Posted: 07 Sep 2018 10:38 PM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Sat, 2018-09-08 12:38


'สำนักข่าวเบอร์นานิวส์' ระบุผู้ต้องหา 12 คน ในคดีแชร์ข้อความทางเฟสบุ๊คเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่อ้างว่าถูกมอมยาและข่มขืนที่เกาะเต่าได้รับการประกันตัวแล้ว เงินประกันตัวคนละ 60,000 บาท ผู้ต้องหา 3 รายให้การรับสารภาพ ส่วนที่เหลือยังให้การปฏิเสธ ขณะที่ฮิวแมนไรท์วอทช์ เรียกร้องให้ทางการไทยหยุดใช้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ดำเนินคดีกับผู้โพสต์และแชร์ข้อความเกี่ยวกับคดีดังกล่าว

เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2561 ที่ผ่านมา สำนักข่าวเบอร์นานิวส์ รายงานว่านายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของผู้ต้องหาทั้ง 12 ราย ที่ถูกควบคุมตัวไว้ที่ สภ.เกาะเต่า ตามหมายศาลจังหวัดสุราษฏร์ธานี ให้สัมภาษณ์กับเบนาร์นิวส์ ระบุว่า ทั้งหมดถูกตั้งข้อหาว่ากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 คนละ 3 กระทง ซึ่งอาจถูกลงโทษจำคุก 5 ปี ซึ่งตนเองมองว่าเป็นการใช้อำนาจตามกฎหมายที่เกินกว่าเหตุ ซึ่งในกรณีเช่นนี้ควรออกหมายเรียกมา เพื่อชี้แจงหรือสอบถามก่อน

“คนที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์คือ ต้องรู้โดยเจตนาว่าข้อความนั้นเป็นเท็จ และมีเจตนาแชร์ข้อมูลอันเป็นเท็จนั้น ถึงจะเข้าข่ายการกระทำความผิด คนเหล่านี้แชร์ข้อมูลที่พวกเขาไม่รู้ว่ามันเป็นเท็จ แต่พวกเขาเข้าใจว่ามันเป็นข่าวที่ถูกนำเสนอโดยสื่อต่างประเทศ” นายวิญญัติ ให้สัมภาษณ์กับเบนาร์นิวส์ทางโทรศัพท์

“ในทางตรงกันข้าม พวกเขามีความรักประเทศชาติ การแชร์ข่าวนี้เป็นเจตนาดี เป็นการตั้งคำถามและเตือนสติ ขณะที่เหตุการณ์ยังคลุมเคลือ เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย และไม่กระทบกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ” นายวิญญัติ กล่าวเพิ่มเติม

สำหรับคดีนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่นักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษอายุ 19 ปี รายหนึ่ง เดินทางมาเที่ยวเกาะเต่ากับเพื่อนชาย 4 คน ในเดือนมิถุนายน ปีนี้ ซึ่งต่อมาหญิงสาวอ้างว่าถูกวางยาและถูกข่มขืนโดยชายชาวเอเชีย และอ้างว่าเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ไม่รับแจ้งความกรณีการถูกข่มขืน จึงได้เดินทางกลับอังกฤษ ก่อนที่มารดาของหญิงสาวจะพาเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจอังกฤษ และนำส่งหลักฐานเสื้อที่คาดว่าจะมีร่องรอยของอสุจิของคนร้าย ให้เจ้าหน้าที่ทำการพิสูจน์เพื่อยืนยันตัวบุคคล กลายเป็นข่าวใหญ่บนหน้าหนังสือพิมพ์ของสื่ออังกฤษ

จากนั้นเฟสบุ๊คเพจ CSI LA และ สมุยไทม์ นำมาเผยแพร่ผ่านไทม์ไลน์ มีผู้เข้าชมและแชร์เป็นจำนวนมาก ต่อมา มีผู้ที่อ้างว่าได้รับความเสียหายจากเพจทั้งสอง เข้าแจ้งความดำเนินคดี จนศาลจังหวัดเกาะสมุยอนุมัติหมายจับแอดมินเพจทั้งสอง พร้อมผู้แชร์ จำนวนทั้งหมด 14 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตามจับกุมผู้แชร์ซึ่งเป็นคนไทยทั้งหมดได้ 12 คน เหลือแอดมินเพจทั้งสอง ที่ยังไม่ได้เข้ามารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ

อย่างไรก็ดี ขณะนี้ ผู้ต้องหาที่เป็นผู้แชร์จำนวน 12 คน ได้รับการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน หลังจากที่ญาติซึ่งเดินทางมาที่ สภ.เกาะเต่า และยื่นเงินประกันตัวคนละ 60,000 บาท โดยจะต้องกลับมารายงานตัวหรือให้การเพิ่มเติม หากเจ้าหน้าที่ร้องขอ
ฮิวแมนไรท์วอทช์ เรียกร้องให้ทางการไทยหยุดใช้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ดำเนินคดีกับผู้โพสต์และแชร์

ทั้งนี้ นายแบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการ ฮิวแมนไรท์วอทช์ ประจำภูมิภาคเอเชีย ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทางการไทยหยุดการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมดทันที และประนามการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการใช้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และในการตั้งข้อหาบุคคลที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับการสอบสวนในคดีนี้

ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีนี้ กล่าวกับผู้สื่อข่าว ในระหว่างการแถลงข่าวที่เกาะเต่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐานเบื้องต้น ณ ขณะนี้ ยังไม่พบว่ามีการข่มขืน หรือการวางยา แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของไทยจะได้รอหลักฐานจากผู้เสียหายมาตรวจสอบเพิ่มเติม

ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ และชุดพนักงานสอบสวนได้เข้าพบกงสุลใหญ่ประเทศอังกฤษ ประจำประเทศไทย เพื่อแสดงหลักฐาน และประสานงานขอหลักฐานจากทางอังกฤษ เช่น เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบอสุจิ และคำให้การของผู้เสียหายมาให้ตำรวจไทยได้ตรวจพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง ซึ่งคาดว่าน่าจะได้หลักฐานดังกล่าวภายในหนึ่งเดือน

ทั้งนี้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรเกาะเต่า เพื่อพบผู้ต้องหาและญาติของผู้ต้องหา เปิดเผยว่า หนึ่งในผู้แชร์ข้อความยอมรับว่า ได้แชร์ข่าวจากเฟสบุ๊คเพจดังกล่าวจริง แต่ทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อยากขอโทษต่อสังคมที่การกระทำของตนทำให้เกิดความเสียหาย ขณะที่ผู้ปกครองของผู้แชร์รายนี้ร้องขอความยุติธรรม เนื่องจากการออกหมายจับ อาจทำให้ลูกหมดอนาคต ทั้งที่เป็นเสาหลักในการดูแลครอบครัว

[full-post]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.