ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์: เกย์ กองทัพ กับความจริงที่อัปลักษณ์
Posted: 23 Apr 2016 02:08 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)
ผมว่าจะเขียนเรื่องนี้สักพั กละครับ วันนี้ได้มีโอกาสนั่ งรวบรวมความคิด และได้ทำการศึกษาข้อมูลส่วนหนึ่ ง เกี่ยวกับสถานะของ “เกย์” ในกองทัพ ความคิดที่จะเขียนในหัวข้อที่มี ความละเอียดอ่อนนี้ ได้แรงบันดาลใจมากสิ่งที่เกิดขึ ้นในกองทัพไทยหลายครั้งหลายหน ล่าสุด ได้มีการเผยแพร่การฝึกซ้ อมของทหารไทยที่ดูแปลกพิลึก หลายคนมองว่าป่าเถื่อน โหดร้าย (แบบที่มีการทารุ ณกรรมและการลงโทษจนเสียชีวิตก็ มี) และแฝงไปด้วยนัยยะของ “เพศ” อยู่มาก ดังเช่นภาพที่ ปรากฏของทหารไทยแก้ผ้าล่อนจ้อน นอนทับซ้อนกัน ลูบคลึง จับ ดม อวัยวะ “ต้องห้าม” หรือที่ฝรั่งเรียกว่า private parts ความคิดเบื้องต้นจากฝ่ายกองทั พอาจต้องการสื่อว่า นี่การฝึกแบบชายชาติทหาร ที่ต้องเอาความอดทน ความหน้าด้านเข้าไว้ ไม่เห็นจะเสียหายอะไร ในส่วนมุมมองของสาธารณชนนั้น มันเป็นเรื่องอุจาด และไม่มีกองทัพในโลกพัฒนาแล้วที ่ไหนที่จะมีการฝึกแบบพิ ศดารแบบนี้ แต่สำหรับผม การฝึกแบบนั้น มันซ้อนเร้นความจริงที่อัปลั กษณ์ (ugly truths) บางอย่างของสังคมไทย เรามาเปิดดูความอัปลักษณ์นั้นกั น
ก่อนอื่น ที่ผมท้าวความเบื้องต้นเกี่ยวกั บเรื่องเกย์ในกองทัพนั้น หลายคนอาจสงสัยว่า แล้วเกี่ยวข้องอย่างไรกับการฝึ กซ้อมพิเรนทร์แบบนั้น ผมขอกล่าวสั้นๆ ณ ที่นี่ก่อนว่า การฝึกซ้อมที่ใช้เพศเป็นจุด focus นั้น ต้องการที่ชี้ความเป็นใหญ่ ของเพศชาย (male chauvinism) และในบริบทของสังคมไทยนั้น เป็นที่น่าเศร้า ที่แม้ว่ากลุ่มเกย์จะสามารถใช้ ชีวิตทั่วไปอย่างเสรีเยี่ยง “ปกติชน” แต่เมื่อใดก็ตามที่มีการวิ เคราะห์เพศสภาพในกรอบศีลธรรมแล้ ว กลุ่มเกย์ไทยแทบจะไม่มีที่ยืน เช่นเดียวกันกับการเป็นเกย์ ในกองทัพ แต่เรื่องนี้มันซับซ้อนกว่านั้น เพราะมีนายพลหลายคนในไทยที่ต้ องจมอยู่ในข่าวลือเกี่ยวกับ sexual orientation ของพวกเขา ตั้งแต่ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ไปถึงพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ แต่บุคคลเหล่านี้สามารถปีนบั นไดแห่งความสำเร็จในกองทัพได้ ซึ่งมันมีปัจจัยหลายอย่างที่อธิ บายถึงความสำเร็จเหล่านั้น ที่ผมไม่ขอพูดในบทความนี้
กลับมาเรื่องเกย์ในกองทัพครับ ขอยกตัวอย่างกรณีที่เห็นในสหรั ฐอเมริกาที่มีการถกเถียงและอภิ ปรายเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง จนในยุคปัจจุบัน มีความพยายามของภาครัฐในการสร้ างความเท่าเทียมกันมากขึ้นระหว่ างกลุ่ม heterosexuals และกลุ่ม homosexuals ในกองทัพ เมื่อไม่นานมานี้ กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ได้ขอให้ผู้ที่ต้องการเข้าสมั ครเข้าเป็นทหารได้ระบุ สถานะทางเพศ เพื่อที่กองทัพจะสามารถให้ ความช่วยเหลือและสนับสนุ นทหารเกย์ได้อย่างเต็มที่ แต่ข้อมูลนี้จะไม่ได้ถูกเปิ ดเผยต่อสาธารณะหรือแม้แต่ต่อผู้ บังคับบัญชาอย่างใด โดยกองทัพสหรัฐฯ ให้ความเห็นว่า รัฐบาลมีความต้องการสนับสนุ นความหลากหลายของผู้เข้ารั บราชการ แต่ผู้ที่สมัครก็ยังมีสิทธิที่ จะไม่ระบุสถานะทางเพศของตัวเอง เลือกได้ครับ จะเอาอย่างไรก็ว่ามา
ระบบใหม่นี้ชี้ถึงความเปลี่ ยนแปลงในกองทัพสหรัฐฯ ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ก่อนหน้าปี ค.ศ. 2000 นั้น เกย์ยังเป็นกลุ่มต้องห้ ามในการสมัครเป็นทหารด้วยซ้ำ นอกจากนี้ ยังมีรายงานอยู่เนืองๆ เกี่ยวกับ ความมีอคติ การใช้ความรุนแรงและความก้าวร้ าวต่อกลุ่มเกย์ในกองทัพในยุคสมั ยนั้น จนนำไปสู่การฟ้องร้องคดีในชั้ นศาล ที่ในที่สุด กองทัพต้องชำระค่าเสียหายต่อผู้ ที่เกย์ถูกทำทารุณกรรมในกองทั พหลายคน แต่ปรากฏการณ์เหล่านั้นกำลั งหายไปจากกองทัพอเมริกัน แม้จะไม่หายไปหมดเสียทีเดียว แต่ก็นับว่า นโยบายของกองทัพสหรัฐฯ ได้พัฒนาไปมาก
ในกรณีของไทย นอกเหนือไปจากดีเบตเรื่ องเราควรมีการเกณฑ์ทหารอีกไหม ซึ่งหลายคนคงทราบจุดยืนที่ไม่ เห็นด้วยของผมแล้ว ผมไม่ขอพูดถึงอีก แต่ในทุกฤดูการเกณฑ์ทหาร เราจะพบเห็นเกย์ไทยปรากฏตัวเพื่ อรอคิวจับใบดำใบแดง บางคนแต่งตัวมาเป็นผู้หญิ งสวยและน่ารักด้วยซ้ำไป แม้หลายคนจะมองว่าเป็นความกล้ าหาญในส่วนหนึ่งของน้องกลุ่มนี้ แต่ทัศนคติของกองทัพยังไม่เปลี่ ยน ยังมองว่า กลุ่มคนพวกนี้ไม่มี ความเหมาะสมในการเกณฑ์ ทหารเพราะไม่ได้เป็น “ชายแท้” (และแม้ในความเป็นจริง น้องๆ เหล่านี้ ไม่ว่าเกย์หรือไม่ ก็อาจไม่อยากเป็นทหารด้วยซ้ำ)
ในกรณีการจับใบดำใบแดงนั้น ผมได้เห็นคลิปมากมายที่ ปรากฏในโซเชี่ยลมีเดีย ทหารผู้ใหญ่ที่คุมกระบวนการจั บใบดำใบแดง ส่วนหนึ่งมีปฏิกิริยาล้อเลียนน้ องๆ ที่เป็นเกย์ ที่อาจมีจริตจะก้าน กระตุ้งกระติ้ง ซึ่งผมเห็นว่าเป็นพฤติกรรมที่ ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง หลายคนอาจมองว่าน่ารัก น่าเอ็นดู แต่มันสะท้อนถึงความจริงที่อั ปลักษณ์ที่มีอยู่ในสังคมไทยที่ ผมเอ่ยข้างต้น
ในกรณีการจับใบดำใบแดงนั้น ผมได้เห็นคลิปมากมายที่
ความอัปลักษณ์นั้นคือ ความเป็นใหญ่ของเพศผู้ เป็นสังคมที่ยังมองเพศหญิงว่าอ่ อนแอ ส่วนกลุ่มเกย์นั้น ยิ่งถูกมองแบบ cynical มากกว่านั้น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีส่วนทำให้ทัศนคติเหยี ยดเพศในกองทัพมันฝังรากลึกมากขึ ้น (institutionalization of sexism) ไม่ว่าคุณประยุทธ์จะกล่าวถึ งบทบาทภรรยาที่ต้องอยู่บ้าน เผ้าบ้าน เลี้ยงลูก หรือแม้แต่แนะนำวิธีแต่ งการของผู้หญิงไทย ว่าต้องแต่งตัวให้เหมือนลู กกวาดที่ถูกห่อหุ้มและชวนให้น่ าแกะชิม ความคิดจากผู้นำระดับสูงแบบนี้ ส่งผลต่อข้าราชการทหารในระดับล่ าง จึงไม่เป็นที่แปลกในที่การฝึกซ้ อมของทหารไทยจึงมี element ของเซ็กส์อย่างมากและรุนแรง เพื่อที่จะให้ตรงกับคำนิยามแบบ traditional ของกองทัพ ที่ทหารไทยทุกคนต้องมีความดิบ ดุ เถื่อน เป็นแมน เป็นผู้ชาย 100% ทำเรื่องยาก ทำงานหนัก ปกป้องชาติ ไม่มีใครทำได้นอกจากชายชาติ ทหารเท่านั้น
วาทกรรมเช่นนั้นเป็นการสร้าง หรือแม้แต่ขยายพื้นที่ ของเพศชายในสังคมไทย หรือเจาะจงลงไปกว่านั้น ทหารแมนๆ ของไทย ในการเข้ามามีบทบาททางการเมื องอย่างไม่หยุดยั้ง บนรากฐานของความคิดเดียวกัน ที่ว่า ไม่มีใครแก้ไขปัญหาทางการเมื องไทยได้ นอกจากชายชาติทหารที่พร้ อมทำงานหนักเพื่อผลประโยชน์ ของชาติเท่านั้น
แต่นั้นก็เป็นความคิดที่แคบ สังคมสหรัฐฯ ชี้ให้เห็นว่า เกย์ ไม่ว่าจะอยู่ในภาคส่วนใด พลเรือนหรือทหาร มีความสามารถเท่าเทียมกัน จริงๆ แล้ว ผมไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องนี้ ด้วยซ้ำ เพราะมันเป็น universal truth แต่ผมก็ไม่ได้หมายว่า สังคมสหรัฐฯ มีความสมบูรณ์แบบ แต่ต้องยอมรับว่า ในระดับรัฐ การปกป้องสิทธิเกย์ของสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมาก ในกรณีของไทยนั้น ผมเชื่อว่า ในการดำรงชีวิตประจำวัน เกย์ไทยอาจไม่รู้สึกถึงอคติ อะไรมาก เมื่อเราเดินผ่านสีลมซอย 2 หรือซอย 4 เรากลับเห็นว่า เกย์ไทยมีความสุขดี สมกับคำแปลของ gay ที่แปลว่า happy
แต่ในระดับการยอมรับทางสังคมอย่ างเป็นทางการ สวัสดิการทางภาครัฐ มุมมองที่มีต่อเกย์จากกองทัพ ทัศนคติในการฝึกของทหารไทย เกือบเรียกได้ว่า การเหยียดเกย์กลายมาเป็นเรื่ องปกติ นอกไปจากนี้ สำหรับคนที่มองภาพการฝึกซ้ อมของทหารไทยที่เห็นว่าอุจาด พิเรนทร์ พวกคุณก็กำลังมองผ่ านเลนของการแอนตี้เกย์โดยที่คุ ณไม่รู้ตัว เพราะในความเป็นจริง การชื่นชม สัมผัส อวัยวะส่วนตัวระหว่างคนเพศเดี ยวกันนั้น เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม น่า celebrate ไม่น้อยไปกว่าการสัมผัสต่อกั นระหว่างเพศชายและเพศหญิงครับ เพียงแต่ควรทำในที่รโหฐานเท่านั ้น
เกี่ยวกับผู้เขียน: ปัจจุบัน รศ. ดร. ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ เป็นอาจารย์ประจำอยู่ ศูนย์
แสดงความคิดเห็น