Posted: 14 Sep 2018 07:15 PM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าวเว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Sat, 2018-09-15 09:15


ฝ่ายบริหารและตำรวจในย่านบาฮันของนครย่างกุ้งเรียกตัวผู้จัดการประท้วงเข้าพบหลังจากมีการยื่นเรื่องของประท้วงเรียกร้องปล่อยตัวนักข่าวรอยเตอร์ 2 คน ที่รายงานข่าวเรื่องโรฮิงญาและถูกตำรวจจัดฉากจับกุมข้อหาความลับทางราชการ ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐอ้างว่าพวกเขาไม่สามารถชุมนุมในสถานที่ที่วางแผนชุมนุมได้ แต่ฝ่ายผู้จัดการประท้วงก็ชี้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐเลือกปฏิบัติ ยอมให้ฝ่ายชุมนุมสนับสนุนกองทัพต่อต้านศาลอาญาระหว่างประเทศชุมนุมได้ในเขตห้ามชุมนุม

สื่อฟรอนเทียร์เมียนมาร์รายงานว่าทางการย่านบาฮัน เมืองย่างกุ้งเรียกตัวแกนนำผู้จัดการประท้วง เรียกร้องปล่อยตัวนักข่าวรอยเตอร์สองคน ซึ่งมีแผนการประท้วงในวันที่ 16 ก.ย. 2561 ที่จะถึงนี้ โดยทางการเรียกตัวผู้จัดไปเตือนว่าพวกเขาอาจจะถูกจับกุมข้อหาประท้วง "อย่างผิดกฎหมาย" ได้

ผู้จัดงานวางแผนประท้วงเรียกร้องให้มีการปล่อยตัว วะลง และ จ่อซออู นักข่าวรอยเตอร์ 2 คน ที่ถูกศาลสั่งลงโทษจำคุก 7 ปี เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ที่ผ่านมา ศาลตัดสินโดยอ้างใช้กฎหมายความลับทางราชการ แต่มีผู้มองว่าการดำเนินคดีในครั้งนี้เป็นไปอย่างปาหี่และข้อหาที่นักข่าวเหล่านี้ถูกดำเนินคดีเป็นการจัดฉากให้เกิดขึ้นโดยตำรวจ

ผู้จัดการประท้วงประกอบด้วยตัวแทนของนักข่าว นักกิจกรรมเพื่อเสรีภาพสื่อและกลุ่มนักกิจกรรมเยาวชน พวกเขาแจ้งทางการในเรื่องการประท้วงแล้วเมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา ในย่านต่างๆ แต่ก็ถูกสั่งห้าม ส่วนเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารในย่านบาฮันชื่ออูเทียนซอ (U Htein Soe) เรียกตัวนักกิจกรรมเหล่านี้ไปเข้าพบช่วงบ่ายของวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งอูเทียนซอเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงบริหารงานทั่วไป ซึ่งเป็นกระทรวงที่ถูกทหารครอบงำอยู่

ในการเรียกตัวเข้าพบอูเทียนซอกับผู้กำกับการตำรวจเตือนพวกเขาว่าถ้าหากพวกเขายังคงต้องการจัดการประท้วงที่ชื่อ "สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร" ต่อไป พวกเขาอาจจะต้องเผชิญชะตากรรมเดียวกับกลุ่มประท้วงต่อต้านสงครามในเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ชุมนุมเหล่านี้ถูกปราบปรามด้วยความรุนแรงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและถูกดำเนินคดีด้วยกฎหมายการชุมนุมอย่างสันติ โดยที่ในครั้งนั้นก็เคยถูกตำรวจประกาศสั่งห้ามช่วงปลายปีที่แล้วโดยข้ออ้างว่าเพื่อหลีกเลี่ยง "การรบกวนสาธารณะ" และ "การกีดขวางทางจราจร" แต่ก็มีการฝืนชุมนุมต่อไป

การสั่งห้ามการชุมนุมในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ก็อยู่ในการห้ามแบบเดียวกันซึ่งผู้จัดงานตั้งคำถามว่าคำสั่งของรัฐบาลท้องถิ่นจะเป็นการนำมากลบสิทธิในการชุมนุมอย่างสันติที่ระบุไว้ในกฎหมายการชุมนุมอย่างสันติหรือไม่

อูเทียนซอกล่าวในทำนองว่าเขาไม่อยากให้เหตุการณ์แบบในเดือน พ.ค. เกิดขึ้นอีก ขณะที่เทียนวิน ผู้กำกับการตำรวจประจำเขตปาฮันกล่าวอ้างว่าผู้จัดงานประท้วงเมื่อเดือน พ.ค. ไม่ยอมเชื่อฟังข้อเสนอแนะของตำรวจที่ให้ย้ายการจัดงานไปที่อื่นที่ไม่ใช่สี่แยกใหญ่ และเขาเตือนให้ผู้จัดการชุมนุมในวันอาทิตย์นี้ควรปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ระดับสูง

อย่างไรก็ตามหนึ่งในผู้ประท้วงคือ โคลายทินซินไว (Ko Hline Thint Zin Wai) หนึ่งในผู้จัดการชุมนุมที่มาจากคิตทิตมีเดียกรุ๊ปถามตำรวจว่าทำไมการเดินขบวนสนับสนุนกองทัพถึงได้รับการอนุญาตที่ศาลากลางเมืองย่างกุ้งทั้งที่เป็นพื้นที่ห้ามประท้วง การประท้วงดังกล่าวมีขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีคนหลายสิบคนซึ่งส่วนใหญ่เป็นทหารเกษียณอายุที่หน้าศาลากลางเมืองเพื่อแสดงการต่อต้านศาลอาญาระหว่างประเทศที่ตัดสินว่าจะสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับกรณีกองทัพพม่าทำให้ชาวโรฮิงญากลายเป็นผู้พลัดถิ่น

"กฎหมายควรถูกบังคับใช้เท่าเทียมกันทุกคน" โคลายทินซินไวกล่าว เขาโต้แย้งเจ้าหน้าที่อีกว่าการสั่งห้ามไม่ให้ชุมนุมเฉพาะบางพื้นที่โดยไม่มีข้อกำหนดถือเป็นการละเมิดกฎหมายการชุมนุมอย่างสงบเสียเองเพราะเจ้าหน้าที่ไม่มีอาณัติใดๆ ที่จะสามารถสั่งการเช่นนี้

โคลายทินซินไวกล่าวอีกว่าการประท้วงในวันอาทิตย์นี้ไม่มีเจตนาจะต่อต้านรัฐบาลหรือกองทัพ พวกเขาแค่ "ทำเพื่อสิทธิของตัวเอง" รวมถึงสิทธิของคนพม่าคนอื่นๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่เองด้วย คือสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร

สุดท้ายแล้วโคลายทินซินไวก็ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อฟรอนเทียร์เมียนมาร์ว่าพวกเขาจะยังคงจัดการประท้วงบนท้องถนนในแบบใดแบบหนึ่งและจะใช้เส้นทางอื่นในการประท้วง อย่างไรก็ตามพวกเขาก็เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ในแบบเลวร้ายที่สุดเอาไว้แล้ว

เรียบเรียงจาก

Authorities ban protests against jailing of Reuters journalists, threaten arrests, Frontier Myanmar, 13-09-2018
https://frontiermyanmar.net/en/authorities-ban-protests-against-jailing-of-reuters-journalists-threaten-arrests[full-post]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.