แคนาดาเรียกร้องรัฐบาลทหารไทย เขียนกฎหมายประชามติเปิดไฟเขียวอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญอย่างเสรี พร้อมวิจารณ์คำสั่งหน.คสช.ขยายอำนาจจนท.ทหาร บั่นทอนหลักนิติรัฐ เสี่ยงละเมิดสิทธิมนุษยชน
ในวันจันทร์ที่ 11 เมษายน สถานเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย ออกแถลงการณ์แสดงความกังวล กรณีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 13/2559 ขยายอำนาจรักษาความสงบเรียบร้อยให้กับเจ้าหน้าที่ทหาร โดยระบุว่าเป็นการบั่นทอนหลักนิติรัฐ และกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งยังเพิ่มความเป็นไปได้ที่จะเกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน
แถลงการณ์ของแคนาดายังแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อการจำกัดสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง รวมทั้งกรณีรัฐบาลทหารเตรียมเพิ่มมาตรการปรับทัศนคติ อันเป็นเครื่องมือทำให้ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองและนักกิจกรรมหวาดกลัว
ประเทศแคนาดาบอกว่า จะเฝ้าติดตามกฎหมายประชามติของไทยอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ แคนาดาขอเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจของไทยรับรองว่า ประชาชนชาวไทยจะสามารถเข้าร่วมการอภิปรายอย่างเสรีและมีส่วนร่วมเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ
แถลงการณ์ระบุในตอนท้ายว่า แคนาดาขอเรียกร้องประเทศไทยให้เคารพพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ รวมทั้งเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เสรีภาพในการชุมนุม และหลักนิติรัฐ.

00000

แถลงการณ์สถานเอกอัครราชทูตแคนาดาเรื่องคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 13/2559 

แคนาดามีความกังวลที่ ประเทศไทยได้มีการนำคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 13/2559 มาใช้เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งได้ขยายอำนาจรักษาความสงบเรียบร้อยให้กับเจ้าหน้าที่ทหารของไทย การบังคับใช้คำสั่งดังกล่าว แสดงถึงการบั่นทอนหลักนิติรัฐและกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทย ในขณะเดียวกันก็เพิ่มความเป็นไปได้ในการละเมิดสิทธิมนุษยชน

แคนาดายังขอกล่าวย้ำถึงความกังวลอย่างสำคัญเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิพลเมืองและการเมืองพื้นฐานของรัฐบาลทหาร รวมทั้งความตั้งใจที่รัฐบาลได้แจงไว้ว่าจะขยายการใช้การปรับทัศนคติเพื่อเป็นเครื่องมือทำให้ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองและนักกิจกรรมหวาดกลัว แคนาดายังติดตามความคืบหน้าของกฎหมายประชามติอย่างใกล้ชิดและเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจของไทยรับรองว่าประชาชนชาวไทยจะสามารถเข้าร่วมการอภิปรายอย่างเสรีและมีส่วนร่วมเกี่ยวกับคุณค่าของร่างรัฐธรรมนูญ
แคนาดาเรียกร้องให้ประเทศไทยเคารพพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนนานาชาติของประเทศ รวมทั้งที่เกี่ยวกับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เสรีภาพในการชุมนุม และหลักนิติรัฐ
11 เมษายน 2559
Photo:  AFP (file)


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.