ภูเขาน้ำแข็งขนาดมหึมากว่า 400 ลูก ลอยเกลื่อนในเส้นทางเดินเรือทางตอนเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เรือต่างๆ ต้องชะลอความเร็วลงเป็นคืบคลาน หรือไม่ก็แล่นอ้อมหลายร้อยไมล์

สำนักข่าวเอพีรายงานจากเมืองโพรวิเดนซ์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ว่า กลุ่มผู้เชี่ยวชาญชี้ปรากฎการณ์เกิดจากกระแสลมแรงทวนเข็มนาฬิกาที่ผิดปกติ ทำให้ภูเขาน้ำแข็งลอยลงทางใต้ หรืออาจจะเกิดจากผลของภาวะโลกร้อน ซึ่งเร่งกระบวนการแผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์ละลาย และภูเขาน้ำแข็งหลุดลอย

จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่เรือลาดตระเวนยามฝั่งสหรัฐ ถึงวันจันทร์ (3 เม.ย.) ภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ประมาณ 450 ลูก ลอยอยู่ใกล้เกาะนิวฟันด์แลนด์ เพิ่มขึ้นจาก 37 ลูกในสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ซึ่งตามปกติจำนวนที่มากขนาดนี้จะไม่พบเห็น จนกว่าจะถึงปลายเดือน พ.ค. หรือต้นเดือน มิ.ย. ค่าเฉลี่ยของช่วงเวลานี้ในแต่ละปีจะอยู่ที่ประมาณ 80 ลูก

ในบริเวณน่านน้ำใกล้จุดที่เรือไททานิคจมในปี พ.ศ. 2455 ภูเขาน้ำแข็งทำให้เรือที่สัญจรผ่าน ต้องแล่นด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ และเรือข้ามฟากมหาสมุทรแอตแลนติกจำนวนมาก ต้องแล่นอ้อมระยะทางเพิ่มขึ้นประมาณ 400 ไมล์ หรือใช้เวลาเดินทางมากกว่าเดิมวันครึ่ง

จากข้อมูลของหน่วยเรือลาดตระเวนยามฝั่งสหรัฐ ตลอดปี พ.ศ. 2557 มีภูเขาน้ำแข็งลอยในเส้นทางเดินเรือทางตอนเหยนือของแอตแลนติก 1,546 ลูก ปี 2558 มี 1,165 ลูก และปี 2559 มี 687 ลูก.

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.