สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญร้องเรียน ป.ป.ช.สอบปลัดกระทรวงกลาโหมมีคำสั่งลับอนุมัติลูกชายเป็นนายทหาร เลขาธิการสมาคมฯ ย้ำว่ากรณีดังกล่าวเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน พร้อมเรียกร้องให้ลูกชาย พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ผู้ถูกแต่งตั้งเข้ารับราชการทหารลาออกจากตำแหน่งและขอโทษประชาชนด้วย
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ช่วงสายวันนี้ (18 เม.ย.2559) เพื่อให้ตรวจสอบกรณีที่ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม มีคำสั่งลับอนุมัติให้นายปฏิพัทธ์ จันทร์โอชา ผู้เป็นบุตรชาย เข้ารับราชการทหาร ซึ่งอาจเข้าข่ายขัดต่อประมวลจริยธรรมกระทรวงกลาโหม และในฐานะที่ พล.อ.ปรีชาเป็นหนึ่งในสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งถือเป็นตำแหน่งทางการเมือง จึงอาจเข้าข่ายขัดต่อพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. และพระราชบัญญัติทางปกครอง พ.ศ.2539 มาตรา 13(3) รวมถึงประมวลจริยธรรม สนช.ด้วย
ภายหลังจากเข้ายื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช.แล้วเสร็จ นายศรีสุวรรณ ได้แถลงต่อผู้สื่อข่าวว่าการอนุมัติแต่งตั้งลูกชาย พล.อ.ปรีชาเข้ารับราชการทหารอาจเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะการแต่งตั้งดังกล่าวเป็นการรับด้วยวิธีพิเศษ ไม่มีการเปิดสอบเป็นการทั่วไป แต่เป็นการบรรจุเข้ารับราชการโดยการอนุมัติของ พล.อ.ปรีชา ในฐานะปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งอาจได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม แต่ก็ยังถือว่าไม่เหมาะสมอยู่ดี เพราะ พล.อ.ปรีชา มีความเกี่ยวพันโดยตรงกับนายปฏิพัทธ์ ผู้ได้รับการแต่งตั้ง
นอกจากนี้ นายศรีสุวรรณยังได้เรียกร้องให้นายปฏิพัทธ์ลาออกจากตำแหน่งรักษาราชการนายทหารปฏิบัติการกิจการพลเรือน สังกัดกองทัพภาคที่ 3 ซึ่งมียศร้อยตรี พร้อมแถลงขอโทษประชาชน โดยให้เหตุผลว่าการทุจริตประพฤติมิชอบของกลุ่มคนใดก็ตามเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ และกรณีนี้เกี่ยวพันกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งยึดอำนาจเพื่อเข้ามาปฏิบัติหน้าที่แก้ไขปัญหาและปฏิรูปการเมือง ซึ่งต้องรวมถึงการแก้ปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน และ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ควรปล่อยให้เกิดเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นซ้ำรอยนักการเมือง มิฉะนั้นจะเข้าข่าย “ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง”
ด้านเว็บไซต์มติชนรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่าการเซ็นอนุมัติให้บุตรชายของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม เข้ารับราชการทหารโดยไม่ต้องจับสอบนั้นถือเป็นเรื่องธรรมดา ในกรณีที่กองทัพขาดคนที่มีคุณสมบัติพิเศษ


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.