การบินไทย ไตรมาส 2 ขาดทุนกว่า 5 พันล้าน เหตุแข่งขันรุนแรง

Posted: 12 Aug 2017 01:51 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ที่ผ่านมา สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น รายงานว่า บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ประจำปี 2560 พบว่า ขาดทุนจากการดำเนินงานธุรกิจการบิน จำนวน 1,542 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อน 13.5% สาเหตุหลักมาจากค่าน้ำมันเครื่องบินที่ปรับตัวสูงขึ้นจากราคาน้ำมันเฉลี่ยที่สูงกว่าปีก่อน 20.1% ประกอบกับรายได้จากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อหน่วยต่ำกว่าปีก่อน 10.9% จากการแข่งขันที่รุนแรงและการปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมชดเชยค่าน้ำมัน ถึงแม้ว่าจะมีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารสูงสุดในรอบ 10 ปี ก็ตาม ทั้งนี้ เมื่อหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียว ผลขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงส่วนได้เสียในเงินลงทุนในบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) การด้อยค่าของสินทรัพย์และเครื่องบินและขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศแล้ว บริษัทฯ ขาดทุนสุทธิ 5,208 ล้านบาท

อุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่ 2 บริษัทฯ ได้ดำเนินการตามแผนปฏิรูปองค์กรระยะที่ 3 “การเติบโตอย่างยั่งยืน” ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน ทำให้ไตรมาสนี้ ซึ่งปกติเป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว บริษัทฯ มีปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนถึง 21.9% โดยมีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร เพิ่มขึ้น 7.1% อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร เฉลี่ย 78.5% สูงกว่าปีก่อนซึ่งเท่ากับ 69.0% ซึ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี

ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในไตรมาส 2 ของปี 2560 บริษัทฯ ขาดทุนจากการดำเนินงานลดลงจากปีก่อน 13.5% มีรายได้รวมทั้งสิ้น 45,182 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนประมาณ 9.6% สาเหตุสำคัญเนื่องจากรายได้จากค่าโดยสารและน้ำหนักส่วนเกินเพิ่มขึ้นจากปริมาณการขนส่งผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น สาเหตุหลักเกิดจากรายได้จากการซ่อมบำรุงของฝ่ายช่างเพิ่มขึ้น ในขณะที่มีค่าใช้จ่ายรวม 46,724 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.6% เนื่องจากค่าน้ำมันเครื่องบินเพิ่มขึ้น 527 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานไม่รวมค่าน้ำมันเพิ่มขึ้น 3,390 ล้านบาท

ขณะที่เมื่อ เม.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงการคลัง เพิ่งออกประกาศ เรื่อง การกู้เงิน ประจําปีงบประมาณ 2560 ให้แก่บริษัท การบินไทย จํากัด (มหาชน) เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ รวม 3 งวด เป็นเงิน 150 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทย 5,291,140,000 บาท (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม)

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.