เสียงติงจากผู้รู้เรื่องภาษี เอาผิด"สมเด็จช่วง"คิดให้ดี
เพจเฟซบุ๊กของนายสมชัยที่ใช้ชื่อว่า Somchai Ap โพสต์ไว้ว่า "เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ รับรองว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง"
.
เจ้าหน้าที่สรรพสามิตไปตรวจรีสอร์ตแห่งหนึ่งพบว่า มีแอร์คอนดิชั่นที่ใช้ในรีสอร์ตยังไม่ได้เสียภาษี ซึ่งได้ซื้อมาตามปกติ มีเรื่องราวเกี่ยวกับการจับกุมมีการต่อรองการเสียภาษีค่าปรับ เจ้าของรีสอร์ตก็ร้องเรียนว่าเจ้าพนักงานสรรพสามิตดำเนินการโดยมิชอบ มีการออกสื่อทางทีวี
.
ผมไม่รู้จักเจ้าพนักงานสรรพสามิตและเจ้าของรีสอร์ตเป็นการส่วนตัว ผมได้คุยกับเจ้าพนักงานสรรพสามิต จริงอยู่ตามพ.ร.บ. ผู้ครอบครองจะต้องเสียภาษี
.
แต่หลักการจริงของพ.ร.บ.เก็บภาษีสรรพสามิตจากผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม ตามราคาโรงงานอุตสาหกรรม คือเก็บภาษีจากผู้ผลิต
.
ในเมื่อเจ้าของรีสอร์ตมีหลักฐานการซื้อ มีใบเสร็จรับเงิน มีหลักฐานการจ่ายเงิน ผู้ผลิตดิ้นไม่หลุด ขึ้นศาลก็แพ้
.
“การที่จะไปดำเนินคดีกับผู้ครอบครองนั่นคือปลายเหตุ”
.
สรรพสามิตส่งอัยการเพื่อฟ้องเจ้าของรีสอร์ต ตามมาตรา 161 แห่งพ.ร.บ.สรรพสามิต ฐานมีสินค้าไว้ในครอบครอง โดยรู้ว่าเป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษี
.
ลงเอย อัยการสั่งไม่ฟ้อง เพราะขาดพยานหลักฐานที่แสดงว่าผู้ครอบครองรู้ว่าเป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษี ขณะที่เจ้าพนักงานสรรพสามิตถูกร้องว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และป.ป.ช.กำลังไต่สวนอยู่ขณะนี้
.
"คดีนี้ถ้าจะไปเทียบเคียงกับคดีรถยนต์โบราณ น่าจะได้"
.
ในฐานะที่เคยเป็นคณะกรรมการพิจารณาพิกัดอัตราภาษีศุลกากรอยู่ 3 ปี ถ้าเจ้าหน้าที่คิดจะใช้กฎหมายศุลกากรมาดำเนินการกับท่านสมเด็จ อย่าทำเลย!!
.
เพราะ ตาม ม.27 ทวิ ตัวบทเขียนไว้ชัดเจนว่า จะดำเนินคดีแก่ผู้ครอบครองได้ ต้องรู้แล้วว่าเป็นรถที่ยังมิได้เสียภาษี
.
ม.27 ทวิ "ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้ เสียภาษี"
.
สมชัย อภิวัฒนพร
อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง
อดีตรองอธิบดีกรมสรรพสามิต
.
ที่มา คอลัมน์ชกไม่มีมุม ข่าวสด 1 เม.ย.2559


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.