เปิดคำพิพากษาคดีอุ้มบุญที่เคยโด่งดัง ศาลออสเตรเลียชี้คู่สามี-ภรรยาจากแดนจิงโจ้ไม่ได้ทอดทิ้ง “แกมมี่”
ศาลในออสเตรเลียมีคำพิพากษาวันนี้ชี้ขาดว่าแฝดหญิงที่เกิดพร้อมกับ “แกมมี่” เด็กชายที่เกิดจากแม่อุ้มบุญชาวไทยสมควรได้รับการเลี้ยงดูโดยคู่สามี-ภรรยา ชาวออสเตรเลียที่ว่าจ้างหญิงไทยให้ตั้งท้อง พร้อมระบุคนทั้งคู่ไม่เคยทอดทิ้งแกมมี่
เมื่อเดือนธันวาคม 2556 นายเดวิด ฟาร์เนลล์ และนางเวนดี้ ภรรยา ว่าจ้างให้ น.ส.ภัทรมน จันทร์บัว ตั้งท้องแทนโดยใช้สเปิร์มของนายฟาร์เนลล์ และไข่ของผู้บริจาค น.ส.ภัทรมน คลอดทารกฝาแฝดชายคือแกมมี และพิพาห์ แฝดหญิง ซึ่ง น.ส.ภัทรมน ระบุว่าคู่สามี-ภรรยา ทอดทิ้งแกมมี่เนื่องจากมีอาการดาวน์ซินโดรม
จากนั้นครอบครัวฟาร์เนลล์เดินทางกลับออสเตรเลียกับพิพาห์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ขณะที่ น.ส.ภัทรมน ยื่นเรื่องต่อศาลขอสิทธิ์ในการนำตัวพิพาห์เดินทางกลับประเทศไทย ในเวลาเดียวกันมีการเปิดเผยข้อมูลว่านายฟาร์เนลล์เคยกระทำความผิดทางเพศกับเด็ก ซึ่งประเด็นนี้ก่อให้เกิดข้อถกเถียงเกี่ยวเนื่องกับเรื่องการเลี้ยงดูเด็กหญิงพิพาห์
อย่างไรก็ดี หัวหน้าคณะผู้พิพากษาศาลครอบครัว ของออสเตรเลียตะวันตกตัดสินว่าพิพาห์ควรอยู่กับครอบครัวฟาร์เนลล์ต่อไป ศาลยังรับทราบด้วยว่าคดีดังกล่าวได้ก่อให้เกิดความกระทบกระเทือนทางจิตใจกับทุกฝ่าย ขณะที่ความแตกต่างทางวัฒนธรรมและภาษายิ่งทำให้มีความขัดแย้งและเห็นไม่ตรงกันมากขึ้น
ศาลยังบันทึกไว้ด้วยว่า แม้นายฟาร์เนลล์วัย 58 ปี จะเคยถูกลงโทษจากการกระทำความผิดทางเพศเกี่ยวกับเด็ก แต่เห็นว่ายังมีความเสี่ยงต่ำที่เขาจะล่วงละเมิดพิพาห์ นอกจากนี้ศาลยังพบด้วยว่าครอบครัวฟาร์เนลไม่ได้นำเงินกองทุนที่ตั้งขึ้นให้แกมมี่มาใช้ตามที่เคยมีข่าว
เรื่องราวของแกมมี่เป็นข่าวที่สร้างความสนใจไปทั่วโลกและมีผู้บริจาคเงินสมทบเข้ากองทุนให้แกมมี่ โดยองค์กรการกุศลแห่งหนึ่งของออสเตรเลียนำไปใช้จ่ายในการรักษาแกมมี่ และซื้อบ้านให้ น.ส.ภัทรมนและลูก ๆ ‪#‎อุ้มบุญ‬


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.