หญิงมือปราบนักล่าแม่มดของอินเดีย
บีรูบาลา รับฮา หญิงชราในรัฐอัสสัมของอินเดีย เป็นแกนนำการต่อสู้กับกลุ่มหมอเถื่อนและหมอผี ที่มักสมคบกับคนในท้องถิ่นกล่าวหาผู้หญิงว่าเป็นแม่มด เพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากเหยื่อเหล่านี้
รับฮา เล่าว่า เธอเติบโตขึ้นมาพร้อมกับความเชื่อเรื่องแม่มด ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นหญิงชั่วร้ายที่มีคาถาอาคมคอยสร้างสิ่งอัปมงคลให้กับคนในหมู่บ้าน แต่ความเชื่อของเธอในเรื่องนี้ได้เปลี่ยนไปเมื่อ 30 กว่าปีก่อน หลังจากลูกชายของเธอป่วยเป็นไข้ไทฟอยด์ โดยหมอเถื่อนในหมู่บ้านบอกว่า ลูกของเธอต้องคำสาปจากผู้หญิงที่กำลังตั้งท้องคนหนึ่ง และจะต้องตายเมื่อผู้หญิงคนดังกล่าวคลอดลูกออกมา อย่างไรก็ตาม ลูกชายของรับฮาหายดี และไม่มีเหตุการณ์เลวร้ายใด ๆเกิดขึ้นหลังจากนั้น ด้วยเหตุนี้เธอจึงเลิกไปหาหมอเถื่อน เพราะรู้สึกว่าคนเหล่านี้เป็นพวกหลอกลวงต้มตุ๋น
ในเวลาต่อมา รับฮาได้เข้าไปทำงานให้กลุ่มสตรีในท้องถิ่น แล้วจึงได้ทราบว่ามีผู้หญิงจำนวนมากถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด เพราะญาติพี่น้องหรือเพื่อนบ้านต้องการฮุบที่ดินและทรัพย์สิน หรือต้องการแก้แค้นเพราะมีเรื่องบาดหมางกัน โดยรัฐอัสสัมนั้นถือเป็นรัฐที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์มากที่สุดในประเทศ และ หมู่บ้านของชนพื้นเมืองเหล่านี้ก็เต็มไปด้วยความเชื่อเรื่องผีสางเทวดาและไสยศาสตร์มนต์ดำ
นอกจากนี้ ระบบสาธารณสุขที่ไม่ดีก็ทำให้บรรดาหมอเถื่อนและหมอผีสมคบคิดกับชาวบ้านบางคน กล่าวหาผู้หญิงว่าเป็นต้นเหตุของสิ่งอัปมงคลต่าง ๆที่เกิดขึ้น อาทิ พืชผลการเกษตรเสียหาย โรคภัยไข้เจ็บ และภัยธรรมชาติต่าง ๆ เพื่อที่จะเรียกเงินค่ารักษา โดยกลุ่มผู้หญิงโสด แม่ม่าย หรือคนชรามักตกเป็นเป้าหมาย
ข้อมูลจากทางการอินเดียพบว่า นับแต่ปี 2543 เป็นต้นมาเกิดเหตุฆาตกรรมผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดกว่า 2,000 ราย ส่วนในรัฐอัสสัมมีรายงานว่านับแต่ปี 2553 มีผู้ถูกสังหารจากการ “ล่าแม่มด” อย่างน้อย 77 ราย โดยเหยื่อส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง และอีก 60 รายได้รับบาดเจ็บ
ด้วยเหตุนี้ รับฮา จึงทำโครงการต่อต้านการล่าแม่มด ด้วยการออกให้ความรู้แก่ชาวบ้าน และเรียกร้องให้ทางการช่วยคุ้มครองผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ ซึ่งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา รับฮา ได้ช่วยผู้หญิงราว 35 คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด อีกทั้งยังผลักดันให้รัฐบาลรัฐอัสสัมออกกฎหมายต่อต้านการล่าแม่มดที่เข้มงวดที่สุดของอินเดีย


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.