สนช.จ่อเสนอแก้ระบบอุปถัมภ์ในราชการ ห้ามตีกอล์ฟกับผู้มีส่วนได้ประโยชน์ เกษียณห้ามนั่งปรึกษาธุรกิจ

Posted: 22 Dec 2016 10:21 AM PST  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)

22 ธ.ค. 2559 สื่อหลายสำนักรายงานตรงกันจากรัฐสภาว่า ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันที่ 23 ธ.ค.นี้ จะมีวาระการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษาเรื่อง “การแก้ไขปัญหาระบบอุปถัมภ์ในระบบราชการไทยให้เป็นรูปธรรม” ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาการศึกษาการแก้ไขปัญหาระบบอุปถัมภ์ในระบบราชการไทยให้เป็นรูปธรรม ที่มีพล.ร.อ.ศักดิ์สิทธิ เชิดบุญเมือง เป็นประธานกรรมาธิการวิสามัญฯ โดยได้สรุปปัญหาส่วนหนึ่งที่ทำให้ระบบราชการไทยไม่สามารถพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะระบบราชการในสังคมไทยยังมีการใช้ระบบอุปถัมภ์ที่ยึดความพึงพอใจของบุคคลเป็นสำคัญ มิได้คำนึงถึงหลักคุณธรรม ความเสมอภาค ความรู้ความสามารถ ทำให้ข้าราชการขาดขวัญกำลังใจ คนเก่งคนดีไม่สามารถอยู่ในระบบได้ กลายเป็นช่องทางให้เกิดการทุจริต ซึ่งระบบอุปถัมภ์ได้สร้างความเสียหายหลายมิติ และความเสียหายที่ประเทศชาติต้องสูญเสียไปนั้น กลับไปสร้างประโยชน์ให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่ไม่ใช่ประโยชน์ของบ้านเมือง

คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้ให้ข้อเสนอแนะการแก้ปัญหาระบบอุปถัมภ์ในระบบราชการไทยได้แก่ 

1.การดำเนินการด้านนิติบัญญัติ รัฐสภาควรทบทวนปรับปรุงกฎหมายที่มีช่องว่างให้เกิดระบบอุปถัมภ์ ให้มีความทันสมัย
 
2.การดำเนินการด้านบริหาร ได้แก่การยกระดับการแก้ปัญหาอุปถัมภ์เป็นวาระแห่งชาติ การมีประมวลจริยธรรมที่ต้องมีจิตสำนึกและปฏิบัติอย่างจริงจังดังเช่นกฎเกณฑ์บางประเทศที่มีมาตรการป้องกันทุจริตคอร์รัปชั่น เช่น การห้ามรับของขวัญ รับเลี้ยง รับสินบน หรือเล่นกอล์ฟกับผู้มีส่วนได้ประโยชน์ การห้ามข้าราชการที่เกษียณอายุเป็นที่ปรึกษาให้ภาคธุรกิจที่ข้าราชการผู้นั้นเคยมีอำนาจในหน่วยราชการนั้นๆ อย่างน้อย 2 ปี ตลอดจนการกำหนดระเบียบปฏิบัติราชการให้ผู้บริหารระดับสูงพึงระวังในการลดการมีผู้ติดตามหรือช่วยงานในกรณีพิเศษ เช่น การช่วยงานหน้าห้องให้เหลือน้อยลงเท่าที่จำเป็น เพื่อลดโอกาสการใช้ความใกล้ชิด ประจบสอพลอให้เกิดการอุปถัมภ์ที่ส่งผลกระทบด้านลบต่อความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ที่ทำงานในระบบปกติ

3. ข้อเสนอการดำเนินการด้านตุลาการและกระบวนการให้ความเป็นธรรม ควรลดขั้นตอนกระบวนการเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้รวดเร็ว เป็นธรรม และเร่งเยียวยาผู้เสียหายทันที เมื่อรับทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และกรณีที่ป.ป.ช.ตรวจสอบพบในเบื้องต้นว่า ข้าราชการระดับสูงมีมูลความจริงเกี่ยวกับเรื่องที่ถูกร้องเรียน ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่จนกว่าคดีจะวินิจฉัยเสร็จ และ 4. ข้อเสนอแนะการดำเนินการด้านสังคมและการรับรู้ ได้แก่ การจัดอบรมหลักสูตรปลูกฝังนักการเมือง ข้าราชการระดับสูง ควรวางกรอบของหลักสูตรเพื่อประโยชน์ของบ้านเมืองอย่างแท้จริง มิใช่ประเภทที่หวังเข้ามาอบรมเพราะต้องการมีคนรู้จัก สนิทสนมในแวดวงต่างๆ โดยเฉพาะหลักสูตรของหน่วยงานด้านกระบวนการยุติธรรม ต้องระวังให้มาก ไม่ให้ใช้โอกาสของความใกล้ชิดสนิทสนมการเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของหลักสูตรต่างๆมาแสวงหาประโยชน์ที่มิชอบด้วยกฎหมาย ก่อให้เกิดการอุปถัมภ์กันในลักษณะต่างๆ

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ ข่าวสดออนไลน์ โพสต์ทูเดย์และไทยโพสต์


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.