เผยผู้ก่อการร้ายวางแผนจะโจมตีซ้ำที่ฝรั่งเศส แต่เปลี่ยนแผนก่อเหตุในเบลเยียมแทนหลังเพื่อนถูกจับ
อัยการของเบลเยียมเปิดเผยว่า นายโมฮาเหม็ด อับรินี ผู้ต้องสงสัยเป็นมือระเบิดในเหตุวินาศกรรมกรุงบรัสเซลส์ ได้ยอมรับว่าในเบื้องต้นกลุ่มของตนได้วางแผนจะก่อเหตุโจมตีซ้ำในฝรั่งเศส แต่เปลี่ยนแผนมาชิงลงมือในเบลเยียมแทนหลังจากนายซาลาห์ อับเดสลาม ผู้ต้องสงสัยคนสำคัญในเหตุก่อการร้ายกรุงปารีสถูกจับกุม
เหตุก่อการร้ายในกรุงปารีสเมื่อวันที่ 13 พ.ย.ปีก่อนทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 130 คน ส่วนเหตุก่อการร้ายในกรุงบรัสเซลส์เมื่อวันที่ 22 มี.ค.มีผู้เสียชีวิตไป 32 คน โดยกลุ่มที่เรียกตัวเองว่ารัฐอิสลาม (ไอเอส) อ้างว่าสมาชิกของตนเป็นผู้ก่อเหตุร้ายทั้งสองครั้ง
นายอับรินี ชาวโมร็อกโกสัญชาติเบลเยียม วัย 31 ปีถูกจับกุมในกรุงบรัสเซลส์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (8 เม.ย.) และได้สารภาพกับพนักงานสอบสวนว่า การที่ตำรวจจับกุมนายอับเดสลาม เมื่อวันที่ 18 มี.ค.ทำให้กลุ่มเปลี่ยนแผนมาโจมตีเบลเยียมแทน เพราะประหลาดใจที่ตำรวจสาวมาถึงตัวพวกเขาอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้นายอับรินี ยังยอมรับด้วยว่าเขาคือ“ชายสวมหมวก” ที่ปรากฏอยู่ในภาพของกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ก่อนเกิดเหตุระเบิดที่สนามบินในกรุงบรัสเซลส์ แต่หลบหนีออกมาโดยไม่ได้จุดชนวนระเบิด ซึ่งเมื่อวานนี้เขาได้ถูกตั้งข้อหาก่อการร้ายพร้อมกับชายอีก 3 คน
ด้านนายปีเตอร์ แวน โอสเตเยน ผู้เชี่ยวชาญเรื่องนักรบจีฮัดในยุโรป ตั้งข้อสงสัยถึงคำสารภาพของนายอับรินี ที่ยอมรับเป็นมือระเบิดโจมตีสนามบินในกรุงบรัสเซลส์ และชี้ว่านี่อาจเป็นความพยายามปกป้องคนร้ายตัวจริง
อย่างไรก็ตาม ตำรวจเบลเยียมระบุว่า การตรวจสอบด้วยเทคโนโลยีจดจำใบหน้ายืนยันว่านายอับรินีคือชายในภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่สนามบิน นอกจากนี้ยังพบลายนิ้วมือ และดีเอ็นเอของเขาที่เซฟเฮาส์ของคนร้าย 2 แห่งในกรุงบรัสเซลส์ รวมทั้งที่รถยนต์ที่ใช้ในการโจมตีกรุงปารีสด้วย ข่าวยังระบุด้วยว่า มีภาพวิดีโอของนายอับรินีอยู่ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งพร้อมกับนายอับเดสลาม ก่อนจะเกิดเหตุโจมตีกรุงปารีส 2 วัน

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.