(แฟ้มภาพ) ชาวอุยกูร์ที่ Yarkand ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ สาธารณรัฐประชาชนจีน (ที่มา: travelingmipo/flickr/CC BY SA 2.0)
Posted: 09 Sep 2018 08:48 PM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Mon, 2018-09-10 10:48
ในชั้นเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา นักศึกษาอุยกูร์แนะนำตัวเองว่ามาจาก "เตอร์กิสถานตะวันออก" ซึ่งปัจจุบันคือเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทำให้เขาถูกเพื่อนร่วมชั้นเรียนชาวจีนกล่าวหาว่าเป็นพวกแบ่งแยกดินแดน และขู่ว่าจะรายงานสถานทูตจีน นักศึกษาอุยกูร์จึงตอบกลับว่า "ถ้าคุณรายงานผมต่อเจ้าหน้าที่ทางการจีน ผมก็จะรายงานคุณต่อรัฐบาลอเมริกัน แล้วเราจะได้รู้กันว่าใครจะชนะ"
สถานีวิทยุเอเชียเสรี (RFA) รายงานเหตุการณ์หนึ่งซึ่งสะท้อนถึงกรณีที่จีนพยายามควบคุมวาทกรรมทางการเมืองในมหาวิทยาลัยที่สหรัฐอเมริกา เมื่อนักศึกษาชาวอุยกูร์รายหนึ่งต้องเผชิญหน้ากับเพื่อนร่วมชั้นชาวจีนฮั่น ซึ่งเป็นชนชาติส่วนใหญ่ในจีน ชาวฮั่นคนนี้ข่มขู่เพื่อนร่วมชั้นของตัวเองว่าจะรายงานเขาต่อสถานกงสุลจีนเพราะเขาแสดงความคิดเห็นในเชิง "แบ่งแยกดินแดน"
แต่อาจารย์ภาษาอังกฤษของนักศึกษาเหล่านี้ก็อยู่ข้างเดียวกับนักศึกษาชาวอุยกูร์โดยเตือนชั้นเรียนให้เคารพในกันและกัน รวมถึงถกเถียงอภิปรายความคิดเห็นที่แตกต่างอย่างสันติ
เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงที่ชั้นเรียนให้มีการแนะนำตัวเอง มีนักศึกษาชาวอุยกูร์จากมณฑลซินเจียงทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีนแนะนำตัวเองโดยบอกว่าเขามาจาก "เตอร์กิสถานตะวันออก" ซึ่งเป็นชื่อที่ชาวอุยกูร์จำนวนมากชอบใช้เรียกชื่อรัฐของตัวเองในอดีตโดยที่ในตอนนี้เป็นพื้นที่ที่ถูกยึดครองโดยจีน
นักศึกษาชาวอุยกูร์คนดังกล่าวให้สัมภาษณ์ต่อ RFA ว่าหลังจากที่เขาแนะนำตัวเองเช่นนี้แล้วผู้คนก็มองเขาด้วยความฉงนสนเท่ห์ ทันใดนั้นก็มีนักศึกษาจีนหลายคนลุกขึ้นกล่าวหาว่าเขาเป็นพวก "แบ่งแยกดินแดน" แต่นักศึกษาชาวอุยกูร์ก็ยังคงยืนยันให้นักศึกษาจีนเหล่านี้กลับไปทบทวนประวัติศาสตร์การแย่งชิงพื้นที่ในเขตนั้นให้ดีๆ
นักศึกษาอุยกูร์ที่ไม่ประสงค์ออกนามเพราะกลัวเรื่องความปลอดภัยของครอบครัวที่อาศัยอยู่ในจีนบอกกับสื่อว่าดินแดนดังกล่าวเป็นประเทศอิสระก่อนที่จีนจะรุกรานและอยู่ใต้การยึดครองของรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์จีนมาตั้งแต่ปี 2492
นักศึกษาจีนได้ยินคำยืนกรานแล้วไม่พอใจจนตะโกนใส่เพื่อนร่วมชั้นว่าพวกเขาจะไม่ยอมให้ "พูดต่อต้านจีน" ในชั้นเรียนนั้น และขู่ว่าจะรายงานนักศึกษาอุยกูร์ต่อสถานทูตจีน แต่นักศึกษาอุยกูร์ก็ตอบกลับไปว่า "ถ้าคุณรายงานผมต่อเจ้าหน้าที่ทางการจีน ผมก็จะรายงานคุณต่อรัฐบาลอเมริกัน แล้วเราจะได้รู้กันว่าใครจะชนะ"
อัลชัต ฮัสซัน ประธานสมาคมอุยกูร์อเมริกันเปิดเผยว่าเขาทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและมองว่านักศึกษาอุยกูร์มีสิทธิที่จะรายงานนักศึกษาจีนกลุ่มนี้ต่อเจ้าหน้าที่
ฮัสซันเล่าต่อไปว่าอาจารย์ในชั้นเรียนเตือนกลุ่มนักศึกษาจีนว่าถ้าพวกเขายังทำตัวระรานนักศึกษาชาวอุยกูร์ต่อไป นักศึกษาชาวอุยกูร์ก็อาจจะร้องเรียนต่อเอฟบีไอและพวกเขาถูกนำตัวไปสอบปากคำได้ หลังจากนั้นก็ทำให้นักศึกษาจีนรู้สึกกังวลที่ได้ยินเรื่องนี้จนขอร้องว่าอย่าทำให้เรื่องเลยเถิดไปและขอให้ยุติเพียงเท่านี้
แต่เรื่องแบบนี้มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะไม่ใช่การโต้แย้งในชั้นเรียนเพียงเท่านั้น มีนักการเมืองและเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวกรองของสหรัฐฯ แสดงความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาว่าทางการจีนกำลังแทรกซึมเข้ามาในมหาวิทยาลัยของสหรัฐฯ คริสโตเฟอร์ เวรย์ เคยกล่าวต่อที่ประชุมสภาคองเกรสว่าทางการจีนวางสายสืบแทรกซึมเข้ามาในหลายสถานศึกษา ขณะที่วุฒิสมาชิกฟลอริดาก็เตือนว่าทางการจีนพยายามที่จะปิดกั้นการถกเถียงอภิปรายและการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของพวกเขา
มีมหาวิทยาลัยมากกว่า 100 แห่งในสหรัฐฯ ที่ประสานความร่วมมือกับรัฐบาลจีนในการจัดตั้ง "สถาบันขงจื้อ" เพื่อส่งเสริมการศึกษาภาษาจีนและการปลูกฝังมุมมองประวัติศาสตร์ในแบบที่เข้าข้างจีน
มาร์โก รูบิโอ ส.ว. รัฐฟลอริดากล่าว่าศูนย์เหล่านี้เป็น "เครื่องมือแผ่ขยายอิทธิพลทางการเมืองของจีน" และเคยส่งจดหมายขอร้องให้สถานศึกษาเหล่านั้นตัดคามสัมพันธ์กับกลุ่มของจีน รูบิโอกล่าวอีกว่ามีการเซนเซอร์ตัวเองเกิดมากขึ้นเรื่อยๆ ในสถานศึกษาที่มีกลุ่มสถาบันขงจื้อเข้าไปมีอิทธิพล โดยมีการพยายามจำกัดการถกเถียงอธิปรายในเรื่องที่อ่อนไหวทางการเมืองต่อจีนอย่างเรื่องไต้หวัน, ทิเบต, การสังหารหมู่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินปี 2532 และเรื่องหลักสิทธิมนุษยชนสากล
เรียบเรียงจาก
Uyghur Student in US Faces Down Chinese Threats to 'Turn Him In', Radio Free Asia, 27-02-2018
แสดงความคิดเห็น