มีการคาดการว่า AI (artificial intelligence)  หรือ ปัญญาประดิษฐ์  แขนงการศึกษาทางวิทยาการคอมพิวเตอร์แขนงหนึ่งที่พยายามจะทำให้คอมพิวเตอร์สามารถคิดหาเหตุผลได้ เรียนรู้ได้ ทำงานได้เหมือนสมองมนุษย์  ทำงานแทนคน’ อีก 7 ปีคนจะตกงานเป็นล้าน!

.
บริษัททั่วโลกมองหาความรวดเร็ว ผู้ใช้มองหาความสะดวกสบาย...แล้วทำไม ‘คน’ อย่างเราจะไม่ตกงานกันล่ะ?
.
++ ปี 2025 คนจะตกงานกว่า 5 ล้านตำแหน่ง ++
.
ในสหรัฐอเมริกามีหุ่นยนต์ที่เข้ามาทำงานแทนคนแล้วกว่า 1.75% ต่อคนงาน 1,000 คน และคาดว่าในปี 2025 จะกระโดดขึ้นไปอีก 4 เท่า! และปี 2040 ผู้เชี่ยวชาญชาวอังกฤษคาดว่าผู้คนจำนวนมากจะพากันตกงาน และส่วนหนึ่งต้องทำงานหนักขึ้น
.
แต่ในบรรดาอาชีพที่จะถูกแย่งงาน ก็ยังมี Safe Zone ที่ในอนาคตยังมีความเป็นไปได้อยู่น้อยนิดที่จะถูกแทนที่ด้วย AI
.
++ 5 อาชีพแห่งอนาคต ที่ AI ยังขโมยไปไม่ได้ ++
.
จากผลการสำรวจของ BBC และมหาวิทยาลัย Oxford บอกว่าสายอาชีพด้านสุขภาพ ความคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา การจัดการคน และการสื่อสารกับคนจำนวนมากยังเป็นสกิลที่ ‘คน’ ยังทำได้ดีกว่า
.
และนี่คือตัวอย่าง 5 อาชีพ ที่โล่งอกได้เลยว่าในช่วง 2 ปีนี้จะยังไม่ถูก AI ขโมยงานคุณไปแน่นอน
.
1. Creative

เพราะ AI ไม่มีสมองซ๊กขวา ตอนนี้คอมพิวเตอร์เก่งในการวิเคราะห์โครงสร้าง และตีความข้อมูลตามที่เราป้อนเข้าไปให้ แต่ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญด้านความคิดสร้างสรรค์ขนาดนั้น แม้ว่าจะเริ่มมี AI ที่เขียนข่าว/แต่งเพลง ออกมาบ้างแล้วก็ตาม
.
2. Sales Managers (ผู้จัดการฝ่ายขาย)

เพราะอาชีพนี้ต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูล และพูดคุยกับคนมากมาย บางสถานการณ์ก็ต้องมีการปรับตัวเพื่อให้เข้าใจลูกค้า และแวดล้อมมากขึ้น มีสถิติบอกว่าโอกาสที่ถูกจะแทนที่ด้วย AI เป็นไปได้แค่ 1.3%
.
3. Data Analysts (นักวิเคราะห์ข้อมูล)

ในปี 2020 จะเป็นอาชีพที่หลายบริษัททั่วโลกต้องการสูงมาก ขนาดในสหรัฐอเมริกายังมีตัวเลขการจ้างงานตำแหน่งนี้เพิ่มขึ้นมากถึง 6 เท่า เมื่อเทียบกับ 5 ปีที่แล้ว
.
4. Software Developers (นักพัฒนาซอฟต์แวร์)

เพราะเทคโนโลยีมันมาแรง สายอาชีพนี้จึงเรียกได้ว่าฮอตมาก! เพราะคนเหล่านี้จะเป็นเหมือนหัวใจในการพัฒนาระบบซอฟแวร์ และคาดว่าในปี 2024 จะโตได้อีก 19% เลยทีเดียว
.
5. Diagnostic Medical Sonographer (นักวินิจฉัยทางการแพทย์)

เพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอุปกรณ์ Ultrasound อาชีพนี้เลยเป็นอาชีพที่คาดว่าในอนาคตจะมีความต้องการเพิ่มขึ้นอีกถึง 24%
.
++ Safe Zone ไม่ได้มีแค่นี้ และไม่ได้ปลอดภัยเสมอไป ++
.
เราเห็นกันอย่างชัดเจนอยู่แล้วว่าเทคโนโลยีกำลังเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันเรามากขึ้นเรื่อย ๆ ใครจะไปคิดห้างใหญ่ ๆ จะเจ๊งได้ เพราะอีคอมเมิร์ซ...ใครจะคิดว่านิตยสารจะตายแค่เพราะอินเทอร์เน็ตเข้ามา
.
ทั้งหมดที่ว่ามานี้เกิดขึ้นมาในเวลาไม่กี่ปีเท่านั้น ทุกคนต้องตื่นตัวและต้องเตรียมปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ "คนฉลาด ไม่ใช่คนที่ทำอะไรได้ทุกอย่าง แต่เป็นคนที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์นั้น ๆ ได้อย่างเหมาะสมลงตัว" ส่วนกะลาแลนด์ ไม่ปรับตัว มีแต่ทรงกับทรุดถอยหลัง เพราะเผด็จการครอบงำ.... //

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.