ภาพพลทหารยุทธกินันท์ บุญเนียม ก่อนและหลังถูกทำร้ายร่างกาย จนเสียชีวิตในวันที่ 1 เม.ย. 2560

'ผสานวัฒนธรรม' จี้ตั้งกก.อิสระสอบเหตุ 'พลฯยุทธกินันท์' ถูกซ้อมตายในคุกทหาร ด่วน-โปร่งใส

Posted: 06 Apr 2017 03:10 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม แนะ รบ.ปฏิบัติตามข้อเสนอแนะที่ได้รับจาก กก.ต่อต้านการทรมาน ยูเอ็น ส่วน กองทัพต้องปรับทัศนคติเจ้าหน้าที่ในสังกัดของตน ตรวจสอบเรือนจำ ให้เป็นไปตาม “ข้อกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง” ของสหประชาชาติ หรือ “ข้อกำหนดแมนเดลา”

6 เม.ย. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ออกแถลงการณ์ กรณีพลทหารยุทธกินันท์ บุญเนียม ถูกซ้อมจนเสียชีวิต ขณะถูกขังในเรือนจำมณฑลทหารบกที่ 45 ค่ายวิภาวดีรังสิต จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งข้อสังเกต 4 ประเด็น พร้อมทั้งมีข้อเรียกร้องและเสนอแนะ ประกอบด้วย แต่งตั้งคณะกรรมการที่เป็นอิสระสอบข้อเท็จจริงกรณีนี้อย่างเร่งด่วนและโปร่งใส รัฐบาลปฏิบัติตามข้อเสนอแนะที่ได้รับจาก คณะกรรมการการต่อต้านการทรมาน องค์กรสหประชาชาติ กองทัพดำเนินการสำรวจตรวจสอบเรือนจำภายใต้สังกัดของตนทั้งหมด และปรับปรุง แก้ไขทั้งในด้านสถานที่ กฎระเบียบ ตลอดจนการกำกับดูแลให้เป็นไปตาม “ข้อกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง” ของสหประชาชาติ หรือ ที่เรียกว่า “ข้อกำหนดแมนเดลา” รวมทั้ง กองทัพ ต้องมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือแก้ไข นโยบาย แบบแผน ทัศนคติ เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อเจ้าหน้าที่ในสังกัดของตน
โดยมีรายละเอียดดังนี้

สืบเนื่องจากกรณีที่มีรายงานข่าวอย่างกว้างขวาง เรื่องพลทหารยุทธกินันท์ บุญเนียม ทหารกองประจำการค่ายวิภาวดีรังสิต มณฑลทหารบกที่ 45 จ.สุราษฎร์ธานี กระทำความผิดทางวินัยจนถูกสั่งขังภายในเรือนจำมณฑลทหารบกที่ 45 ค่ายวิภาวดีรังสิต และต่อมาถูกทำโทษภายในเรือนจำค่ายดังกล่าว โดยถูก ซ้อม ทำร้ายร่างกายด้วยวิธีการทรมาน หรือทารุณโหดร้าย จนเป็นเหตุให้พลทหารยุทธกินันท์ บุญเนียม
ถึงแก่ความตาย เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2560 นั้น

จากสาเหตุดังกล่าวข้างต้น มูลนิธิผสานวัฒนธรรมขอตั้งข้อสังเกตดังต่อไปนี้

1. มูลนิธิผสานวัฒนธรรมเห็นว่าเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ใช่กรณีแรกและพบว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเหตุการณ์เช่นนี้ยังคงเกิดขึ้นอยู่เนืองๆ อาทิเช่น เมื่อปี 2554 กรณีพลทหารวิเชียร เผือกสม ถูกครูฝึกหน่วยฝึกทหารใหม่ลงโทษด้วยวิธีการซ้อมทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย ปี 2559 กรณีสิบโทกิตติกร สุธีรพันธ์ ผู้ต้องขังเรื่องจำมณฑลทหารบกที่ 25 ค่ายวีรวัฒน์โยธิน จ.สุรินทร์ ถูกผู้คุมเรือนจำทหารกับพวกร่วมกันทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย เป็นต้น

2. ภายใต้ข้อกำหนด พระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยทางทหาร พ.ศ. 2476 กำหนดให้ทหารที่กระทำผิดวินัยทหารนั้น อาจถูกลงโทษตามความร้ายแรงของความผิดที่กระทำ 5 ประการคือ (1) ภาคทัณฑ์ คือ ผู้กระทําผิดมีความผิด อันควร ต้องรับทัณฑ์สถานหนึ่ง สถานใดดังกล่าวมาแล้ว แต่มีเหตุอันควรปราณี จึงเป็นแต่แสดงความผิดของผู้นั้น ให้ปรากฏหรือให้ทํา ทัณฑ์บนไว้ (2) ทัณฑกรรมนั้น ให้กระทําการสุขา การโยธา ฯลฯ เพิ่มจากหน้าที่ประจําซึ่งตนจะต้อง ปฏิบัติอยู่แล้ว หรือปรับให้อยู่เวรยาม นอกจากหน้าที่ประจํา (3) กัก คือ กักตัวไว้ในบริเวณใดบริเวณหนึ่งตาม แต่จะกําหนดให้ (4) ขังคือขังในที่ควบคุมแต่เฉพาะคนเดียวหรือรวมกันหลายคนแล้วแต่จะได้มีคําสั่ง (5) จําขัง คือ ขังโดยส่งไปฝากให้อยู่ในความควบคุมของเรือนจําทหารนอกจากทัณฑ์ที่กล่าวไว้นี้ ห้ามมิให้คิดขึ้นใหม่หรือ ใช้วิธีลงทัณฑ์อย่างอื่นเป็นอันขาดอาการบาดเจ็บสาหัสของพลทหารทั้งสองคนจนกระทั่งมีคนหนึ่งเสียชีวิตนั้นแสดงให้เห็นว่าวิธีการที่ผู้บังคับบัญชาใช้ในการลงโทษทางวินัยพลทหารทั้งสองนั้นเป็นวิธีการที่ผิดไปจากกฎหมาย กำหนดอย่างชัดเจน

3.ถ้าหากปรากฎว่าการกระทำดังกล่าวข้างต้นเป็นการลงโทษพลทหารยุทธกินันท์ บุญเนียม ก็ถือว่าเป็นการปฏิบัติอันไม่เป็นไปตามวิธีการที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้ยังถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายทหารด้วย และยังเป็นการกระทำที่ขัดกับกฎหมายระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีอยู่ พบว่าประเทศไทยยังขาดหลักประกันทางกฎหมายและแนวทางปฏิบัติที่จะยุติการซ่อมทหารจนเป็นเหตุให้ถึงแก่บาดเจ็บและเสียชีวิต จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยต้องปฏิบัติตามพันธกรณีตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานหรือการประติบัติอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี โดยกำหนดให้ การทรมาน เป็นความผิดทางอาญา เพื่อเป็นมาตรการทางกฎหมายที่จะสามารถนำผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม กำหนดมาตรการในการป้องกัน และการสืบสวนสอบสวนคดีทรมานที่มีประสิทธิภาพ ตรงไปตรงมาได้ โดยเฉพาะการซ้อมทรมานที่เกิดขึ้นในค่ายทหาร

4. การตายในระหว่างการควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่เป็นกรณีที่ตรวจสอบยาก โดยเฉพาะการตายโดยผิดธรรมชาติ หรือถูกทำร้ายหรือซ้อมทรมานด้วยวิธีการต่างๆจนถึงแก่ความตายนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะแพทย์นิติเวชที่ต้องทำการผ่าพิสูจน์ศพเพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง

5. การสืบสวนสอบสวนการตายในระหว่างควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ ต้องการเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนที่เป็นอิสระ เป็นมืออาชีพ มีความรู้ความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ และมีอำนาจ เพราะเป็นกรณีเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอิทธิพลอาจเกี่ยวข้องกับการตายดังกล่าว ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นพนักงานสอบสวนสำนวนการตายในกรณีเช่นนี้ จะต้องมีความพยายามมากขึ้นในการที่จะเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ เพื่อให้ข้อมูลครบถ้วนและให้ความจริงปรากฏมากที่สุด เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องเข้าตรวจสถานที่เกิดเหตุที่เป็นสถานที่ของทางราชการฯ หรือของหน่วยงานอื่น อาจไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าของสถานที่ หรือยังไม่มีความเป็นกลาง ปราศจากอคติ หรือเป็นมืออาชีพมากพอ ส่งผลให้ไม่สามารถนำข้อเท็จจริงเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ตรงและสอดคล้องกับความจริง ทำให้ไม่อาจพิสูจน์ความจริง หรือคดีไม่กระจ่างและคงไว้ซึ่งความสงสัยของสังคมและญาติส่งผลให้ประชาชนขาดความมั่นใจในกระบวนการยุติธรรมไทย

จากเหตุดังกล่าวมูลนิธิผสานวัฒนธรรม มีข้อเสนอแนะและขอเรียกร้องดังต่อไปนี้

1. ขอให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการที่เป็นอิสระ ซึ่งประกอบไปด้วยผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และมีอำนาจให้สอบข้อเท็จจริงกรณีนี้อย่างเร่งด่วนและโปร่งใส และหากพบว่ามีผู้กระทำความผิด ต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษทั้งทางวินัยและทางอาญา เช่น ผู้บัญชาการผู้มีอำนาจสั่งพักราชการเจ้าหน้าที่ในสังกัดของตนที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องหรือรับผิดชอบต่อการบาดเจ็บและเสียชีวิตของพลทหารยุทธกินันท์ บุญเนียม โดยทันที และจัดการเยียวยาให้ครอบครัวผู้เสียหายอย่างเหมาะสมต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น

2. ขอให้ทางกองทัพ มีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือแก้ไข นโยบาย แบบแผน ทัศนคติ เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อเจ้าหน้าที่ในสังกัดของตน กรณีที่เจ้าหน้าที่ในสังกัดของตนตกเป็นผู้กระทำผิดทางวินัย หรือทางอาญา ให้มีการปฏิบัติอันเป็นไปตามวิธีการที่กฎหมายกำหนด และไม่เป็นการกระทำอันละเมิดต่อสิทธิมนุษยชน ตลอดจนมิใช่การกระทำอื่นใดนอกเหนือวิธีการอันกฎหมายกำหนดไว้ เช่น การทำร้ายร่างกายทหารที่กระทำผิดวินัยโดยวิธีอันทารุณโหดร้าย เป็นต้น

3. ขอให้รัฐบาลปฏิบัติตามข้อเสนอแนะที่ได้รับจาก คณะกรรมการการต่อต้านการทรมาน องค์กรสหประชาชาติ ว่าด้วย (ก) ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการตรวจเยี่ยมสถานที่ควบคุมตัวทั้งหมดอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งโดยการตรวจเยี่ยมปกติ และการตรวจเยี่ยมโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยการตรวจสอบระดับชาติและระดับระหว่างประเทศ ที่เป็นอิสระ การตรวจสอบยังรวมถึงการตรวจสอบจากองค์กรเอกชน เพื่อป้องกันการทรมานและการประติบัติและการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรี (ข) นำเสนอข้อเสนอแนะจากการตรวจเยี่ยมเผยแพร่สู่สาธารณะ และติดตามผลของระบบการตรวจสอบดังกล่าว (ค) เก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ เวลา และระยะเวลา การตรวจสอบ รวมถึงการตรวจเยี่ยมโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ตามสถานที่ที่ทำให้สูญสิ้นเสรีภาพ ตลอดจนข้อค้นพบและการติดตามผลของการตรวจเยี่ยมดังกล่าว (ง) ให้สัตยาบันพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและประติบัติ หรือการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรี และจัดตั้งกลไกป้องกันแห่งชาติ

4. ขอให้กองทัพดำเนินการสำรวจตรวจสอบเรือนจำภายใต้สังกัดของตนทั้งหมด และปรับปรุง แก้ไขทั้งในด้านสถานที่ กฎระเบียบ ตลอดจนการกำกับดูแลให้เป็นไปตาม “ข้อกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง” ของสหประชาชาติ หรือ ที่เรียกว่า “ข้อกำหนดแมนเดลา” (Mandela Rule) เนื่องด้วยเรือนจำทหารบางพื้นที่มีสถานที่ที่จำกัดไม่เพียงพอต่ออัตราส่วนของนักโทษในเรือนจำ ตลอดจนบุคคลากรหรือผู้ควบคุมดูแลนักโทษไม่เพียงพอเมื่อเทียบอัตราส่วนของผู้ควบคุมต่อจำนวนผู้ต้องขัง หรือบ้างยังขาดความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ ตลอดจนทัศนคติการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ต้องขัง และผู้บังคับบัญชาขาดการตรวจสอบดูแล

ทั้งนี้มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ขอสนับสนุนท่าทีของผู้บัญชาการทหารบกต่อกรณีดังกล่าวและที่ได้เน้นย้ำให้ผู้บังคับบัญชาได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่ทหารให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวนอย่างเต็มที่ในการคลี่คลายคดีนี้ อันส่งผลให้การสืบสวนสอบสวนเป็นไปอย่างรวดเร็ว จนศาลสามารถออกหมายจับและจับกุมทหารที่ตกเป็นผู้ต้องหาได้หลายคน

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของพลทหารยุทธกินันท์ บุญเนียมจากการที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักยิ่งของครอบครัว และคาดหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมและการชดใช้เยียวยาการละเมิอสิทธิมนุษยชนที่ร้ายแรงในกรณีนี้ เหตุการณ์ในครั้งนี้และหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมาจะเป็นความทรงจำที่ก่อให้เกิดบทเรียนแก่กองทัพ เพื่อทางกองทัพจะดำเนินการ ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง แก้ไข นโยบาย แบบแผน หรือปัจจัยอื่นๆ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกในภายภาคหน้า

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.