ภาพเครื่องบินที่สนามบินนานาชาติลอสแองเจลิส (LAX) สหรัฐฯ (ที่มา: flickr/ Prayitno)

Posted: 31 Jul 2018 08:26 AM PDT
Submitted on Tue, 2018-07-31 22:26

สื่อสหรัฐฯ เผย รัฐบาลสอดแนมผู้โดยสารในสนามบินและบนเครื่องบินในประเทศผ่านกองอำนวยการความปลอดภัยการคมนาคมและตำรวจอากาศติดอาวุธ ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ว่าโครงการดังกล่าวละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวและสิ้นเปลืองภาษีเปล่าๆ

สื่อบอสตันโกลบเปิดโปงกรณีที่กองอำนวยการความปลอดภัยการคมนาคมสหรัฐฯ (TSA) ดำเนินโครงการสอดแนมที่ชื่อว่า "Quiet Skies" มาตั้งแต่เดือน มี.ค. ที่ผ่านมา โครงการดังกล่าวเป็นโครงการสอดแนมผู้โดยสารทั้งในสนามบินและบนเครื่องบินโดยอ้างว่าเป็นการสอดส่องพฤติกรรมชาวอเมริกันว่ามีพฤติกรรมอย่างไรบนเครื่องบินโดยสารเที่ยวบินภายในประเทศ โดยมีชาวอเมริกันจำนวนมากตกเป็นเป้าการสอดแนมนี้แล้วอย่างไม่รู้ตัว

โครงการดังกล่าวให้ตำรวจอากาศตรวจสอบพฤติกรรมต่างๆ ของผู้โดยสารหรือผู้ใช้งานสนามบินไม่ว่าจะเป็นการใช้โทรศัพท์ การเข้าห้องน้ำ การพูดคุยกับคนอื่น หรือการเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วรายงานให้ TSA รับทราบ ในบางกรณีตำรวจอากาศของสหรัฐฯ อาจจะบันทึกเพิ่มเติมลงไปด้วยว่าผู้โดยสารมีพฤติกรรมต่างๆ อย่างไร เช่น แสดงความกระวนกระวายหรือไม่ ใช้คอมพิวเตอร์หรือไม่ ลูกกระเดือกแสดงอาการอย่างไร หรือกระทั่งมีพฤติกรรม "จ้องมองทะลุทะลวงอย่างเยือกเย็น" หรือไม่

โดยโครงการดังกล่าวนี้มีการนำมาใช้กับหลายๆ เมืองทั้งเมืองเล็กและเมืองใหญ่ในสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นบอสตัน, แฮร์ริสเบิร์ก, วอชิงตันดีซี, เมอร์เทิลบีช ทาง TSA ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อบอสตันโกลบอ้างว่าสิ่งที่พวกเขาทำเพื่อเป็นการสกัดกั้นการก่อการร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้แต่ก็พยายามปฏิเสธจะตอบคำถามว่า Quiet Skies สามารถป้องกันภัยก่อการร้ายได้บ้างหรือไม่หรือแม้กระทั่งไม่ยอมตอบว่าโครงการนี้มีอยู่จริงหรือไม่ ซึ่งจอห์น เกรกอรี โฆษกของ TSA บอกว่าการเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ "อาจจะทำให้ผู้โดยสารปลอดภัยน้อยลง"

อย่างไรก็ตามบอสตันโกลบระบุว่าโครงการที่เปิดโปงในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า TSA ล้ำเส้นออกจากปฏิบัติการแบบเดิมมาก โดยที่ช่วงหลังเหตุการณ์ก่อการร้าย 11 ก.ย. 2544 หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘ไนน์-วันวัน’ ก็มีการวางกำลังตำรวจอากาศติดอาวุธตามเส้นทางต่างๆ ที่มีความเสี่ยงหรือบนเครื่องบินที่มีผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้าย แต่ในครั้งนี้ถือเป็นการสอดแนมพลเรือนที่ไม่ใช่ผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย ถือเป็นการล้ำเส้นไปไกลจากขอบเขตอำนาจของของกองทัพอากาศสหรัฐฯ มาก และบางส่วนก็กังวลว่าการสอดแนมเช่นนี้อาจจะผิดกฎหมายสหรัฐฯ

สหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกัน (ACLU) วิจารณ์ว่าการสอดแนมเช่นนี้ไม่เพียงแค่ไร้เหตุผลเท่านั้น แต่ยังเป็นการเอาเงินของผู้เสียภาษีไปใช้อย่างสิ้นเปลืองและชวนให้สงสัยว่ามันถูกต้องตามรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ หรือไม่ และ TSA เคยมีประวัติใช้วิธีการติดตามและสอดส่องแบบที่ไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์และพึ่งพาไม่ได้มาก่อนจนกลายเป็นการไปสอดแนมคนที่ไม่ได้ทำอะไรผิด

ฮิวจ์ ฮันดีย์ไซด์ เจ้าหน้าที่อัยการระดับสูงประจำโครงการด้านความมั่นคงของ ACLU กล่าวว่าการเปิดโปงในครั้งนี้ทำให้เกิดความน่าเป็นห่วงว่า TSA ทำการสอดแนมคนเดินทางอย่างรุกล้ำความเป็นส่วนตัวแม้ว่าบุคคลนั้นๆ จะไม่ใช่ผู้ต้องสงสัยหรือไม่ และถ้าหากว่า TSA อาศัยอัตลักษณ์อย่างเชื้อชาติหรือศาสนาเป็นตัวคัดกรองก็อาจจะนับว่าเป็นการละเมิดสิทธิความรัฐธรรมนูญของพลเมืองสหรัฐฯ ได้

เรียบเรียงจาก

Welcome to the Quiet Skies, Jana Winter, Boston Globe, Jul 28, 2018

'Creepy Violation of Constitutional Rights': TSA Uses Armed Undercover Air Marshals to Surveil Unsuspecting Travelers, Common Dreams, Jul 30, 2018[full-post]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.