Posted: 14 Sep 2018 08:02 PM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าวเว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Sat, 2018-09-15 10:02


กรุงเทพโพลเผยผลสำรวจคนไทยส่วนใหญ่ 68.0% อยากเห็นพรรคการเมืองใช้ เฟสบุ๊ค/เฟสบุ๊คไลฟ์ เคลื่อนไหวทางการเมืองมากที่สุด ส่วนใหญ่ 51.4% เชื่อจะเกิดผลดี ประชาชนจะเข้าถึงข้อมูลของพรรคการเมืองมากขึ้น ส่วนใหญ่ 63.0% เห็นว่าการเสนอข้อมูลต่างๆ ทางการเมืองของเน็ตไอดอลมีผลค่อนข้างมากถึงมากที่สุดต่อการเลือกตั้ง 47.9% รู้สึกเหมือนถูกปิดกั้นข้อมูล หากมีการห้ามใช้สื่อโซเชียลมีเดียหาเสียง


15 ก.ย. 2561 กรุงเทพโพลโดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “การเลือกตั้งบนสมรภูมิโซเชียล” โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,201 คน พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 68.0 อยากเห็นพรรรคการเมืองใช้สื่อโซเชียลมีเดีย เฟซบุ๊ค/เฟซบุ๊ค ไลฟ์ ในการเคลื่อนไหวทางการเมือง รองลงมาร้อยละ 39.6 อยากเห็นใช้สื่อโซเชียลมีเดีย ไลน์ และร้อยละ 36.5 ใช้สื่อโซเชียลมีเดีย ยูทูป

เมื่อถามความเห็นต่อการใช้สื่อโซเชียลมีเดียเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของพรรคการเมืองต่างๆ พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 51.4 เห็นว่าจะเกิดผลดี โดยในจำนวนนี้ให้เหตุผลว่า ประชาชนจะเข้าถึงข้อมูลพรรคการเมืองได้ง่ายขึ้น (ร้อยละ 54.8) รองลงมาคือ คนรุ่นใหม่จะมีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น (ร้อยละ 53.4) ขณะที่ร้อยละ 48.6 เห็นว่าจะเกิดผลเสีย โดยในจำนวนนี้ให้เหตุผลว่า ข้อมูลที่ได้อาจไม่น่าเชื่อถือ มีการบิดเบือนข้อมูล (ร้อยละ 45.2) และจะมีการแสดงความเห็นใส่ร้ายโจมตีคู่แข่ง ทำให้เกิดความขัดแย้ง (ร้อยละ 33.5)

ส่วนความเห็นต่อการเสนอข้อมูลต่างๆทางการเมืองของเน็ตไอดอลหรือผู้มีอิทธิพลทางความคิด จะมีผลต่อการเลือกตั้งที่จะถึงมากน้อยเพียงใด ส่วนใหญ่ร้อยละ 63.0 เห็นว่ามีผลค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ขณะที่ร้อยละ 37.0 เห็นว่ามีผลค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด

สุดท้ายเมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรหากมีการห้ามใช้สื่อโซเชียลมีเดียหาเสียงพบว่า ร้อยละ 47.9 รู้สึกเหมือนถูกปิดกั้นข้อมูล รองลงมาร้อยละ 34.6 รู้สึกเหมือนประเทศยังไม่พัฒนา ไม่มีอิสระ และร้อยละ 34.3 รู้สึกว่าถ้าใช้โซเชียลหาสียง ประเทศจะวุ่นวายแตกแยก[full-post]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.