและประเทศส่งออก

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.