นักวิเคราะห์เชื่อว่าการลาออกของอดีตที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ฯของ'ทรัมป์' จะช่วยปลดล็อคการเคลื่อนไหวทางการเมืองฝ่ายขวาได้สะดวกมากขึ้นขณะที่สตีฟ แบนนอนประกาศชัด 'เข้าสู่สงคราม' กำจัดฝ่ายตรงข้ามให้ ปธน. ทรัมป์

นายสตีฟ แบนนอน อดีตที่ปรึกษาประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ทันทีกับสำนักข่าวบรูมเบิร์ก เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังออกจากตำแหน่งในทำเนียบขาวเพื่อแสดงความชัดเจนถึงการออกจากทำเนียบขาว

นายสตีฟ แบนนอน กล่าวว่า เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนเกี่ยวกับการลาออก เขาจะจึงอยากประกาศให้ชัดเจนว่า การลาออกจากทำเนียบขาวในครั้งนี้ก็เพื่อที่เขาจะได้เดินหน้าทำสงครามจัดการฝ่ายตรงข้ามให้กับประธานาธิบดีทรัมป์ ทั้งในรัฐสภาสหรัฐฯ ในวงการสื่อ และในวงการธุรกิจของอเมริกา

ก่อนหน้านี้ รายงานข่าวจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงในทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ภายในทำเนียบว่าการตัดสินใจปลดนายสตีฟ แบนนอน มาจากคำสั่งของตัวเอง

แต่นายสตีฟ แบนนอน อดีตที่ปรึกษาฯที่เพิ่งถูกปลดกลับประกาศว่าเขาเป็นคนตัดสินใจออกจากตำแหน่งด้วยการยื่นใบลาออกมาแล้ว 11 วันก่อนหน้านี้ แต่ต้องถูกชะลอออกไปเพราะมีเหตุการณ์ความวุ่นวายในเมืองชาร์ล็อตสวิลล์ เข้ามาเกี่ยวข้องก่อน

ด้านซารา ฮัคเคอร์บี้ โฆษกทำเนียบขาวออกมาแถลงว่า การพ้นจากตำแหน่งของสตีฟ แบนนอน เกิดจากการทำข้อตกลงร่วมกันระหว่าง พลเอกจอห์น แคลลี่ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวคนใหม่ ที่จะให้ที่ปรึกษาคนสำคัญของทรัมป์ ทำงานถึงวันที่ 18 สิงหาคม เป็นวันสุดท้าย

FILE - White House Chief Strategist Steve Bannon listens at right as President Donald Trump speaks during a meeting on cyber security in the Roosevelt Room of the White House in Washington.

นายสตีฟ แบนนอน ผู้บริหารสำนักข่าว Breibart News สื่อฝ่ายอนุรักษ์นิยมขวาจัด ที่มุ่งเน้นการสร้างชาตินิยมแบบอเมริกัน ถือเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เรียกคะแนนนิยมจากชาวอเมริกันอนุรักษ์นิยมจนมีส่วนทำให้ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากสโลแกน 'อเมริกาต้องมาก่อน'(America First) หรือ 'ทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง' (Make America Great Again)จนได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญ และได้ชื่อว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังนโยบายสำคัญต่างๆของทรัมป์

Trump

ขณะที่มุมมองของฝ่ายเดโมแครตหลายคนมองว่า การออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาประธานาธิบดีจะทำให้นายแบนนอน สามารถเคลื่อนไหวกับฝ่ายอนุรักษ์นิยมขวาจัดได้สะดวกและคล่องตัวมากขึ้นโดยไม่ต้องไปกังวลกับตำแหน่งเพราะสามารถเข้าร่วมได้เต็มที่ กับกลุ่ม นีโอนาซี หรือกลุ่มคนผิวขาวสุดโต่ง หรือกลุ่ม KKK หรือกลุ่มอนุรักษ์นิยมเหยียดผิว ที่เพิ่งชุมนุมประท้วงจนเกิดเหตุรุนแรงและมีผู้เสียชีวิตที่เมืองชาร์ล็อตสวิลล์ เมื่อสัปดาห์ผ่านมา

ขณะที่ Evan Siegfried นักวิเคราะห์ด้านยุทธศาสตร์การเมือง ของพรรคริพับลิกัน มองว่าจะไม่น่าแปลกใจนักที่จะเห็นสำนักข่าวขวาจัดอย่าง Breitbartเขียนโจมตีเจ้าหน้าที่ของทำเนียบขาวบางคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่ขัดแย้งกับนายแบนนอนมาก่อน ด้วยเช่นกัน


source ;- http://rferl.c.goolara.net/Click.aspx?id=066994959807712879

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.