ผู้เชี่ยวชาญในสหรัฐฯ เตือนโรงงานเคมีเสี่ยงต่อการก่อการร้าย

ทางฝั่งตะวันออกของเมืองฮูสตัน ในรัฐเท็กซัส หากมองไกลๆ จะมองเห็นอาคารสูงระฟ้าอยู่เต็มไปหมด เเต่เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ จะเห็นว่าอาคารสูงระฟ้าที่มองเห็น ที่เเท้เเล้วเป็นโรงงานเคมี

เมืองฮูสตัน ซึ่งตั้งอยู่บนชายฝั่งทางใต้ของสหรัฐฯ ติดกับอ่าวเม็กซิโก มีอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเป็นฐานเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างหนึ่ง

เดฟ โวล์ฟ รักษาการณ์รองหัวหน้าด้านการปกป้องระบบสาธารณูปโภคแห่งกระทรวงความมั่งคงเเห่งมาตุภูมิ กล่าวว่า เมืองฮูสตัน รัฐเท็กซัส ถือได้ว่าเป็นศูนย์ของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเเห่งสหรัฐฯ จึงมีโรงงานเคมีเเละโรงกลั่นน้ำมันจำนวนมากตั้งอยู่ที่นี่

ในการประชุมด้านความมั่นคงภาคอุตสาหกรรมเคมีประจำปี 2017 ที่จัดขึ้นที่เมืองฮูสตัน มีผู้เชี่ยวชาญจากภาคอุตสาหกรรมด้านเคมีเข้าร่วมเเบ่งปันแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยโรงงานผลิตสารเคมีต่างๆ

นายโวล์ฟกล่าวว่า ผู้ก่อการร้ายทั่วโลกยังต้องการใช้สารเคมีอันตรายเหล่านี้ในการโจมตี ไม่ว่าจะนำไปใช้ประกอบเป็นระเบิดหรือใช้เป็นอาวุธเคมี อย่างที่เห็นเกิดขึ้นในตะวันออกกลาง

เขายกตัวอย่างการก่อการร้ายที่สนามบินกรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของเบลเยี่ยม และสถานีรถไฟใต้ดินในปี 2016 และการสังหารด้วยการตัดศีรษะกับการโจมตีในเมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส ในปี 2015 ที่ผู้ก่อการร้ายขับรถเข้าไปในโรงงานผลิตสารเคมีและก่อให้เกิดการระเบิด

แกรี่ เชป ผู้จัดการด้านการรักษาความปลอดภัยของโรงกลั่นน้ำมันเชลล์เดียร์ ปาร์ค กล่าวว่า สำคัญมากที่ต้องล้ำหน้าไปหนึ่งขั้น ต้องรู้ว่ากำลังมีเทคโนโลยีอะไรใหม่ๆ ออกมา นอกเหนือจากเทคโนโลยีที่มีอยู่เเล้ว และต้องรู้ว่าต้องทำอะไรบ้างเพื่อลดภัยคุกคามหรือความเสี่ยงลง

ด้านนายโวล์ฟกล่าวว่า ไม่เฉพาะโรงงานเคมีเท่านั้นที่อาจตกเป็นเป้าโจมตีของกลุ่มก่อการร้าย เขากล่าวว่าโรงงานอุตสาหกรรมอีกหลายอย่างก็เสี่ยงเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการประมง โรงงานผลิตไวน์ โรงกลั่นเบียร์หรือสุรา โรงงานผลิตสารกึ่งตัวนำหรือเเม้เเต่โรงงานแปรรูปอาหาร

กรอบมาตรฐานต่อต้านการก่อการร้ายโรงงานผลิตสารเคมี (Chemical Facility Anti-Terrorism Standards) เป็นกรอบข้อบังคับของสหรัฐฯ ที่ช่วยระบุว่าโรงงานใดที่มีสารเคมีที่เสี่ยงสูงต่อการก่อการร้าย และรัฐบาลสหรัฐฯ จะทำงานร่วมกับโรงงานเหล่านี้เพื่อจัดทำเเผนรักษาความมั่นคง

ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงกล่าวว่า การสร้างวัฒนธรรมระดับทั่วโลกเพื่อสร้างความมั่นคงด้านสารเคมี เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันไม่ให้สารเคมีตกไปอยู่ในมือของผู้ไม่หวังดี



นายปีเตอร์ นิวพอร์ท ผู้อำนวยการด้านความมั่นคงแห่งสมาคมการค้าสารเคมีระหว่างประเทศ (International Chemical Trade Association) กล่าวว่าไม่มีประเทศใดที่ควรละเลยต่อความมั่นคงด้านสารเคมี และชาติที่เคยละเลยในเรื่องนี้มักจะเสียใจในภายหลัง

ไครสตอป พาทัวเรจ ประธานคณะกรรมการเเห่งศูนย์ระหว่างชาติเพื่อความปลอดภัยของสารเคมี ( Board of the International Centre for Chemical Safety) กล่าวว่า แต่เดิมสารเคมีส่วนมากผลิตในประเทศพัฒนาเเล้ว อาทิ ในสหรัฐฯ และในยุโรป เเต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนไปเพราะมีประเทศกำลังพัฒนาหลายประเทศกลายเป็นผู้ผลิตสารเคมีรายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นประเทศจีนเเละอินเดีย ที่ผลิตสารเคมีมากกว่าประเทศพัฒนาเเล้ว

Paturej กล่าวว่า จะเป็นผลดีทั้งทางเศรษฐกิจเเละทางความมั่นคง หากประเทศผู้ผลิตสารเคมีให้ความสำคัญแก่การมีมาตรฐานสูงด้านความมั่นคงทางสารเคมี เขากล่าวว่าหากต้องการเข้าสู่ระดับนานาชาติ ก็ต้องมีมาตรฐานที่ดีที่สุด และมาตรฐานที่ดีที่สุดในขณะนี้อยู่ในประเทศพัฒนาเเล้ว โดยเฉพาะในสหรัฐฯ

แต่ไม่ว่าจะเป็นชาติพัฒนาเเล้วหรือกำลังพัฒนา ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงกล่าวว่า โรงงานผลิตสารเคมีมีคุณค่าทางสัญลักษณ์และมีความสำคัญทางเศรษฐกิจ ทำให้กลายเป็นเป้าหมายโจมตีของผู้ก่อการร้าย

(รายงานโดย Elizabeth Lee / เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว)




source ;- http://rferl.c.goolara.net/Click.aspx?id=066994956504314275

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.