กลุ่มสลัดอากาศที่จี้เครื่องบินของสายการบินแอฟริคิยาห์ของลิเบีย ยอมมอบตัวกับทางการมอลตาแล้ว หลังจากที่ยอมปล่อยลูกเรือและผู้โดยสารรวม 118 คนบนเครื่อง

ยังไม่ชัดเจนว่ามีสลัดอากาศกี่คนลงมือก่อเหตุ บังคับให้เที่ยวบินในประเทศของสายการบินแอฟริคิยาห์เมื่อตอนเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นในลิเบีย เปลี่ยนเส้นทางบินมาลงที่สนามบินนานาชาติมอลตา หลังจากที่กัปตันนำเครื่องบิน แอร์บัส เอ 320 ออกจากเมืองซับฮา เพื่อไปยังกรุงตริโปลี

ผู้โดยสารและลูกเรือได้รับการปล่อยตัวจากเครื่องบินแอร์บัส เอ 320Image copyrightAP


สื่อในลิเบียระบุว่าสลัดอากาศอาจเป็นกลุ่มผู้สนับสนุนพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี อดีตผู้นำลิเบีย โดย สลัดอากาศคนหนึ่งให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งในลิเบีย ปฏิบัติการครั้งนี้มีเพื่อ "เผยแพร่ให้คนรู้จักพรรคการเมืองใหม่ของพวกเรา" ที่นิยมในตัวนายกัดดาฟี ภาพข่าวเผยให้เห็นว่ามีชายคนหนึ่งโบกธงสีเขียวที่ใช้ในสมัยนายกัดดาฟีเรืองอำนาจ อยู่ด้านนอกประตูทางเข้าเครื่องบิน

นายกเทศมนตรีเมืองซับฮาบอกบีบีซีว่า สลัดอากาศเหล่านี้พยายามขอลี้ภัยทางการเมืองในมอลตา

รานา จาหวัด ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำแอฟริกาเหนือ รายงานว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยตามสนามบินในลิเบียหละหลวมและไม่เป็นระเบียบ ไม่ต่างไปจากการเมืองในลิเบีย ที่มีกลุ่มติดอาวุธหลายกลุ่มเคลื่อนไหวอยู่ และไม่ขึ้นตรงกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ช่วงหลายปีที่ผ่านมาเกิดเหตุหลายครั้งจนผู้โดยสารชินแล้ว และเรื่องที่เกิดขึ้นมักไม่ตกเป็นข่าว เช่น กรณีเครื่องบินล่าช้าออกบินตามกำหนดไม่ได้ เพราะกลุ่มติดอาวุธขับรถเข้าไปในสนามบิน หรือขึ้นไปบนเครื่องตามอำเภอใจเพื่อจัดการเรื่องที่ต้องการ

เครื่องบินโดยสารสายการบินแอฟริคิยาห์ ของลิเบียImage copyrightREUTERS


สนามบินหลักในกรุงตริโปลีถูกเผาเมื่อปี 2557 ในเหตุปะทะระหว่างกลุ่มติดอาวุธที่สู้กันเพื่อยึดสนามบิน

สำหรับชาวลิเบีย การบินออกนอกประเทศทำได้ค่อนข้างยาก และพวกเขาไม่สามารถบินตรงเข้ายุโรปได้ โดยตลอดช่วงสองปีที่ผ่านมาสนามบินในยุโรปไม่รับเที่ยวบินจากลิเบียเข้าประเทศ เหตุจี้เครื่องบินครั้งล่าสุดน่าจะดับความหวังของพวกเขาที่จะสามารถบินเข้ายุโรปโดยตรงได้

สนามบินมอลตายังคงปิดให้บริการ โดยสายการบินอื่นที่มีกำหนดบินไปลงที่มอลตา ต้องเปลี่ยนไปลงที่สนามบินอื่นแทน

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.