นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (แฟ้มภาพ)
Posted: 22 Sep 2018 02:34 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
Submitted on Sat, 2018-09-22 16:34
พรรคอนาคตใหม่ ยืนยันพร้อมรับสมัครสมาชิกพรรค เตรียมจัดคาราวานเดินทางไปสาขาพรรค 5-7 ต.ค. 2561 นี้ ด้าน 'ธนาธร' ย้ำการทำงานของพรรคอนาคตใหม่ยึดอุดมการณ์ประชาธิปไตยก้าวหน้า 'เพื่อไทย' โวย กกต.รับจดทะเบียนพรรค 'เพื่อนไทย' หวั่นสับสน ชื่อ-โลโก้ คล้ายกัน 'สุรบถ หลีกภัย' ยืนยันว่าจะไปสมัครสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทันทีที่พรรคเปิดรับสมัครสมาชิก
22 ก.ย. 2561 นายปิยบุตร แสงกนกกุล ว่าที่เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ยืนยันว่าพรรคอนาคตใหม่มีความพร้อมในการรับสมัครสมาชิกพรรคทุกช่องทาง ทั้งการสมัครทางออนไลน์ การเดินเข้ามาสมัครได้ที่สาขาพรรคทั่วประเทศ พร้อมจะจัดคาราวานเดินทางไปใน 6 สาขาใหญ่ของพรรค ในวันที่ 5-7 ต.ค. นี้ เพื่อแวะรับสมัครสมาชิกพรรคตลอดเส้นทาง
นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า สำหรับคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 13/2561 ไม่ได้เป็นคุณต่อพรรคการเมืองใดๆ และเป็นการสร้างโซ่ตรวนอันใหม่มาล็อกเพิ่ม อีกทั้งจำกัดพื้นที่มากกว่าเดิม โดยเฉพาะประเด็นการห้ามหาเสียงทางออนไลน์ ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งที่จะสร้างความเสมอภาคเท่าเทียมกันในทุกพรรคการเมือง สามารถทำได้ เพราะเป็นวิธีที่ทำง่ายที่สุด ต้นทุนต่ำที่สุด และสามารถเข้าถึงคนได้กว้างไกลที่สุดในปริมาณมากที่สุดด้วย ที่สำคัญยังก่อให้เกิดความสงบแก่บ้านเมือง ไม่ต้องมีการออกไปรวมตัวชุมนุมกันตามที่ต่างๆ
“กฎหมายนี้ จึงเป็นเหมือนกฎหมายที่ไม่สมประกอบ เพราะมองไม่เห็นวัตถุประสงค์ของกฎหมายนี้เลยว่าจะจำกัดสิทธิเสรีภาพการหาเสียงออนไลน์ไปเพื่ออะไร การที่เราจะมุ่งไปสู่การเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย จึงมีความจำเป็นที่จะต้องยกเลิกประกาศคำสั่งทั้งหมดที่เป็นอุปสรรคต่อการใช้เสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง แต่กฎกติกาต่างๆ ดูเหมือนยุ่งยากซับซ้อน ลิดรอนสิทธิ และขาดความเป็นธรรมต่อพรรคการเมือง อย่างไรก็ตาม พรรคอนาคตใหม่พร้อมลั่นกลองรบในการสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งนี้” นายปิยบุตร กล่าว
ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ว่าที่โฆษกพรรค ได้พบกับนายคริส ลาแลนด์ ตัวแทนจากพรรคลิเบอรัล ของนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา และนายรอน แมคคินนอน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแคนาดา พรรคลิเบอรัล และกรรมาธิการรัฐสภาด้านยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองต่อประชาธิปไตยในไทยและการทำพรรคการเมืองฝ่ายก้าวหน้าในไทย ในระหว่างการเดินทางไปโชว์วิสัยทัศน์ที่สหรัฐอเมริกาและประเทศแคนาดา ว่าการทำงานของพรรคอนาคตใหม่ยึดอุดมการณ์ประชาธิปไตยก้าวหน้าเป็นหลัก หวังสร้างความเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงในสังคม ไม่ใช่เพียงเพื่อชนะการเลือกตั้งเท่านั้น พรรคอนาคตใหม่จึงให้ความสำคัญกับการสร้างพรรคให้เป็นสถาบัน ไม่มีนายทุนผูกขาด ไม่มีใครคนใดคนหนึ่งเป็นเจ้าของพรรค แต่ให้สมาชิกมีส่วนร่วมมากที่สุด ระดมทุนจากประชาชนทั่วไปให้ได้มากที่สุด เพื่อให้พรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคของมวลชนอย่างแท้จริง ทั้งนี้พรรคอนาคตใหม่ต้องการใช้เงินในการหาเสียงน้อยที่สุด และใช้อย่างประหยัด แต่มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างวัฒนธรรมการเมืองแบบใหม่ในประเทศไทย ไม่ต้องใช้เงินหาเสียงนับพันล้าน ซึ่งมักตามมาด้วยการเข้ามาถอนทุนคืนเมื่อได้เป็นรัฐบาล
ขณะที่นายแมคคินนอน กล่าวถึงความพยายามในการปฏิรูประบบเลือกตั้งในแคนาดาให้สะท้อนความต้องการของประชาชนมากขึ้น และแสดงความกังวลต่อระบบการเลือกตั้งในไทยที่อาจไม่สะท้อนความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง
ส่วนนายลาแลนด์ กล่าวว่าการสร้างพรรคฝ่ายก้าวหน้าที่เข้มแข็งและประชาชนมีส่วนร่วม เป็นสิ่งสำคัญสำหรับประชาธิปไตยในทุกประเทศ รวมถึงในไทย สำหรับการหาเสียงเลือกตั้งในแคนาดานั้นใช้เงินน้อยมาก เพราะการหาเสียงส่วนใหญ่ใช้อาสาสมัคร เดินเคาะประตูตามบ้านเพื่อชี้แจงนโยบายของพรรคและจุดยืนต่างๆ ให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้รับรู้
'เพื่อไทย' โวย กกต.รับจดทะเบียนพรรค 'เพื่อนไทย' หวั่นสับสน ชื่อ-โลโก้ คล้ายกัน
ด้าน มติชนออนไลน์ รายงานว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ทราบข่าวจากสื่อมวลชนว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้จดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่พรรคหนึ่ง โดยจดทะเบียนชื่อพรรคว่า ”พรรคเพื่อนไทย” โดยไม่ทราบว่า กกต รับจดทะเบียนชื่อพรรคนี้ได้อย่างไร
เพราะเห็นได้ชัดว่าพรรคนี้ ตั้งใจใช้คำคล้ายกับพรรคเพื่อไทย เพื่อให้ประชาชนสำคัญผิด คิดว่าเป็นพรรคเดียวกับพรรคเพื่อไทย จนลงคะแนนให้ อีกทั้งโลโก้พรรคก็คล้ายกัน ต่างกันแค่คนละสีเท่านั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ในสัปดาห์หน้า ตนจะให้ฝ่ายกฎหมายของพรรค ทำหนังสือร้องเรียนไปยัง กกต.เพื่อสอบถามรายละเอียดเรื่องนี้
นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่ กกต.รับจดทะเบียนพรรคเพื่อนไทย มีเหตุผลอะไร เพราะอาจทำให้ประชาชน มาลงคะแนนให้พรรคเพื่อไทยสับสนได้ ทาง กกต. ต้อง ออกมาชี้แจงให้กระจ่างด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อนไทย ได้จดชื่อพรรคตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ต่อ กกต. เป็นลำดับที่ 107/2561 เมื่อวันศุกร์ที่ 8 มิ.ย. 2561 โดยมีนายสิระ พิมพ์กลาง อดีตแกนนำคนเสื้อแดงภาคอีสานเป็นผู้จดจองชื่อพรรค
เว็บไซต์ไทยโพสต์ รายงานว่านายสุรบถ หลีกภัย บุตรชายนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า จะไปสมัครสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทันทีที่พรรคเปิดรับสมัครสมาชิก โดยงานที่จะเข้าไปช่วยขึ้นอยู่กับพรรคเล็งเห็นถึงความสามารถของตนในส่วนไหน
ส่วนจะลงสมัคร ส.ส.ในระบบแบ่งเขต หรือระบบปาร์ตี้ลิสต์นั้น ยังไม่สามารถตอบได้ คงต้องรอคุยกับพรรคก่อนว่าจะให้ลงสมัครส.ส.แบบใด ซึ่งคิดว่าอยู่จุดไหนก็ได้ ที่พรรคเห็นว่าตนมีประสิทธิภาพให้ช่วยในจุดนั้น
ทั้งนี้ เมื่อเข้ามาจะมีทีมที่ถนัดแต่ละด้านเข้ามาทำงานด้วย โดยทีมของตนเป็นลูกหลานของนักการเมืองจากหลายพรรคมาร่วมกัน และรู้ว่าจะเสนออะไร สื่อสารอะไรให้คนรุ่นใหม่เข้าใจโดยการสื่อสารด้วยภาษาที่ง่าย อย่างไรก็ตาม ความถนัดของตนที่จะเข้าไปช่วยพรรคทำงานเป็นเรื่องการสื่อสารกับคนยุคใหม่ๆ วัยรุ่น เพราะเราทำงานด้านนี้มานาน จึงมีความเข้าใจในการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย
นายสุรบถ กล่าวว่า เรื่องสมัครเป็สมาชิกได้คุยกับพ่อแล้ว ซึ่งท่านสนับสนุนดี แต่ได้คุยกันในส่วนว่าจะช่วยทางพรรคและอยากเข้าไปทำอะไรหลายๆอย่าง เพราะรู้สึกว่าน่าจะมาสื่อสารกับคนยุคใหม่ได้ อีกทั้งคิดว่าเป็นยุคที่ต้องคุยกันเยอะๆ อย่างไรก็ตาม การพูดคุยกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ยังไม่ได้คุยอย่างเป็นทางการ เพราะอยากเข้าไปสมัครสมาชิกแบบปกติตามที่เขาประกาศ
"มองว่าหมดยุคที่เราเอาเรื่องเเก่า ความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจมาทะเลาะกัน รู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้ควรหมดไปได้แล้ว และคนรุ่นผมไม่มีรูปแบบความขัดแย้งเก่าๆในรูปแบบนั้น เพราะคุยกันได้มาก อย่างผมมีเพื่อนที่อยู่ต่างฝ่ายต่างพรรคกันมากๆ แต่ไม่ใช่นำเรื่องผู้ใหญ่ หรือเรื่องยุคพ่อยุคแม่มาทะเลาะกัน คิดว่าควรหยุดได้แล้ว เพราะคือเรื่องพื้นฐานที่สุด กว่าเราจะก้าวไปสู่อนาคตได้ อย่างน้อยที่สุดต้องหยุดการบาดหมาง เชื่อว่าสังคมมีความแตกต่างทางความคิด ไม่มีใครชอบสีเหมือนกับเรา แต่ต้องไม่แตกแยกทะเลาะกัน ผมรู้สึกว่ายุคพวกผมเราเลือกเข้ามาคุยกันด้วยเหตุผลได้ ผมเชื่อว่าการเมืองในอนาคตจะเหมือนการทำธุรกิจในยุคนี้ คือสามารถร่วมงานกันได้ ที่จะไม่ใช่เรื่องต้องแบ่งฝ่ายชัดเจน เชื่อว่าเรามีเป้าหมายเดียวกัน คือให้ประเทศชาติและประชาชนดีขึ้น สำหรับผมการเมืองจะไม่ใช่การแบ่งแยกเหมือนในอดีต รู้สึกว่าเป็นยุคเก่าและน้ำเน่ามาก ซึ่งไม่มีประโยชน์กับใครเลย เป็นแค่การทะเลาะของคนกลุ่มหนึ่งเล็กๆ ที่บาดหมางเรื่องอะไรไม่ทราบ แต่สุดท้ายทำให้คนกลุ่มมากเกิดความแตกแยก ดังนั้น การเมืองในอนาคตควรจะร่วมมือกันได้ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน คือมีจุดร่วมกัน หาคนเก่งที่สุดในทุกๆด้าน แล้วไปทำสิ่งนั้นๆให้เหมาะสมที่สุด จึงเชื่ออนาคตการเมืองจะเป็นแบบนั้น" นายสุรบถ กล่าว
เมื่อถามถึงมุมมองบุคคลที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งขณะนี้มีการแข่งขันกันอยู่นั้น นายสุรบถ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ทราบ บอกได้เพียงว่าคนรุ่นตนจะทำอะไรได้บ้าง แต่ไม่ได้แปลว่าคนยุคก่อนทำอะไรไม่ดี ไม่ใช่ แต่เป็นยุคที่บุกเบิกให้สิ่งต่างๆไว้ให้คนรุ่นหลัง เขาอาจทำสิ่งที่ดีและผิดพลาด แต่คือบทเรียนของเรา ต่อให้คนทั่วไปอาจมองคนนั้นดี ไม่ดี อย่างไร เชื่อว่าทุกคนทุกรัฐบาล ผู้ใหญ่ที่ทำงานเพื่อประเทศมีจุดยืนเดียวกัน คืออยากให้ประเทศดีขึ้น จึงอยากให้การเมืองยุคหลังมองอนาคต ไม่เหลียวมองเรื่องเก่าๆ มองไปข้างหน้าด้วยกัน ลดความแตกแยกที่เป็นเบสิคที่สุด เหมือนเรือกลางทะเล ถ้าลูกเรือเอาแต่ทะเลากัน เรือก็ไม่เดินไปไหน
ถามย้ำว่าสนับสนุนนายอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรคต่อหรือไม่ นายสุรบถ ตอบว่า ท่านเป็นคนดีมีความสามารถ และเคารพท่านจากใจจริง
นายสุรบถ กล่าวต่อว่านักการเมืองในอนาคตจะอยู่ในตำแแหน่งคล้ายโปรดิวเซอร์ คือเลือกของดีที่สุดในแต่ละแขนงมาร่วมกัน ไม่ใช่เอาพวกพ้องที่สนิทกัน
ถามว่ากลัวถูกเปรียบเทียบกับพ่อหรือไม่ เพราะนายชวนประสบความสำเร็จทางการเมือง นายสุรบถ ชี้แจงว่า ไม่กลัวถูกเปรียบเทียบ พ่อก็คือพ่อ ตนก็คือตน นับถือที่พ่อเป็นคนดี ซึ่งพ่อได้ปลูกฝังสิ่งต่างๆในใจ ทำให้ตนมีวันนี้ได้ แต่หากถามว่าต้องทำงานการเมืองหรือจุดยืนแบบพ่อหรือไม่ ก็ต้องตอบว่า ไม่ เพราะตนมีสไตล์ของตัวเอง มีสิ่งที่อยากทำและทำในสิ่งที่ถนัด เพราะฉะนั้น จึงต้องเรียกพ่อว่าเป็นคนดีที่ยิ่งใหญ่สำหรับตน และจะอยู่ในทุกๆจุดของการตัดสินใจที่ดีงาม เชื่อว่าการตัดสินใจของพ่อยืนอยู่บนความดีและความถูกต้อง
แสดงความคิดเห็น