Posted: 16 Jul 2018 08:03 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)

สมยศ พฤกษาเกษมสุข
14/7/61

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2561 เวลา 20.00 น. ที่โรงแรมสุโกศล ถนนศรีอยุธยา ผมได้มีโอกาสพบปะกับ Chua Tian Chang, เป็นรองหัวหน้าพรรคยุติธรรมประชาชนแห่งมาเลเซีย ( People’s Justice Party of Malaysia. )โดยพรรคนี้เกิดจากระแสเรียกร้องให้มีการปฏิรูปเมื่อครั้งมีการปลดนายอันวาร์ อิบราฮิม ( Anwar Ibrahim) ออกจากพรรคอัมโน ในเดือนกันยายน 1998 ต่อมานายอันวา ถูกจำคุกเนื่องจากถูกกล่าวหาว่ามีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก แต่พรรคยังคงดำเนินการต่อเนื่องจนได้ที่นั่งในสภาจำนวน 31 ที่นั่ง และยังมีบทบาทร่วมกับองค์กรประชาชนกลุ่มต่างๆในการเคลื่อนไหวขบวนการปฏิรูปในมาเลเซีย จนกระทั่งการเลือกตั้งล่าสุดจับมือกับมหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียผู้ดุดัน วัย 92 ปี หวนกลับมาคลุกฝุ่นการเมือง ได้รับชัยชนะเป็นนายกรัฐมนตรีที่แก่ที่สุดในเอเชีย โดยโค่นล้มนายนาจิบ ราซัค ซึ่งถูกกล่าวหาว่า มีการทุจริตคอร์รัปชันอย่างมโหฬารในกองทุนเพื่อการลงทุนแห่งชาติ “วันเอ็มดีบี” (1MDB)

เราสองคนออกจากโรงแรมสุโกศล เดินไปบนถนนพญาไท เข้าร้านกาแฟ Bean Around Cafe ใกล้กับเซ็นจูรีพลาซ่า นอกจากเรื่องราวส่วนตัวกับอดีตที่เคยคบหาสมาคมกันมายาวนานแล้ว ยังได้สนทนาเรื่องการเมืองได้รสชาติเข้มข้นไปกับ กาแฟดำอเมริกาโน่ ซึ่งก็คือเอสเปรสโสเจือจาง ราคาใกล้เคียงกับมาเลเซียมาก ละเลียดลิ้นได้รสชาดกลมกล่อม กลิ่นหอมละมุน

เทียนชัว กล่าวว่า พรรคยุติธรรมประชาชน จับมือกับมหาเธร์ ก็เพราะว่า เป็นโอกาสสำคัญนำการเปลี่ยนแปลงในมาเลเซียได้ ถึงแม้ว่าในอดีต พรรคของตนถูกนายมหาเธร์ เล่นงานจนติดคุกติดตะราง แต่ในวันนี้เพื่อจะโค่นรัฐบาลที่พรรคอัมโนที่ใหญ่ที่สุดและอยู่ในอำนาจครอบงำการเมืองมาเลเซียตั้งแต่ได้รับเอกราชมายาว นานกว่า 61ปีด้วยกัน จำเป็นที่พรรคจะต้องร่วมมือกับมหาเธร์ โดยมีข้อตกลงร่วมกันว่า เมื่อมหาเธร์ได้รับชัยชนะแล้วจะอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพียงสองปีจะลาออกเปิดทางให้กับอันวาร์ อิบราฮิม ลงสมัครรับเลือกตั้ง เมื่อได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งแล้ว นายอันวาร์จึงได้รับการปล่อยตัวทันที(16พค.61) เขาได้รับพระราชทานอภัยโทษจากสมเด็จพระราชาธิบดีมูฮัมหมัดที่ 5 แห่งรัฐกลันตัน ยังดีเปอร์ตวนอากง..พระองค์ปัจจุบันแห่งมาเลเซีย จากการที่ดร. มหาเธร์ โมฮัมหมัด ร้องขอให้มีการพระราชทานอภัยโทษนายอันวาร์ หลังจากชนะการเลือกตั้งของมาเลเซีย

ความหอมกรุ่นของกาแฟอุ่น ยังกระตุ้นให้การสนทนาของเราไหลเวียนไปตามเส้นเลือดสู่สมองยังแจ่มใสให้รับรู้เรื่องราวจากการสนทนาได้เป็นอย่างดี เทียนชัว ยังคงพูดถึงเรื่องการเมืองต่อไปอีกว่า

ขณะที่นายมหาเธร์ ได้เป็นรัฐบาลแล้วจะได้เร่งรัดการปฏิรูปในมาเลเซียทุกด้านตามที่ได้ประกาศเป็นนโยบายระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง โดยจะดำเนินการทันทีในการยกเลิกภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือที่เรียกกันว่าภาษีขายและบริการ (Sales and service tax) ซึ่งเคยเก็บในอัตรา 6 เปอร์เซ็นต์ แล้วเปลี่ยนมาเก็บภาษีสินค้าและบริการ(goods and service tax) และเน้นการเก็บภาษีรายได้ลดหลั่นตามรายได้กันไป เป็นการช่วยลดค่าครองชีพของประชาชน ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น คือ ลดรายจ่ายจากการจับจ่ายใช้สอยบริโภคของประชาชนในมาเลเซีย ซึ่งแน่นอนว่ารัฐจะสูญเงินรายได้มหาศาล แต่ได้เตรียมการไว้แล้วว่า จะต้องทำการลดค่าใช้จ่ายสิ้นเปลืองทุกส่วนของรัฐ เป็นการลดทอนการคอรัปชั่นลงไปด้วย เพราะเงินจำกัดมาก และจะทบทวนสัมปทานของรัฐและโครงการขนาดใหญ่ด้วยการลดงบประมาณผู้รับเหมาและผู้ได้รับสัมปทานลงไปอีก 20 เปอร์เซ็นต์

การสนับสนุนมหาเธร์ ขึ้นสู่อำนาจนั้นเชื่อว่า จะจัดการกวาดล้างฐานกำลังเก่าของพรรคอัมโนให้ลดน้อยลงไปได้ อีกทั้งมหาเธร์ ในอดีตแม้จะเคยเล่นงานฝ่ายค้านอย่างหนัก แต่ก็ได้จัดการลดบทบาทของกษัตริย์ในมาเลเซียลงไปอย่างมาก ปัจจุบันมียังดีเปอร์ตวนอากง เป็นกษัตริย์ มาจากเจ้าผู้ครองรัฐทั้ง 9 รัฐ ในมาเลเซียตะวันตกจากทั้งหมด 13 รัฐของมาเลเซีย ดำรงตำแหน่งคราวละ 5 ปี และหมุนเวียนกันไปตามลำดับหากดำรงตำแหน่งถึงสองครั้งแล้วจะไม่ได้ดำรงตำแหน่งอีกต่อไป

ส่วนประเด็นบทบาทกองทัพในมาเลเซียนั้น เทียนชัวกล่าวว่ามาเลย์ปกครองแบบสหพันธรัฐ เป็นรัฐรวม ไม่ได้เป็นรัฐเดี่ยวแบบผูกขาด ทหารกระจายกันไปตามแต่ละรัฐ กองทัพขึ้นตรงกับรัฐบาล การเมืองมีศูนย์กลางที่รัฐสภาและรัฐบาลเท่านั้น ไม่มีอำนาจนอกระบบแทรกแซงหลังจากได้เอกราชแล้ว ไม่เคยมีการรัฐประหารเกิดขึ้นเลย เมื่อถามว่า ที่มาเลเซียมีเรื่องเกี่ยวกับ จ๊อกกี้กับ เจ้าของคอกม้า แบบประเทศไทยหรือเปล่า เทียนชัวหัวเราะระริก พร้อมกับตอบด้วยความงุนงง ว่าไม่มี แบบในประเทศไทยแน่นอน

แผนการบริหารช่วง 100 วันของมหาเธร์ อีกด้านหนึ่งคือ การจัดตั้งหน่วยงานเพื่อดูแลและปราบปราบการทุจริตคอร์รัปชัน ในการพิจารณาบทบาทของนักการเมือง-ข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกองทุนภาครัฐต่างๆ เช่นกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ซึ่งจะทำให้มาเลเซียโปร่งใส เทียบชั้นกับสิงคโปร์ สหรัฐฯ และสวิตเซอร์แลนด์เลยทีเดียว ในด้านเศรษฐกิจจะยกระดับนวัตกรรมในการผลิตและกระจายรายได้ ส่งเสริมการรวมกลุ่มเป็นสหภาพแรงงานในการเจรจาต่อรองกับนายจ้าง ใช้ระบบภาษีดึงรายได้จากคนรวยมาจัดสวัสดิการคนจน

พรรคยุติธรรมประชาชนได้เข้าร่วมกับรัฐบาลมหาเธร์ โดยดูแลในส่วนการคมนาคมและพลังงาน ในเรื่องราคาน้ำมันที่มาเลเซียถูกกว่าประเทศไทย ก็เพราะมาเลเซียนำรายได้จากการส่งออกน้ำมันมาอุดหนุนราคาน้ำมันในประเทศ เพื่อสร้างเสถียรภาพในกระบวนการผลิต การขนส่ง ให้มีความมั่นใจกันว่า ประชาชนจะได้ใช้พลังงานในราคาที่ไม่แพงนัก ควบคู่ไปกับเชื่อมโยงระบบรางกับรถเมล์ที่ทำหน้าที่เป็นตัวป้อนขนส่งอย่างเป็นระบบ รวมไปถึงการขยายเมือง สร้างเมืองใหม่ตามแนวทางรถไฟความเร็วสูง ขณะนี้มาเลเซียมีอัตราการเจริญเติบโตอยู่ที่ 6-7 เปอร์เซ็นต์ด้วยกัน

กาแฟหมดถ้วย คาเฟอีนกระตุ้นให้การสนทนาของเราสองคน ดำเนินต่อไป แม้ว่ายังคงติดใจกับรสหอมกรุ่นของกาแฟอเมริกาโน่ อยากจะลองสั่งอย่างอื่นมาละเลงลิ้น แต่ทว่าราคากาแฟแพงเกินกำลังเงินในกระเป๋า สำหรับผม ในฐานะเจ้าภาพต้องเลี้ยงกาแฟ ต้องรู้จักประมาณตน ตามทฤษฎีพอเพียง จึงต้องขอรีบจบการสนทนาลงเสียก่อน

เราสองคนเดินไปด้วยกันและยังคงสนทนากันต่อไป ท่ามกลางละอองเม็ดฝนโปรยปรายบนถนนพญาไทมุ่งสู่ที่พักถนนศรีอยุธยาในเวลา5 ทุ่มตรง ผมกลับมาถึงบ้านบันทึกเรื่องราวการสนทนาเพียงบางส่วน เล่าสู่กันฟัง




ที่มา: https://prakaifai.com/2018/07/16/325/[full-post]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.