Posted: 16 Sep 2018 10:06 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าวเว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Mon, 2018-09-17 00:06
ใบตองแห้ง
เฌอปรางเป็นคนดี รังสิมันต์ โรม กับพวกเรียกร้องประชาธิปไตยเป็นคนไม่ดี ไม่มีคุณธรรม? เพราะไปโจมตีเธอ ที่มาทำความดีให้ประเทศ ร่วมกับรัฐบาล
ถามจริง เฌอปรางแตะไม่ได้เลยหรือไง เธอเป็นไอดอล เป็นบุคคลสาธารณะ ทำมาหากินกับความนิยมของเหล่าโอตะ เมื่อทำอะไรที่มีคนเห็นด้วยเห็นต่าง ก็ต้องถูกวิจารณ์เป็นธรรมดา
การวิพากษ์วิจารณ์ไม่ใช่ cyber bullying ตราบใดที่ไม่ได้คุกคาม แล้วก็ไม่ใช่การจำกัดสิทธิ ตราบใดที่ไม่ได้ใช้กำลังหรืออำนาจ
รังสิมันต์ โรม จะไปจำกัดสิทธิเฌอปรางได้อย่างไร ก่อม็อบล้อม BNK ไม่ให้ไปออกรายการเดินหน้าประเทศไทย ถ้าขืนไป ก็โดนบีบคอ? เฮ้ย นั่นมันพวกขัดขวางเลือกตั้ง ที่โจมตีฝั่งประชาธิปไตย “ใจแคบ” อยู่ตอนนี้ไม่ใช่หรือ
หรือว่าโรมมีอำนาจจับใครเข้าค่ายทหาร แค่ไม่พอใจไอ้คนไม่มีผม ก็ข่มขู่เรียกปรับทัศนคติ ตัวเองทำได้หน้าตาเฉย แต่กลับมายัดคำว่า “จำกัดสิทธิ” ให้คนอื่น ไม่ใช่ยุคตรรกะวิปริต ก็ไม่รู้จะเรียกอะไร
ทำไมต้องเฌอปราง ทำไมไม่เป็นดาราคนอื่น เท่าที่ฟัง น่าจะเพราะเธอเป็นไอดอลของคนรุ่นใหม่ BNK ไม่ใช่แค่ขายดาราวัยรุ่นหวานแวว แต่ยังดูมีสมงสมอง มีความคิดอ่าน เป็นตัวของตัวเอง ยิ่งเฌอปรางดูมีความเป็นนักวิชาการ ซึ่งแน่ละ ก็มีโอตะฝั่งประชาธิปไตยอยู่ไม่ใช่น้อย
การ “ตอบแทนสังคม” โดยเข้าไปช่วยรัฐบาลทหาร จึงขัดกับภาพลักษณ์ และแน่ละ ย่อมทำให้โอตะฝั่งประชาธิปไตยเสียความรู้สึก บ้างก็เซ็งไปเลย บ้างผิดหวังแต่ยังเป็นแฟนคลับ ขณะที่ด้านกลับกัน ก็อาจได้โอตะฝั่งสลิ่มเพิ่มขึ้น
โอตะบางรายก็เถียงแทน ว่าใครจะขัดรัฐบาลได้ เฌอปรางก็ต้องทำตามบริษัท อีกฝั่งก็ซัดกลับ อ้าว ไหนว่าคิดเป็น เป็นตัวของตัวเอง จากนั้นก็มีการวิพากษ์ไปถึงกระแสนิยม BNK ว่าฉาบฉวยหรือไม่
คือไม่ว่าอย่างไร มันก็เป็นจุดเปลี่ยน แม้บริษัทปลื้มว่ามีคนติดตามเพิ่มขึ้น แต่คนอีกฝั่งก็มองว่าจะเสียความนิยม อย่างที่โรมเตือนเป็น “ตราบาป” ซึ่งพวกตรรกะวิบัติหาว่าคุกคาม ทั้งที่เป็นความจริงอยู่แล้วว่า มันจะตราติดเธอไป ซึ่งก็แล้วแต่ใครจะมอง จะเห็นเป็นตราแห่งคุณความดีมีศีลธรรมก็ตามใจ
คำถามสำคัญคือ จะอะไรกันนักหนา กะอีแค่ไปออกรายการเดินหน้าประเทศไทย ไม่ได้ทำผิดคิดร้าย ไม่ได้ไปอ่านแถลงการณ์รัฐประหาร ไม่ได้สนับสนุนให้ใช้อำนาจคุกคามใคร แค่จะไปพูดเรื่องกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (แต่ล่าสุด เห็นว่ากองทุนถูกตัดงบ เลยจะเปลี่ยนเรื่องเป็นโครงการครูตู้)
คนจำนวนหนึ่งจึงเห็นใจเฌอปราง ว่าตกอยู่ท่ามกลางรัฐบาลโหนดารา กับ “พวกบ้าประชาธิปไตย” เข้าไปช่วยเรื่องดีๆ ไม่เห็นเป็นไร พวกที่คัดค้านใจแคบ
พวกบ้าที่ว่านี่ ถูกจับกุมคุมขัง ถูกดำเนินคดีนับไม่ถ้วน ด้วยอำนาจพิเศษ ด้วยคำสั่งเป็นกฎหมาย สี่ปีที่ผ่านไป คนเห็นต่างถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพมากมาย ในขณะที่รัฐบาลทำอะไรดีๆ ให้ประเทศตั้งหลายอย่าง
รัฐประหารไม่ได้ทำอะไรผิดหมด ทำสิ่งดีๆ ก็เยอะไป ไม่เห็นหรือ เผด็จการอะไรแจกบัตรคนจน ตั้งกองทุนเพื่อการศึกษา ลงทุนสาธารณูปโภค EEC 4.0 สร้างอนาคตประเทศไทย
แต่สิ่งที่ทำทั้งหมด ต่อให้เจตนาดี มันก็อยู่ภายใต้อุดมคติ ที่ต้องการทำให้เห็นว่า เผด็จการสร้างชาติได้ รัฐประหารทำให้คนไทยเป็นหนึ่งเดียว ทำให้ชาติไทยยิ่งใหญ่ ประชาธิปไตยสิล้มเหลว เราจึงไม่ควรเป็นประชาธิปไตย ควรอยู่ใต้ระบอบสืบทอดควบคุมอำนาจตลอดไป การละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องจำเป็น ไม่งั้นประเทศไม่เจริญ
การร่วมมือกับรัฐบาล ไม่ว่าเรื่องดีใดๆ ไม่ว่าจงใจหรือไม่ ก็กลายเป็นเกื้อหนุน “เผด็จการสร้างชาติ” ทั้งสิ้น หลายเรื่องยังตรรกะย้อนแย้ง เช่น รณรงค์โตไปไม่โกง ในยุคปิดหูปิดตาปิดปาก “อย่าให้ใครว่าไทย” นิสัยคนไทยเปลี่ยนไปแล้วนะ เพราะมีทหารจัดระเบียบ
เราจะช่วยเหลือเกื้อหนุนระบอบนี้ทำสิ่งดีๆ ทำไม ในเมื่อเราถูกยึดอำนาจ ถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพ ไม่ได้รับความยุติธรรม
แม้แน่ละ ทุกคนต้องทำมาหากิน ต้องเสียภาษี ต้องทำหน้าที่ ต้องมีจรรยาบรรณ เป็นครูต้องสอนเด็ก เป็นหมอต้องรักษาคนไข้ หรือเรื่องมนุษยธรรม ยังไงก็เอาใจช่วย 13 หมูป่า ฯลฯ แต่อย่ามาเรียกหาความร่วมมือร่วมใจ ร่วมสร้างชาติ กับผู้ถูกกระทำ
นี่ไม่ใช่ข้อเรียกร้องต่อเฌอปรางหรอกนะ จะเรียกร้องเธอขนาดนั้นคงไม่ได้ แต่นี่คือจุดยืนฝ่ายประชาธิปไตย ที่ไม่ร่วมมือ และไม่เห็นด้วยกับทุกคนที่เข้าไปร่วมมือ จะมากจะน้อยเท่านั้นเอง
เผยแพร่ครั้งแรกใน: นสพ.ข่าวสด www.khaosod.co.th/hot-topics/news_1566688
แสดงความคิดเห็น