U.S. Fed Chair Janet Yellen speaks during a discussion with Lord Nicholas Stern, President of the British Academy, at Carlton House Terrace of the Britsih Academy in London, June 27, 2017.

IMF หั่นเป้า GDP สหรัฐฯ โตแค่ 2.1%

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯในปีนี้ จะเติบโตเพียง 2.1 เปอร์เซนต์ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ

IMF ระบุว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ 2.1 เปอร์เซนต์ ถือว่าสูงขึ้นกว่าปีก่อน แต่ต่ำกว่าที่ IMF คาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้ และต่ำกว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ให้คำมั่นในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ว่าจะทำให้เศรษฐกิจอเมริกันเติบโตได้ถึง 3 เปอร์เซนต์ด้วย

ปัจจัยที่ IMF นำมาประเมินการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ คือ นโยบายลดภาษี การผ่อนคลายกฏระเบียบในการประกอบธุรกิจและการค้า รวมทั้งการอัดฉีดงบประมาณเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่อุปสรรคในการขยายตัวของเศรษฐกิจอเมริกา คือ การเติบโตของเศรษฐกิจภายใต้ผลิตภาพแรงงานที่ต่ำ การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีที่กระทบกับตลาดแรงงาน และสังคมผู้สูงอายุ
ที่ผ่านมา เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวขึ้นจากช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำถึง 12 เปอร์เซนต์ รวมทั้งตลาดแรงงานค่อนข้างแข็งแกร่ง ทว่าปัจจุบัน ครึ่งหนึ่งของภาคครัวเรือนสหรัฐฯ มีรายได้ครัวเรือนต่ำกว่าช่วงปี 2000 เสียอีก

ประธาน FED มั่นใจจะไม่มีวิกฤตการเงินเกิดขึ้นอีกแล้ว

ประธานระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด นางเจเน็ต เยลเลน เปิดเผยระหว่างกล่าวปาฐกถาที่ British Academy ในกรุงลอนดอนว่า ภาคการเงินมีความปลอดภัยมากขึ้นจากการปฏิรูปภาคธนาคาร หลังวิกฤตการเงินเมื่อปี 2008 และเชื่อมั่นว่าจะไม่มีปรากฏการณ์เช่นนั้นอีกในช่วงอายุของเธอ

ประธานเฟด บอกด้วยว่า กฏระเบียบที่ซับซ้อนทำให้ภาคธนาคารต้องถือเงินสำรองภายในเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากหนี้เสีย ขณะที่ผู้ดูแลภาคธนาคารก็พัฒนาการค้นหาความเสี่ยงต่อเสถียรภาพการเงินได้ดีกว่าช่วงวิกฤตสินเชื่อซับไพรม์เมื่อปี 2008

source :- http://rferl.c.goolara.net/Click.aspx?id=066992754100911570

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.