เศรษฐกิจจีนไตรมาสแรกของปีนี้ขยายตัวที่ 6.7% นักวิเคราะห์คาดยังต้องเจ็บตัวอีกมาก
รัฐบาลจีน เปิดเผยว่า เศรษฐกิจช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ขยายตัวเพียง 6.7% ซึ่งถือเป็นการขยายตัวรายไตรมาสที่เชื่องช้าที่สุดในรอบ 7 ปี และยังต่ำกว่าช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีก่อนที่เศรษฐกิจขยายตัว 6.8% อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังคงเป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาลจีนซึ่งกำหนดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ไว้ที่ระหว่าง 6.5 - 7%
แม้ข้อมูลล่าสุดนี้จะเป็นเครื่องยืนยันถึงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงมีสัญญาณการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่บ้าง โดยตัวเลขการลงทุนในทรัพย์สินทางอุตสาหกรรมและด้านโครงสร้างสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้น 10.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนี้ ยังดูเหมือนว่าผู้บริโภคยังคงใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง โดยตัวเลขยอดค้าปลีกในเดือน มี.ค.เพิ่มขึ้น 10.5% สอดคล้องกับความพยายามของรัฐบาลจีนที่ต้องการเปลี่ยนเศรษฐกิจจีนที่ขับเคลื่อนด้วยการส่งออก ให้เป็นเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนโดยการบริโภคภายในและธุรกิจอุตสาหกรรมภาคบริการ
ผู้สื่อข่าวบีบีซี บอกว่า ที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวในจีนมักประสบปัญหากับข้อมูลทางเศรษฐกิจจีน เพราะไม่มั่นใจว่าตัวเลขที่เปิดเผยออกมานั้นมีความแม่นยำเพียงใด โดยที่ผ่านมาพบว่าบางมณฑลและบริษัทรายงานตัวเลขการผลิตดีเกินจริง ขณะที่บางส่วนรายงานตัวเลขต่ำกว่าความเป็นจริงเพื่อให้ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล ด้วยเหตุนี้นักเศรษฐศาสตร์บางคนจึงวัดสภาพเศรษฐกิจของจีนโดยใช้ข้อมูลการใช้ไฟฟ้าแทน ซึ่งผลที่ได้บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นการขยายตัวอย่างช้าๆ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นไปตามความต้องการของทางการจีนที่ต้องการปรับพื้นฐานของเศรษฐกิจ และในระยะยาวหลายฝ่ายเชื่อว่านี่เป็นสิ่งที่ควรทำ แต่นั่นหมายถึงว่า จีนยังจะมีปัญหาตามมาอีกมากจากการปรับตัวหนนี้
ทางด้านนักวิเคราะห์ต่างประเทศในภูมิภาคอีกหลายรายเห็นว่า นี่เป็นทิศทางที่ถูกต้อง และคนที่เฝ้ามองเศรษฐกิจจีนต่างรู้สึกโล่งอกเพราะเห็นได้ว่ากำลังมีการปฎิรูป สิ่งที่เป็นปัญหาคือบางฝ่ายรู้สึกว่า ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาอาจจะสูงไปด้วยซ้ำ


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.