อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเนปาลฟื้นตัวช้า จำนวนนักท่องเที่ยวยังหดหายหลังเหตุแผ่นดินไหว
อุตสาหกรรมท่องเที่ยวนับเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจของเนปาล ทว่าหลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อปีก่อนที่คร่าชีวิตผู้คนไป 8,000 คน และทำให้อาคารบ้านเรือน รวมทั้งโบราณสถานที่สำคัญได้รับความเสียหาย ก็ทำให้ยอดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศลดลงเป็นอย่างมาก
รีเบคก้า แวร์น ผู้สื่อข่าวบีบีซี บอกว่า แม้เวลาจะผ่านมาแล้วเกือบหนึ่งปีแต่เนปาลยังคงเผชิญอุปสรรคในการฟื้นฟูประเทศ โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยว แต่บรรดาผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้ต่างมีความหวังว่า สถานการณ์ต่าง ๆจะดีขึ้นในเร็ววัน
ผู้สื่อข่าวบอกว่า แผ่นดินไหวขนาด 7.8 แมกนิจูดเมื่อปีก่อนทำให้โบราณสถานในกรุงกาฐมาณฑุซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญได้รับความเสียหายอย่างหนัก แม้เวลาจะล่วงเลยมาเกือบหนึ่งปีแต่บรรยากาศการท่องเที่ยวที่นี่ยังคงเป็นไปอย่างเงียบเหงา เพราะไม่มีผู้ใดเข้าไปบูรณะโบราณสถานเหล่านี้ คนท้องถิ่นบอกว่า จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงอย่างน้อย 1 ใน 3 นับแต่เกิดแผ่นดินไหว
นอกจากปัญหาการท่องเที่ยวที่ซบเซา เนปาลยังเผชิญปัญหาหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นถนนหนทางที่เสียหายจากแผ่นดินไหวและจำเป็นต้องได้รับการซ่อมแซมขนานใหญ่ ส่วนเส้นทางที่เคยใช้ในการเดินเที่ยวป่าก็ยังไม่ได้รับการซ่อมแซมให้มีความปลอดภัย ขณะที่ระบบการจ่ายไฟฟ้าก็ยังไม่เสถียร นอกจากนี้ ปัญหาความขัดแย้งกับอินเดียก็ทำให้มีการจำกัดทางการค้า ส่งผลให้สินค้าอุปโภคและบริโภคที่สำคัญถีบตัวขึ้น 3 เท่า
ส่วนในเมืองโพคารา แม้จะไม่ได้รับความเสียหายรุนแรงจากแผ่นดินไหว แต่ก็พลอยได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยวที่ซบเซาไปด้วย ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวที่นี่ต่างต้องการให้รัฐบาลดำเนินความพยายามมากขึ้นในการซ่อมแซมถนนหนทางและส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยชี้ว่าปัจจุบันการลงทุนด้านการท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในเนปาลมาจากภาคเอกชน
ขณะเดียวกันผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยยังคงมีความหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้น และพยายามเอาตัวรอดในภาวะที่การท่องเที่ยวซบเซาด้วยการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางธุรกิจ โดยหันไปเจาะตลาดนักท่องเที่ยวชาวเนปาล เพราะปัจจุบันคนรุ่นใหม่เริ่มหันมาท่องเที่ยวและจับจ่ายมากขึ้น โดยคนกลุ่มนี้เป็นหนุ่มสาวที่ไปทำงานในต่างแดน อาทิ ตะวันออกกลาง และมาเลเซีย แล้วนำเงินที่ได้กลับมาใช้จ่ายภายในประเทศ


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.