Peace News

“บิ๊กจิ๋ว” เสนอยุบ ครม.-เลิก คสช.ตั้ง รบ.เฉพาะกาล-เขียน รธน.ใหม่


“บิ๊กจิ๋ว-พญาไม้-จตุพร” ผนึกกำลังเสนอทางออกประเทศไทย ชูความเห็นร่วม “ประยุทธ์เป็นศูนย์กลางปัญหาชาติ” แนะลาออก เสียสละตัวเองประวัติศาสตร์ชาติจะจารึก ยึดเป็นตัวอย่าง แจงหยุดเลือกตั้งภายใต้ รธน.60 เจ้าปัญหา นำ รธน.40 มาใช้ชั่วคราว แล้วตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลพระราชทาน เขียน รธน.ใหม่ เสมอภาคทุกส่วน

เมื่อ 28 ก.ย. 2561 พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี นายเผด็จ ภูรีปฏิภาณ สื่อมวลชน เจ้าของนามปากกา “พญาไม้” และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ร่วมกันแถลงข่าว “ทางออกประเทศไทย” ณ บ้านพัก พล.อ.ชวลิต ซอยกาญจนาภิเษก 10/4 รามอินทรา เขตคันนายาว

พล.อ.ชวลิต ในวัย 86 ปี เสนอว่า ทางออกประเทศไทยที่จะเป็นไปได้มีอยู่ทางเดียว โดยยึดแนวทางสำคัญ 3 ประการ คือ ปฏิบัติตามพระราชประสงค์ มอบสิทธิเสรีภาพให้ประชาชนได้เรียนรู้ แล้วมอบอำนาจอธิปไตยในการปกครองบ้านเมืองให้ประชาชน

นอกจากนี้ ต้องยึดหลักนิติธรรมอย่างเข้มข้น ให้ถือว่าคนทำผิด หากยังไม่ถูกตัดสินต้องถือว่า เป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ใช่จับขังไว้ก่อนเหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งต้องยึดหลักการปกครองที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน

พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า การปกครองประชาธิปไตยในไทยขณะนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะไม่มีขบวนการประชาธิปไตยที่เกิดจากการรวมตัวของประชาชนเพื่อเรียกร้องให้ประเทศชาติเกิดการเปลี่ยนแปลง

“ขบวนการประชาธิปไตยต้องเกิดขึ้น ซึ่งกำลังทำให้เกิดในเร็ววันนี้ การเปลี่ยนแปลงต้องเดินหน้า ไม่ใช่อยู่อย่างนี้ไปตลอดชีวิตเป็นไปไม่ได้ เรามีแผนการที่จะให้พระองค์ท่านได้รับทราบโครงการเฉลิมพระเกียรติพระเจ้าอยู่หัว ร.10”

รวมทั้งย้ำว่า แนวทางที่เสนอนั้น ไม่ต้องการทำลายคนหนึ่งคนใดในการปกครองปัจจุบัน แต่ไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งที่เกิดเมื่อกว่า 30 ปี กลับมาเกิดขึ้นอีกในอนาคต

นายเผด็จ ถามว่า รัฐธรรมนูญปัจจุบันจะนำไปสู่สิ่งที่เสนอมานั้นได้หรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ถ้าปล่อยให้มีการเลือกตั้งในระบบปัจจุบันจะเกิดการทะเลาะกันไม่สิ้นสุด ก่อปัญหาตามมามากมายหลังเลือกตั้ง เราต้องเปลี่ยน เริ่มด้วยเปลี่ยนระบบการปกครองให้เป็นประชาธิปไตยภายใต้พระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขแห่งรัฐ เพราะทรงถืออำนาจสูงสุด

“ถ้าการปกครองแบบนี้จะเกิดปัญหา เอาอย่างนี้หรือไม่ อย่าปล่อยให้มีการเลือกตั้งเลย คือ เปลี่ยนระบบปัจจุบันสักหน่อย ให้มีรัฐบาลเฉพาะกาลภายใต้อำนาจพิเศษของพระองค์ท่าน”

พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า การใช้รัฐธรรมนูญปัจจุบันประเทศไปไม่รอด ต้องยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 2560 แล้วนำรัฐธรรมนูญปี 2540 มาแก้ไขบ้างมาตราให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน รวมทั้ง ยกเลิก คสช. แล้วให้กลับมาช่วยกันทำงาน จากนั้นตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลขึ้นมาดำเนินการสร้างรัฐธรรมนูญใหม่ ให้เกิดความเสมอภาคขึ้น ใช้เวลา 1-2 ปี ทุกสิ่งทุกอย่างก็จบ สิ่งสำคัญ เมื่อ คสช. หมดไปแล้ว พระองค์ท่านจะเลือกรัฐบาลใหม่ และตั้งสภานิติบัญญัติใหม่

“ศูนย์รวมปัญหาขณะนี้อยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งจะนำไปสู่ความขัดแย้งสูงและรุนแรงมาก แต่ไม่รู้ว่า ความอดทนของคนชั้นล่างจะมีถึงไหน หากถวายฎีกาแล้วจะยุ่งกันใหญ่ทั้งประเทศ สรุปแล้วปัญหาที่ง่ายที่สุดขณะนี้ คือ การเสียสละอันยิ่งใหญ่ของพล.อ.ประยุทธ์ จะได้จารึกเป็นประวัติศาสตร์”

พล.อ.ชวลิต เชื่อว่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ฟังในสิ่งที่ตนพูดและคงคิดจะทำทุกอย่างให้ถูกต้องด้วยตัวเองอย่างแน่นอน เพราะท่านเป็นลูกผู้ชาย เป็นทหารกล้า ท่านเท่านั้นต้องทำ เพราะท่านเป็นตัวปัญหาหลักขณะนี้

พร้อมกับย้ำถึงความหวังในวันนี้ เชื่อว่า ความเสียสละของ พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นตัวอย่างรูปแบบอันหนึ่งที่ถูกจารึกไว้ และขออย่าห่วงประเทศชาติให้มากเกินไปนัก

“ท่าน (พล.อ.ประยุทธ์) น่าจะทำ น่าจะเสียสละตัวเอง ดีกว่าให้สิ่งอื่นมาประจานให้สิ่งที่ท่านต้องการมันไม่เป็นจริง แล้วนำความเสียหายมาสู่ตัวท่านเอง วงศ์ตระกูล ลูกหลานอีก 100 ปี 1000 ปีก็จะพูดถึงสิ่งนี้ ผมจึงว่า ท่านทำแน่นอนในสิ่งที่ดี”

สำหรับแนวคิดการยื่นฎีกาขอพระราชทานรัฐบาลเฉพาะกาลนั้น พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า จะเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทหรือไม่นั้น ส่วนตัวมองว่า นี่คือความน่ารักของคนไทย ที่เกรงว่าจะไปทำให้พระองค์ท่านไม่สบายพระทัย ดังนั้น ทางออกคือ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องแก้ไขเรื่องนี้ด้วยตัวเอง

ผู้สื่อข่าวถามถึงข่าวพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทยจะจับมือกันเพื่อตั้งรัฐบาลและสนับสนุน นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ได้เป็นก็ไม่สำเร็จ จะรวมกัน 500 พรรคก็ตั้งไม่สำเร็จ

นายจตุพร กล่าวว่า การเลือกตั้งภายใต้ พล.อ.ประยุทธ์ มีอำนาจ ม.44 สามารถคุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และสิ่งสำคัญ หัวหน้า คสช. จะบอกว่าสนใจการเมืองนั้นไม่ได้ แต่จะต้องสนใจประชาธิปไตย สนใจประเทศไทย สนใจประชาชนด้วย อีกทั้งการขับเคลื่อนทางการเมืองโดยอาศัยมาตรา 44 เพียงอย่างเดียวจะยิ่งทำให้ประเทศมีปัญหาในอนาคตแน่นอน

“ผมแนะนำว่า ต้องลาออกจากหัวหน้า คสช. หรืออกจากนายกรัฐมนตรี และให้คนกลางเข้ามาทำหน้าที่การเป็นกรรมการและพล.อ.ประยุทธ์ ก็มาทำหน้าที่เป็นผู้แข่งขัน”

PEACE NEWS

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.