เป็นสาวในโลกโซเชียลที่ถูกจับตามากที่สุดคนหนึ่งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา สำหรับ “เจสซี วาร์ด” เน็ตไอดอลและนางแบบสาว ลูกครึ่งอังกฤษ-ไอซ์แลนด์ วัย 20 ปี ที่กำลังมีข่าวดราม่าระอุโลกอินเตอร์เน็ต
ล่าสุด เจสซี วาร์ด มาออกรายการ “เล่นใหญ่จัดใหญ่” โดยมีพิธีกร บุ๋ม ปนัดดา สัมภาษณ์ เริ่มเล่าประวัติของตนเองให้ฟังว่า เกิดที่ไอซ์แลนด์ ก่อนย้ายมาเมืองไทยตามคุณพ่อที่เป็นนักเขียน เมื่ออายุ 1 ปีครึ่ง จึงเติบโตและเรียนที่เมืองไทย มีพี่น้อง 4 คน ตนเองเป็นคนที่ 3
เมื่อปีที่แล้ว เจสซีพร้อมพ่อ ได้ออกมาถือป้ายประท้วง เพราะไม่ได้รับความยุติธรรม เนื่องจากโดนโกงที่ดิน ปลอมลายเซ็น ปลอมโฉนดที่ดิน เป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 65 ล้านบาท แล้วคดียังไม่คืบ แม้จะผ่านไปถึง 6 ปีแล้วก็ตาม
เจสซีเล่าว่า ทุกวันนี้ก็เข้าบ้านไม่ได้ เพราะถูกโกงไปแล้ว เคยลองจะเข้าบ้านก็ถูกตำรวจมาไล่ ก็เลยต้องอาศัยอยู่กับบ้านเพื่อนของพ่อแทน ตอนนั้นไม่มีเงินติดตัวเลย ไม่เคยคิดว่าจะต้องขอเงินใครก็ต้องทำ รู้สึกท้อมาก คนรอบข้างก็เปลี่ยนไป จากที่มีเพื่อนเยอะ ก็เหมือนกับว่าตอนนี้อยู่กับพ่อแค่ 2 คน
เน็ตไอดอลสาวยังเผยว่า ตอนเริ่มเรียนได้หนีออกจากโรงเรียนประจำ เพราะเกิดความรู้สึกอิจฉาเพื่อนๆ ที่มีพ่อแม่มารับ เลยออกจากโรงเรียนไปทำงานเลย ช่วงแรกก็เหลวไหล จนไปทำงานเป็นนักร้องคาเฟ่ โดยย้อมผมสีดำไปทำงาน ก่อนจะมาเป็นนางแบบในปัจจุบัน
เจสซีเล่าถึงเรื่องที่เคยถูกลักพาตัวว่า เมื่ออายุ 12 ปี ไปเที่ยวห้างกับเพื่อน เมื่อแยกกับเพื่อน ก็ไปขึ้นแท็กซี่ โดยเจสซีได้ขอยาดมกับคนขับรถ ซึ่งเมื่อเอายาดมมาดมก็สลบไปเลย ตื่นมาอีกทีคืออยู่กับแท็กซี่แล้วที่โรงแรมม่านรูด เจสซีกล่าวว่า “หนูอยู่นิ่งๆ พยายามไม่ทำให้เขารู้ว่าหนูฟื้นแล้ว ตอนที่เขาเข้าห้องน้ำ หนูเลยโทรหาเพื่อนเพราะหนูกลัวว่าถ้าหนูวิ่งหนีเขาจะตามทัน เพื่อนที่อยู่ละแวกนั้นพอดีก็เลยมาที่โรงแรมได้ทัน แล้วไปรับตัวหนูออกมา” เจสซีกล่าว จากนั้นจึงไปแจ้งความและสามารถจับตัวแท็กซีรายนั้นได้
เจสซีเล่าถึงเรื่องของหัวใจ ที่ตอนนี้กำลังคบหาอยู่กับสาวหล่อ โดยเจสซีเผยว่า ที่มาทางนี้เพราะ ก่อนหน้านี้ เจอผู้ชายไม่ดีมา เลยหันมาคบกับผู้หญิง ทั้งนี้ ยังเล่าด้วยว่า เจสซีเป็นฝ่ายจีบสาวหล่อก่อน โดยตามไปที่ทำงานหลายๆ แห่ง ไปดูแลตลอด เลยตกลงกันเป็นแฟนกันในที่สุด
สำหรับ เรื่องการถ่ายแบบหวาบหวิวที่เป็นที่พูดถึง เจสซีเผยว่า มีลิมิตอยู่ที่การใส่บิกินีเท่านั้น ไม่มีการถอดส่วนบน ไม่มีการแก้จริง ส่วนเรื่องที่มีคนแชร์ไปเยอะๆ ก็รู้สึกชื่นชอบ
“ตอนแรกที่คุณพ่อเห็นรูปก็รับไม่ได้ ก็มีการคุยกัน บอกว่ามันโป๊ไปหรือเปล่า พ่อกลับว่าจะกระทบกับคดี ก็บอกพ่อให้ยอมรับไว้ก่อน อะไรที่คือเงินก็ต้องทำไป”
ส่วนเรื่องค่าตัวในการถ่ายแบบของเจสซี สาวหล่อ ที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวและแฟนของเจสซี ระบุว่า “ก็แพงนะคะ ประมาณ 10,000 บาท ขึ้นไป เมื่อก่อนแรกๆ ก็ 5,000-8,000 บาท พอมียอดฟอลโลว์หลักล้าน ปีใหม่ก็จะอัพขึ้นใหม่ ยิ่งมีกระแสบิกีนีแบบนี้ ก็อาจเพิ่มขึ้นอีก”
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ สาวเจสซีอาจจะหยุดถ่ายบิกีนีแล้ว เพราะเจอกระแสวิจารณ์เยอะมาก “ตอนแรกทำใจไม่ได้ กระทบจิตใจหนูมาก ตอนหนูโดนหนูโดนคนเดียว ไม่มีช่างภาพคนไหนออกมาแก้ตัวให้ เพราะฉะะนั้นคนที่เสียคือหนู หนูโดนด่าเสียหาย ..ไม่ใช่ว่าเราทำงานไปวันๆ แล้วใช้ซื้อเสื้อผ้า ไม่ใช่ แต่เราทำงานแล้สเรามีเป้าหมาย ทุกวันนี้กำลังใจหนูน้อยพออยู่แล้ว ไม่อยากให้ใครซ้ำเติมมากกว่านี้”
เจสซีทิ้งท้ายว่า “สำหรับคนที่ไม่ชอบ รู้มั้ยว่าคำหนึ่งในโซเชียลมันสามารถทำลายชีวิตคนๆ หนึ่งได้ ถ้าอยากจะด่าเขา ต้องไปสืบประวัติเขามาดีๆ ว่าเขาทำแบบนี้ไปวันๆ หรือมีจุดหมายในชีวิต ..อย่าด่าหนูแรงไปกว่านี้เลย เพราะวันๆ หนูต้องมาคิดถึงแต่เรื่องนี้ ..หนูเลี้ยงครอบครัวหนูเอง เพราะฉะนั้นหนูไม่อาย”
เจสซีเล่าว่า ทุกวันนี้ก็เข้าบ้านไม่ได้ เพราะถูกโกงไปแล้ว เคยลองจะเข้าบ้านก็ถูกตำรวจมาไล่ ก็เลยต้องอาศัยอยู่กับบ้านเพื่อนของพ่อแทน ตอนนั้นไม่มีเงินติดตัวเลย ไม่เคยคิดว่าจะต้องขอเงินใครก็ต้องทำ รู้สึกท้อมาก คนรอบข้างก็เปลี่ยนไป จากที่มีเพื่อนเยอะ ก็เหมือนกับว่าตอนนี้อยู่กับพ่อแค่ 2 คน
เน็ตไอดอลสาวยังเผยว่า ตอนเริ่มเรียนได้หนีออกจากโรงเรียนประจำ เพราะเกิดความรู้สึกอิจฉาเพื่อนๆ ที่มีพ่อแม่มารับ เลยออกจากโรงเรียนไปทำงานเลย ช่วงแรกก็เหลวไหล จนไปทำงานเป็นนักร้องคาเฟ่ โดยย้อมผมสีดำไปทำงาน ก่อนจะมาเป็นนางแบบในปัจจุบัน
เจสซีเล่าถึงเรื่องที่เคยถูกลักพาตัวว่า เมื่ออายุ 12 ปี ไปเที่ยวห้างกับเพื่อน เมื่อแยกกับเพื่อน ก็ไปขึ้นแท็กซี่ โดยเจสซีได้ขอยาดมกับคนขับรถ ซึ่งเมื่อเอายาดมมาดมก็สลบไปเลย ตื่นมาอีกทีคืออยู่กับแท็กซี่แล้วที่โรงแรมม่านรูด เจสซีกล่าวว่า “หนูอยู่นิ่งๆ พยายามไม่ทำให้เขารู้ว่าหนูฟื้นแล้ว ตอนที่เขาเข้าห้องน้ำ หนูเลยโทรหาเพื่อนเพราะหนูกลัวว่าถ้าหนูวิ่งหนีเขาจะตามทัน เพื่อนที่อยู่ละแวกนั้นพอดีก็เลยมาที่โรงแรมได้ทัน แล้วไปรับตัวหนูออกมา” เจสซีกล่าว จากนั้นจึงไปแจ้งความและสามารถจับตัวแท็กซีรายนั้นได้
เจสซีเล่าถึงเรื่องของหัวใจ ที่ตอนนี้กำลังคบหาอยู่กับสาวหล่อ โดยเจสซีเผยว่า ที่มาทางนี้เพราะ ก่อนหน้านี้ เจอผู้ชายไม่ดีมา เลยหันมาคบกับผู้หญิง ทั้งนี้ ยังเล่าด้วยว่า เจสซีเป็นฝ่ายจีบสาวหล่อก่อน โดยตามไปที่ทำงานหลายๆ แห่ง ไปดูแลตลอด เลยตกลงกันเป็นแฟนกันในที่สุด
สำหรับ เรื่องการถ่ายแบบหวาบหวิวที่เป็นที่พูดถึง เจสซีเผยว่า มีลิมิตอยู่ที่การใส่บิกินีเท่านั้น ไม่มีการถอดส่วนบน ไม่มีการแก้จริง ส่วนเรื่องที่มีคนแชร์ไปเยอะๆ ก็รู้สึกชื่นชอบ
“ตอนแรกที่คุณพ่อเห็นรูปก็รับไม่ได้ ก็มีการคุยกัน บอกว่ามันโป๊ไปหรือเปล่า พ่อกลับว่าจะกระทบกับคดี ก็บอกพ่อให้ยอมรับไว้ก่อน อะไรที่คือเงินก็ต้องทำไป”
ส่วนเรื่องค่าตัวในการถ่ายแบบของเจสซี สาวหล่อ ที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวและแฟนของเจสซี ระบุว่า “ก็แพงนะคะ ประมาณ 10,000 บาท ขึ้นไป เมื่อก่อนแรกๆ ก็ 5,000-8,000 บาท พอมียอดฟอลโลว์หลักล้าน ปีใหม่ก็จะอัพขึ้นใหม่ ยิ่งมีกระแสบิกีนีแบบนี้ ก็อาจเพิ่มขึ้นอีก”
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ สาวเจสซีอาจจะหยุดถ่ายบิกีนีแล้ว เพราะเจอกระแสวิจารณ์เยอะมาก “ตอนแรกทำใจไม่ได้ กระทบจิตใจหนูมาก ตอนหนูโดนหนูโดนคนเดียว ไม่มีช่างภาพคนไหนออกมาแก้ตัวให้ เพราะฉะะนั้นคนที่เสียคือหนู หนูโดนด่าเสียหาย ..ไม่ใช่ว่าเราทำงานไปวันๆ แล้วใช้ซื้อเสื้อผ้า ไม่ใช่ แต่เราทำงานแล้สเรามีเป้าหมาย ทุกวันนี้กำลังใจหนูน้อยพออยู่แล้ว ไม่อยากให้ใครซ้ำเติมมากกว่านี้”
เจสซีทิ้งท้ายว่า “สำหรับคนที่ไม่ชอบ รู้มั้ยว่าคำหนึ่งในโซเชียลมันสามารถทำลายชีวิตคนๆ หนึ่งได้ ถ้าอยากจะด่าเขา ต้องไปสืบประวัติเขามาดีๆ ว่าเขาทำแบบนี้ไปวันๆ หรือมีจุดหมายในชีวิต ..อย่าด่าหนูแรงไปกว่านี้เลย เพราะวันๆ หนูต้องมาคิดถึงแต่เรื่องนี้ ..หนูเลี้ยงครอบครัวหนูเอง เพราะฉะนั้นหนูไม่อาย”
ขอบคุณที่มา BRIGHT TV
แสดงความคิดเห็น