ไอเอ็มเอฟปรับลดประมาณการเศรษฐกิจโลกปีนี้เหลือเติบโตเพียง 3.2% ชี้หากสหราชอาณาจักรออกจากอียูจะสร้างความเสียหายใหญ่หลวง
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ปรับลดตัวเลขประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกเป็นครั้งที่ 2 ในรอบปี จากเดิมที่คาดว่าจะโต 3.4% ในปีนี้ ได้ปรับลดลงเหลือเพียง 3.2% ซึ่งนายมัวริสต์ ออสต์เฟลด์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็มเอฟ ชี้ว่าเป็นอัตราเติบโตที่เป็นไปอย่างเชื่องช้าและเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจในทุกภาคส่วนซึ่งถือว่าน่าเป็นห่วง เพราะเสี่ยงต่อการที่โลกจะได้รับผลกระทบในเชิงลบมากขึ้น รายงานของไอเอ็มเอฟชี้ด้วยว่าหากอังกฤษตัดสินใจออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป หรืออียู ก็จะสร้างความเสียหายใหญ่หลวงทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก
ส่วนการประมาณการของปีหน้า ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกลงมาอยู่ที่ 3.5% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.6%
ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดตัวเลขประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจของไนจีเรียมากที่สุด อันเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่ลดต่ำลง ขณะที่คาดว่าเศรษฐกิจของบราซิล รัสเซียและอีกหลายชาติจะเติบโตได้น้อยกว่าที่คาดเช่นกัน อย่างไรก็ดี ไอเอ็มเอฟคงตัวเลขอัตราการเติบโตของอินเดียและยกระดับการเติบโตของจีน ซึ่งสะท้อนให้เห็นพัฒนาการที่เกิดขึ้นในภาคบริการของจีนมากกว่าการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม
ไอเอ็มเอฟ ยังระบุถึงสหราชอาณาจักรด้วยว่าหากตัดสินใจออกจากการเป็นสมาชิกอียู ก็จะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก เพราะจะทำให้ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศชะงักงัน ซึ่งถือเป็น “ความท้าทายครั้งใหญ่” ที่ทั้งสหราชอาณาจักรและยุโรปจะต้องเผชิญ
ไอเอ็มเอฟเห็นว่า การจะจัดให้มีการลงประชามติในเรื่องนี้ ได้ทำให้นักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจขึ้น ขณะที่การลงประชามติให้สหราชอาณาจักรออกจากอียูก็จะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง อย่างไรก็ตาม ฝ่ายที่สนับสนุนให้สหราชอาณาจักรออกจากอียูระบุว่า ไอเอ็มเอฟมักประมาณการ “ผิดพลาดเสมอมา”
‪#‎ไอเอ็มเอฟ‬


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.