สหรัฐกับเกาหลีใต้มีจุดยืนที่แตกต่างในด้านนโยบายความมั่นคงและการค้า

ผู้นำสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ มีกำหนดจะประชุมสุดยอดที่กรุงวอชิงตันในวันพุธที่ 28 มิถุนายนนี้

และถึงแม้ทั้งสองประเทศจะเห็นว่าจำเป็นจะต้องยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือก็ตาม แต่ก็ยังมีวิธีการเพื่อบรรลุเป้าหมายที่แตกต่างกัน

กล่าวคือขณะที่สหรัฐฯ มุ่งเน้นมาตรการระยะสั้นเพื่อป้องกันเกาหลีเหนือไม่ให้พัฒนาจรวดขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ข้ามทวีป และอาจตัดสินใจใช้กำลังทหารเข้าโจมตีที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

แต่ผู้นำเกาหลีใต้กลับมองว่าควรสร้างความสมดุลในเรื่องมาตรการยับยั้งหน่วงเหนี่ยวทางทหารและมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจ กับการเจรจาหารือและการเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับรัฐบาลกรุงเปียงยาง เพื่อลดความตึงเครียดในระยะยาว

การประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐกับเกาหลีใต้อาจสร้างรอยร้าวในความสัมพันธ์


​โดยประธานาธิบดีมูน แจ อิน ของเกาหลีใต้ มองว่านายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือนั้น ต้องการที่จะเจรจา และวิธีเดียวที่จะทราบคำตอบได้คือการเริ่มพูดคุยกับเกาหลีเหนือ ทั้งยังแสดงความกังวลว่าเกาหลีเหนืออาจตอบโต้หากถูกสหรัฐฯ โจมตี และเรื่องนี้ก็จะทำให้ชาวเกาหลีใต้นับล้านคนต้องตกอยู่ในอันตราย

ในด้านเศรษฐกิจและการค้า ประธานาธิบดีทรัมป์เคยขู่ว่าจะยกเลิกข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ ซึ่งทำให้สหรัฐฯ เสียเปรียบดุลการค้าสองหมื่นเจ็ดพันล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม คาดว่าผู้นำเกาหลีใต้คงจะให้เหตุผลว่าบริษัทต่างๆ ของเกาหลีใต้ได้ลงทุนและจ้างงานในสหรัฐฯ กว่า 45,000 ตำแหน่ง รวมทั้งช่วยสร้างผลผลิตทางเศรษฐกิจราว 138,000 ล้านดอลลาร์ด้วย

แต่ไม่ว่าผลการหารือระหว่างผู้นำของสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้จะเป็นอย่างไร การพบปะดังกล่าวก็กำลังถูกจับตามองในเอเชีย

เพราะประธานาธิบดีทรัมป์ได้เคยต้อนรับผู้นำของจีนกับญี่ปุ่นที่รีสอร์ทส่วนตัว Mar-a-Lago ของตนในรัฐฟลอริด้า ในขณะที่การพบปะกับผู้นำเกาหลีใต้ครั้งนี้จะมีขึ้นที่ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน

source :- http://rferl.c.goolara.net/Click.aspx?id=066992651906517579

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.