Posted: 01 Jun 2017 05:55 AM PDT   (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

มารดาและน้องสาวสองคนของอนัน เกิดแก้ว ขึ้นเบิกความ คดีไต่สวนการตายในระหว่างการควบคุมของตำรวจ พบความผิดปกติก่อนตาย กังวลและหวาดกลัวมากรวมทั้งบาดเจ็บปากแตกเล็กน้อย ศาลนัดอ่านคำสั่งวันที่ 27 ก.ค.นี้

1 มิ.ย. 2560 รายงานข่าวจาก มูลนิธิผสานวัฒนธรรม แจ้งว่าเมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้พิพากษาศาลจังหวัดนครราชสีมาออกนั่งพิจารณาไต่สวนพยานฝ่ายมารดาผู้ตาย (ผู้ร้องคัดค้าน) ในคดีหมายเลขดำที่ ช.3/2559 คดีไต่สวนการตาย อนัน เกิดแก้ว ซึ่งเสียชีวิตในระหว่างการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา

โดยในวันดังกล่าว มารดาและน้องสาวสองคนของ อนัน ผู้ตาย เป็นพยานขึ้นเบิกความ ต่อศาล ซึ่งทั้งสามได้เบิกความตอบคำถามทนายความมารดาผู้ตาย (ผู้ร้องคัดค้าน) ไปในทำนองเดียวกันได้ความว่า เมื่อประมาณ พ.ศ. 2554 อนัน ผู้ตาย เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจของ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะจับกุมและควบคุมตัวจากเหตุเกี่ยวกับยาเสพติด ภายหลังจากอนัน พ้นโทษจากการถูกจับกุมและควบคุมตัวจากเหตุดังกล่าวก็ได้ดำเนินการร้องเรียนต่อสำนักงานและหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อขอความยุติธรรมให้กับตน จากเหตุการณ์ที่ตนถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส นอกจากนี้มารดาอนัน ได้เบิกความต่อศาลระบุรายชื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปรากฏในบันทึกการจับกุม เพื่อเป็นหลักฐานที่แสดงว่าการตายของอนัน ซึ่งสภาพศพมีร่องรอยถูกทำร้ายอย่างหนัก มีเหตุมาจากความโกรธแค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมและควบคุมตัวไปสอบสวน เนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบสวนชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ที่จับกุมและควบคุมตัวอนัน ผู้ตาย เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2558 มีจำนวน 2 นาย เป็นคนเดียวกันกับชุดที่ทำร้ายร่างกายอนัน เมื่อปี พ.ศ. 2554 และถูกอนัน ร้องเรียนต่อหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อขอความเป็นธรรมและดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าว

น้องสาวของอนันทั้งสองคนเป็นพยานเบิกความในทำนองเดียวกันอีกว่า พวกตนได้ทราบว่า อนัน ผู้ตาย ถูกจับกุมและควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย. 2558 โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนายหนึ่งโทรศัพท์มาแจ้งน้องสาวอนัน และเมื่อได้ทราบข่าว น้องสาวคนหนึ่งของ อนัน ได้ไปเยี่ยม อนัน ณ สถานที่ควบคุมตัว แต่ได้พูดคุยโดยตรงกับอนัน เพียงไม่กี่คำ เพราะส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ควบคุมตัวอนันอยู่หลายคนนั้นเป็นคนพูดให้ฟังในเรื่องสาเหตุการจับกุมอนัน สำหรับสถานที่ควบคุมตัวอนัน นั้น มีลักษณะเป็นบ้านพักข้าราชการตำรวจ และน้องสาวอนันพยายามขอประกันตัวอนันออกมา แต่ได้รับการปฏิเสธ และเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าหากอนันช่วยให้ตำรวจขยายผลไปถึงคนขายยาเสพติดให้อนัน ก็จะเป็นเหตุให้ลดโทษได้

น้องสาวอนัน สังเกตเห็นความผิดปกติของพี่ชายว่า อนัน พูดน้อยมากและเมื่อจะพูดอะไรก็ต้องหันไปดูเจ้าหน้าที่ตำรวจในลักษณะกังวลและหวาดกลัวมาก เห็นอนัน ได้รับบาดเจ็บปากแตกเล็กน้อย

ต่อมาเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2558 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรแจ้งน้องสาวอนัน ว่า อนัน ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา น้องสาวทั้งสองคนของอนัน จึงไปเยี่ยมพี่ชายในวันดังกล่าวทันที และเห็นว่าตามเนื้อตัวร่างกายของพี่ชายตนนั้นปรากฎรอยฟกช้ำและบาดแผลทั่วทั้งร่างกาย เปลือกตาของอนัน บวมช้ำมาก และนัยน์ตาแดงมาก จนทำให้อนัน ไม่สามารถลืมตาได้ ไม่รู้สึกตัว ต้องใช้เครื่องหายใจ น้องสาวอนัน ได้โทรศัพท์แจ้งให้มารดาซึ่งอยู่ที่จังหวัดชลบุรีทราบ

ต่อมาเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2558 มารดาของอนัน ได้เดินทางจากจังหวัดชลบุรีมายังโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา มาเยี่ยมอนัน บุตรชายของตน ซึ่งเมื่อตนได้เห็นสภาพของบุตรชายก็คิดว่าบุตรชายของตนน่าจะถูกทำร้ายร่างกาย แพทย์เจ้าของไข้อนัน ได้พูดคุยกับมารดาอนัน ว่า อนันไม่อาจมีชีวิตรอดต่อไปได้ เนื่องจากศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงจนมีเลือดคั่งในสมอง ต่อให้มีการผ่าตัดก็ไม่อาจช่วยให้อนัน กลับมาได้เหมือนเดิม ต่อมาเมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2558 เวลาประมาณ 11.00 น. อนัน ได้เสียชีวิตลง ภายหลังจากที่อนัน เสียชีวิต พยานทั้งสามเบิกความว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ติดต่อกับครอบครัว มอบเงินช่วยเหลือค่าปลงศพจำนวน 10,000 บาท และติดต่อนัดหมายให้มารดากับน้องสาวอนัน ไปพบถึง 3 ครั้ง เพื่อเจรจา โดยจะขอมอบเงินจำนวนหนึ่งให้กับครอบครัวและให้ครอบครัวเซ็นชื่อในหนังสือแสดงเจตนาว่าไม่ติดใจเอาความกับตนและพวกที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของอนัน แต่ครอบครัวอนัน ไม่ตกลงยินยอมตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเสนอ และต่อมาบิดามารดาอนันได้ยื่นฟ้องคดีแพ่ง เรียกค่าเสียหายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลแพ่งกรุงเทพใต้

เมื่อพยานทั้งสามเบิกความตอบคำถามทนายมารดาผู้ตาย (ผู้ร้องคัดค้าน) จนแล้วเสร็จเป็นการไต่สวนหรือสืบพยานในคดีครบถ้วนแล้ว ผู้พิพากษาศาลจังหวัดนครราชสีมาจึงได้กำหนดวัน นัดอ่านคำสั่งคดีดังกล่าว ในวันที่ 27 ก.ค. 2560 เวลา 13.30น.

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.