Posted: 26 Jun 2017 11:05 PM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

ศาลอุทธรณ์ ยกฟ้อง 'มือปืนป็อปคอร์น' คดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ ศึกชิงคูหาเลือกตั้งปี 57 ระบุหลักฐานไม่อาจยืนยันได้ มีเพียงภาพจากสื่อมวลชน โดยไม่มีพยานบุคคลมาเบิกความยืนยัน และคำรับสารภาพ แต่ยังมีข้อพิรุธ ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย แต่ให้ขังจำเลยไว้ระหว่างฎีกา



แฟ้มภาพ

27 มิ.ย. 2560 เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (27 มิ.ย.60) ที่ห้องพิจารณาคดี 713 ศาลอาญาถนนรัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีฆ่าผู้อื่นหมายเลขดำที่ อ.1626/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ฟ้อง วิวัฒน์ หรือท็อป ยอดประสิทธิ์ มือปืนป็อปคอร์น อายุ 25 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและนำอาวุธปืนออกนอกเคหะสถาน ภายในพื้นที่ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ขอให้ลงโทษตามป.อาญา มาตรา 288, 371, พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา ม.4, 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ. 2548 ม.5, 6, 11, และ 18

สำหรับคดีนี้ ศาลชั้นต้นพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างกันแล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษาจำคุกตลอดชีวิต คำให้การชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาบ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยไว้ 37 ปี 4 เดือน

ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์ ซึ่ง ศาลอุทธรณ์ ตรวจสำนวน ประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุยิงใส่ผู้ชุมนุม และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบชายแต่งกายด้วยชุดดำสวมหมวกไหมพรม จากนั้นนำภาพมาเปรียบเทียบกับจำเลย หลักฐานดังกล่าวจึงไม่อาจยืนยันได้ว่าภาพจากกล้องวงจรปิด และตัวจำเลยนั้น เป็นบุคคลเดียวกัน ซึ่งมีเพียงภาพจากสื่อมวลชน โดยไม่มีพยานบุคคลมาเบิกความยืนยัน และคำให้การของจำเลยที่ให้การรับสารภาพ แต่ยังมีข้อพิรุธ เคลือบแคลงน่าสงสัย จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์ ไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์จำเลยฟังขึ้น พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง แต่ให้ขังจำเลยไว้ระหว่างฎีกา

หลังฟังคำพิพากษา วิวัฒน์ กล่าวสั้นๆ ว่ารู้สึกดีใจมามากจนพูดอะไรไม่ออก

สำหรับคดีนี้อัยการโจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2557 สรุปความผิดจำเลยว่า เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2557 เวลากลางวัน จำเลยกับพวกได้มีปืนเล็กยาวไม่ทราบชนิดและขนาดติดตัวไปที่ทางแยกหลักสี่ เขตหลักสี่ พื้นที่ประกาศให้เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และยิงปืนเข้าไปในอาคารศูนย์การค้าไอทีสแควร์ จน อะแกว แซ่ลิ้ว เสียชีวิต ส่วน สมบุญ สักทอง นครินทร์ อุตสาหะ และพยนต์ คงปรางค์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย เหตุเกิดที่แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. จำเลยให้การปฏิเสธ


ภาพบางส่วนที่ถูกใช้เป็นหลักฐานในการจับกุม จากเพจ Policespokesmen

ขณะที่ พวงทิพย์ บุญสนอง ทนายความจำเลย กล่าวภายหลังศาลอุทธรณ์ยกฟ้องคดีมือปืนป็อปคอร์นว่า หลังจากนี้เตรียมที่จะยื่นขอประกันตัวนายวิวัฒน์จำเลย ซึ่งจากการประเมินเบื้องต้นคาดว่าการประกันตัวจะต้องใช้หลักทรัพย์3.7 ล้านบาท ซึ่งแม้ตอนนี้เรายังไม่มีหลักทรัพย์แต่เชื่อว่ามีคนที่พร้อมจะช่วย หากอัยการโจทก์ยื่นฎีกาก็เตรียมที่จะแก้ฎีกา แต่หากอัยการไม่ยื่นฎีกาตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด คดีก็จะถึงสุดตามที่ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง

เมื่อถามว่าผลคำพิพากษาเกินความคาดหมายหรือไม่ พวงทิพย์ กล่าวว่าเราทราบอยู่แล้วว่าข้อเท็จจริงคดีนี้เป็นอย่างไรและมีพยานหลักฐานอะไรบ้าง ซึ่งอาวุธปืนที่ทำให้มีคนบาดเจ็บเป็นปืนกระบอกอื่น

วิดีโอคลิป วิวัฒน์ ยอดประเสริฐ มือปืนป๊อบคอร์น ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวไทย หลังถูกจับกุม เป็นส่วนหนึ่งในสกู๊ป TNA SPECIAL ตอน มือปืนป๊อบคอร์น เหยื่อเกมการเมือง นี่เป็นเทปฉบับเต็มของการสัมภาษณ์ครั้งนั้­น ความยาว 16 นาที


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.